งาบชัดจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ดีเอสไอชง ป.ป.ช.ฟันบิ๊กกรมพละ

ASTVผู่จัดการ - “ดีเอสไอ” ชงเรื่องทุจริตจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของกรมพลศึกษาให้ ป.ป.ช.ฟันข้าราชการระดับสูงเอี่ยวเอี่ยวทุจริตหรือไม่ ระบุชัดไม่คุ้มกับงบฯ ไม่ได้สำรวจความต้องการของหน่วยงาน-แพงเกินจริง

วันนี้ (18 พ.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีที่นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ มอบหมายให้สำนักคดีความมั่นคง ทำการสืบสวนการจัดซื้อครุภัณฑ์เครื่องออกกำลังกายและเครื่องนันทนาการของกรมพลศึกษา ตามสัญญาซื้อขายที่ ซ.37/2556 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2556 ระหว่างกรมพลศึกษา ผู้ซื้อ และบริษัท ซันสปอร์ตส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ขาย ประกอบด้วยครุภัณฑ์จำนวน 30 รายการ งบประมาณ 45,850,000 บาท ว่า การจัดซื้อครุภัณฑ์ดังกล่าวไม่มีความคุ้มค่าต่อการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ เนื่องจากก่อนที่จะอนุมัติโครงการไม่เคยมีการสำรวจความต้องการของหน่วยงาน หรือชุมชนในพื้นที่ที่จะได้รับมอบครุภัณฑ์ซึ่งไม่มีความเหมาะสมและสมประโยชน์ต่อผู้ใช้ครุภัณฑ์ อีกทั้งสถานที่ติดตั้งเครื่องออกกำลังกายส่วนใหญ่เป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนระดับชั้นอนุบาล และประถมศึกษา ที่โดยสรีระร่างกายแล้วไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้เล่นได้ นอกจากนี้ยังพบว่าการจัดซื้อมีความซ้ำซ้อนกับหน่วยงานบางแห่งที่ได้รับครุภัณฑ์เคยจัดซื้อครุภัณฑ์ลักษณะเดียวกันในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน

พ.ต.ท.พงษ์อินทร์กล่าวต่อว่า ครุภัณฑ์ดังกล่าวมีการจัดซื้อในราคาแพงเกินกว่าความเป็นจริง เนื่องจากคณะกรรมการร่าง TOR ของกรมพลศึกษาได้ร่างรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะและกำหนดราคาโดยอาศัยข้อมูลจาก TOR เดิมที่เคยจัดซื้อครุภัณฑ์ ในประเภท และลักษณะเดียวกันกับบริษัท ซันสปอร์ตฯ เมื่อปี พ.ศ. 2555 แต่เมื่อเปรียบเทียบราคาสินค้าที่บริษัท ซันสปอร์ตส์ฯ ขายให้กับกรมพลศึกษา กับราคาสินค้าที่บริษัท ซันสปอร์ตส์ฯ นำเข้าตามที่ปรากฏในใบขนสินค้าขาเข้า พบว่าสินค้าหลายรายการ เช่น ชุดป้อมปืนใหญ่สไลเดอร์ บาร์ยาว-บาร์สั้น เครื่องฝึกกล้ามเนื้ออก เครื่องฝึกกล้ามเนื้อต้นขา เครื่องฝึกกล้ามเนื้อปีกและหลัง เครื่องฝึกกล้ามเนื้ออเนกประสงค์ที่ขายให้กรมพลศึกษา มีราคาแพงกว่าราคาที่นำเข้าประมาณ 9-10 เท่า

อย่างไรก็ตาม ในเอกสารการประกวดราคาของกรมพลศึกษามีการตั้งชื่อเครื่องเล่นชนิดหนึ่งโดยระบุใน TOR ว่าชุดป้อมปืนใหญ่สไลเดอร์ ซึ่งตรงกันกับชื่อเครื่องเล่นที่บริษัท ซันสปอร์ตส์ฯ มีขายอยู่แล้ว ทั้งที่ควรจะมีการตั้งชื่อที่เป็นกลางไม่ระบุยี่ห้อ หรือคุณลักษณะพิเศษที่จะทำให้บริษัทใดบริษัทหนึ่งได้เปรียบ และยังพบว่าบริษัท ซันสปอร์ตฯ ได้มีการจ่ายเงินค่าสินค้าให้แก่บริษัทผู้ผลิตสินค้าในต่างประเทศทั้งก่อนการประกาศประกวดราคา และก่อนที่จะมีการประกาศผลผู้ชนะการประกวดราคา ซึ่งอาจมีเจ้าหน้าที่กรมพลศึกษากระทำการใดๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัท ซันสปอร์ตส์ฯ ในการเสนอราคา นอกจากนี้ยังพบว่าไม่มีการจัดทำบัญชีครุภัณฑ์ที่จัดซื้อไว้ให้ถูกต้องตามระเบียบ และมีบางหน่วยงานยังไม่ได้รับมอบครุภัณฑ์ทั้งที่ลงนามในใบรับมอบครุภัณฑ์แล้ว ส่วนกรณีการตรวจสอบการเสียภาษีนิติบุคคลของบริษัท ซัน สปอร์ตส์ฯ ว่าดำเนินการถูกต้องหรือไม่นั้น ดีเอสไอได้ส่งเรื่องให้กรมสรรพากรตรวจแล้ว นอกจากนี้ ดีเอสไออยู่ระหว่างการสืบสวนการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายและเครื่องนันทนาการของกรมพลศึกษา และกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในสัญญาซื้อขายอื่นๆ

“พฤติการณ์ดังกล่าวข้างต้นอาจเข้าข่ายความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดฐาน โดยทุจริตทำการออกแบบ กำหนดราคา กำหนดเงื่อนไข อันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาเพื่อช่วยเหลือผู้เสนอราคารายใดให้มีสิทธิเข้าทำสัญญาโดยไม่เป็นธรรม และกระทำการใดๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับ การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 ดีเอสไอจึงได้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป และส่งข้อมูลให้ ศอตช. พิจารณาดำเนินการ” พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมากระทั่งปัจจุบัน ดีเอสไอได้รับสำนวนร้องทุกข์จากประชาชนไว้พิจารณาจำนวน 351 เรื่อง และได้รับเรื่องร้องเรียน ปรึกษากฎหมาย ผ่านช่องทางอื่น เช่น โทรศัพท์สายด่วน เว็บไซต์ หรือเดินทางมาที่ศูนย์รับเรื่องโดยตรงอีกจำนวน 993 เรื่อง โดยเรื่องที่มาร้องเรียนร้อยละ 35 เป็นเรื่องทุจริตในภาครัฐ ร้อยละ 30 เป็นเรื่องการฉ้อโกงประชาชน รวมทั้งแชร์ลูกโซ่