โรงแรมกะรนโอดเดือดร้อน! ทัวร์จีนไม่เข้า หนีร้านที่นอนยางพาราขายตัดราคา

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เชิญหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนหารือแก้ปัญหาความเดือดร้อนผู้ประกอบการโรงแรมกะรน หลังทัวร์จีนไม่เข้าพัก จากร้านขายที่นอน และหมอนยางพาราเปิดขายตัดราคาอยู่หน้าโรงแรม ทำบริษัททัวร์จีนเสียผลประโยชน์นำนักท่องเที่ยวหนีไปพักโรงแรมไกลแหล่งชอปปิ้ง ได้ข้อสรุปจัดทำราคากลางขายเหมือนกันทุกร้าน พร้อมส่งเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจร้านที่ฝ่าฝืน ทำภูเก็ตเสียภาพลักษณ์

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (4 มิ.ย.) นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมความเดือดร้อนของผู้ประกอบการในพื้นที่ตำบลกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีนายสันติ ป่าหวาย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต นายกฤษฎา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ นายสมชาติ ใจบรรเจิด ประธานชมรมผู้ประกอบการทัวร์จีน ผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่กะรน บริษัททัวร์จีน ร้านจำหน่ายที่นอน หมอน ยางพารา ตำรวจท่องเที่ยว หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่กะรน ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากที่บริษัททัวร์จีนไม่ส่งนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าพักภายในโรงแรม เนื่องจากร้านค้าที่จำหน่ายที่นอน หมอน ยางพารา เปิดให้บริการอยู่หน้าโรงแรม ขายสินค้าดังกล่าวในราคาที่ต่ำกว่าร้านที่ทางบริษัทนำนักท่องเที่ยวชาวจีนไปชอปปิ้ง ทำให้บริษัททัวร์จีนได้รับความเสียหาย จากการที่นักท่องเที่ยวจีนร้องเรียน และคืนสินค้าที่ซื้อมาจากร้านที่บริษัททัวร์นำไปชอปปิ้ง หลังจากนักท่องเที่ยวได้ไปเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าที่เปิดขายอยู่หน้าโรงแรมต่างๆ ในพื้นที่หาดกะรน ทำให้บริษัททัวร์จีนไม่ส่งนักท่องเที่ยวเข้าพักในโรงแรมที่ร้านค้าจำหน่ายสินดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่กะรนที่อยู่ใจกลางแหล่งชอปปิ้งเป็นอย่างมาก จึงได้ร้องเรียนมายังสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต

นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ทางจังหวัดภูเก็ตต้องการที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวให้หมดไป เพราะมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายให้แก่ผู้ประกอบการหลายฝ่าย ทั้งในส่วนของโรงแรมที่ไม่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้าพัก บริษัททัวร์จีนได้รับความเสียหายถูกนักท่องเที่ยวร้องเรียน และคืนสินค้า ในขณะที่ร้านค้าที่ตั้งอยู่หน้าโรงแรมเองเมื่อไม่มีการส่งนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาพักโรงแรมก็ไม่มีนักท่องเที่ยวจีนมาจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าเช่นกัน และที่สำคัญผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ต จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งภาครัฐ และเอกชนมาหารือ และหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน หากปล่อยไว้ปัญหาก็จะลุกลามไปทั่วทั้งจังหวัด และเท่าที่ทราบขณะนี้ร้านค้าดังกล่าวได้ไปเปิดให้บริการที่หาดป่าตองแล้วด้วยเช่นกัน และต่อไปก็คงขยายเข้ามาในเมือง เมื่อร้านดังกล่าวไปเปิดทัวร์จีนก็จะย้ายนักท่องเที่ยวหนีไปโรงแรมที่อยู่ห่างไกลแหล่งชอปปิ้งดังกล่าว ปัญหาก็จะเกิดขึ้นทั้งจังหวัดภูเก็ต

อย่างไรก็ตาม ตนอยากที่จะให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องได้ตระหนักถึงปัญหาที่จะตามมา และคาดว่าในปีนี้นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้ามาภูเก็ตไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน จึงไม่อยากให้นักท่องเที่ยวจีนได้ซื้อสินค้าในราคาที่ยุติธรรม สมเหตุสมผล ไม่ต้องการให้มีการขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวจีนในราคาที่สูงเกินความเป็นจริง หรือที่เรียกว่านำนักท่องเที่ยวมาฟัน เพราะสิ่งเหล่านี้สร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ต จึงอยากเสนอให้มีการจัดทำราคากลางของการขายที่นอน และหมอนจากยางพารา เพื่อให้ทุกร้านขายสินค้าในราคาเดียวกันทั้งหมด ที่ทางร้านค้ายังมีกำไร แก้ปัญหาการขายสินค้าตัดราคากัน ปัญหาดังกล่าวจะได้หมดไป

โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้มอบหมายให้ท่องเที่ยวและกีฬา หารือร่วมกับตัวแทนจากสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ชมรมผู้ประกอบการทัวร์จีน ผู้ประกอบการร้านค้าที่นอนและหมอนยางพารา พาณิชย์ การค้าภายใน รวมไปถึงผู้ผลิต และจำหน่ายที่นอนและหมอนยางพารารายใหญ่ ในการกำหนดราคากลางขึ้นมาขายเหมือนกันทั้งจังหวัด หลังจากนั้น ทางพาณิชย์ก็จะเข้าไปควบคุมในเรื่องของการติดป้ายแสดงราคา และลงพื้นที่สุ่มตรวจว่ายังมีร้านไหนขายสินค้าดังกล่าวตัดราคาอีกหรือไม่ ซึ่งทุกฝ่ายก็เห็นด้วยต่อมาตรการดังกล่าว

นายสมชาติ ใจบรรเจิด ประธานชมรมผู้ประกอบการทัวร์จีน และเจ้าของบริษัท คลาสิก เอ็กซ์เพรส จำกัด หนึ่งในผู้ประกอบการทัวร์จีนในภูเก็ต กล่าวว่า ปัญหาที่บริษัททัวร์จีนไม่ส่งแขกเข้าไปพักในโรงแรมที่อยู่ในย่านชอปปิ้ง และมีร้านที่นอน หมอน ยางพารา เปิดขายอยู่ด้านหน้าโรงแรม เพราะทำให้บริษัททัวร์จีนเสียผลประโยชน์ เนื่องจากร้านค้าดังกล่าวขายสินค้าประเภทที่นอน และหมอนยางพารา ในราคาที่ต่ำกว่าร้านที่ทางบริษัททัวร์นำนักท่องเที่ยวไปชอปปิ้งมาก รวมทั้งยังให้ข้อมูลด้านลบต่อบริษัททัวร์จีนในทางที่เสียหายอีกด้วย เช่น ร้านที่นำไปชอปปิ้งนั้นสินค้าราคาสูง แต่ไม่มีคุณภาพ เพราะร้านค้าเหล่านั้นต้องจ่ายค่าคอมมิชชันให้แก่บริษัททัวร์จีน ทำให้นักท่องเที่ยวร้องเรียนบริษัท และคืนสินค้าที่ซื้อไป รวมทั้งให้ร้ายไกด์ที่นำนักท่องเที่ยวไปชอปปิ้ง และทำร้ายร่างกายไกด์ก็มี บางร้านค้าขายสินค้าได้กำไร 100-200 บาทก็ขายแล้ว ทั้งที่ร้านที่บริษัททัวร์นำไปชอปปิ้งนั้นเป็นร้านที่สินค้ามีคุณภาพ มีใบรับประกันสินค้าอีกด้วย

นายสมชาติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้บริษัททัวร์จีนในภูเก็ตอยากที่จะส่งทัวร์จีนเข้าไปพักที่หาดกะตะ กะรน เพราะเป็นหาดที่สวยงาม และโรงแรมหรู แต่เพราะปัญหาดังกล่าวจึงต้องเลือกส่งนักท่องเที่ยวไปพักในโรงแรมที่ไม่อยู่ในแหล่งชอปปิ้ง และไม่มีร้านที่นอน และหมอนยางพารา รวมทั้งได้ส่งไปพักตามโรงแรมที่หาดราไวย์ และหาดในยาง เป็นต้น โดยส่วนตัวแล้วเห็นด้วยที่จะมีการกำหนดราคากลางที่นอน หมอนยางพารา แต่ในทางปฏิบัติไม่มั่นใจว่าจะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้จริงหรือไม่ และมั่นใจว่าในปีนี้นักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาภูเก็ตไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน