ศูนย์ข่าวภูเก็ต - แขวงทางหลวงภูเก็ต พร้อมเพิ่มความเข้ม ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยระหว่างก่อสร้างปรับปรุงถนน หลังเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ตกลงไปข้างทางพังเสียหายทั้งคัน
นายสมัคร เลือดวงหัด แขวงทางหลวงภูเก็ต กล่าวว่า กรณีการสร้างความเชื่อมั่นในการใช้เส้นทางสัญจรในช่วงการก่อสร้างโครงการทางลอดสามแยกโลตัส ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (บายพาส) หลังเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ตกลงไปข้างทางพังเสียหายทั้งคัน ว่า โดยหลักพื้นฐานแล้วก่อนที่จะมีการก่อสร้างนั้นทางผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นสำนักทางหลวง หรือแขวงการทาง จะมีมาตรการขอพื้นที่ก่อสร้าง และพื้นผิวการจราจร ซึ่งมีการแบ่งแยกกันชัดเจน และก่อนถึงบริเวณพื้นที่ก่อสร้างจะมีป้ายเตือนในระยะ 1 กิโลเมตร 500 เมตร และ 300 เมตร จนเข้าสู่พื้นที่ก่อสร้าง ซึ่งเป็นมาตรการที่ผู้รับเหมาจะต้องดำเนินการหลังจากที่ได้รับมอบพื้นที่ก่อสร้างไปแล้ว โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ จะมีการกำหนดรายละเอียดมาตรการ การอำนวยความปลอดภัยไว้อย่างชัดเจน และผู้รับเหมาสามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้
“ในส่วนมาตรการอำนวยความปลอดภัยนั้น ก่อนที่จะมีการเปิดพื้นที่ก่อสร้าง จะมีการติดตั้งเครื่องอำนวยความปลอดภัยต่างๆ เช่น แบริเออร์กั้นเขตทางกับเขตก่อสร้าง การติดตั้งแผงเหล็ก การติดตั้งสัญญาณไฟ เป็นต้น โดยจะต้องมีการตรวจสอบสม่ำเสมอว่าอุปกรณ์ดังกล่าวยังสมบูรณ์อยู่หรือไม่ และที่ผ่านมา ทางกรมฯ และแขวงการทางก็ได้มีการเน้นย้ำต่อผู้รับเหมามาโดยตลอด เพื่อลดปัญหาการใช้รถใช้ถนนระหว่างผู้ใช้รถใช้ถนนกับพื้นที่การก่อสร้าง เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด และจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ได้สั่งกำชับไปยังผู้รับเหมาให้ดำเนินการให้เรียบร้อย ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีการเพิ่มในส่วนของสัญญาณไฟให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น”
นายสมัคร กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น กรมทางหลวงในฐานะเจ้าของโครงการก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ระดับไหนอย่างไรก็จะมีกระบวนการในการดำเนินการตามขั้นตอน ในทางปฏิบัติเมื่อมีการส่งมอบพื้นที่ให้แก่ผู้รับเหมาแล้ว พื้นที่จะอยู่ในความรับผิดชอบของผู้รับเหมาด้วย ภายใต้การควบคุมดูแลของกรมทางหลวง จากการตรวจสอบยืนยันว่า ในช่วงแรกของการดำเนินการอุปกรณ์สิ่งอำนวยความปลอดภัยมีแน่นอน แต่ระหว่างการก่อสร้างเนื่องจากมีการใช้งานมานานก็อาจจะมีการชำรุด ซึ่งต้องพิสูจน์ว่าเป็นอย่างไร และว่ากันไปตามกระบวนการ
“ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่โชคดี เมื่อมีการก่อสร้างใดๆ เกิดขึ้นจะช่วยกันดูแล และถูกตรวจสอบในเวลารวดเร็ว ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่รับผิดชอบทราบก็จะทำให้สามารถแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นได้รวดเร็วเช่นกัน ล่าสุด หลังจากที่ได้สั่งการให้ผู้รับเหมาติดตั้งสัญญาณไฟเตือนให้ชัดเจน แต่ได้รับแจ้งจากทาง สภ.วิชิต ว่า มีบางส่วนที่ไฟไม่ติด ซึ่งได้แจ้งไปยังผู้รับเหมาให้ดำเนินการแก้ไขแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันให้ข้อมูล เพื่อจะได้ตรวจสอบหาสาเหตุ และหาแนวทางแก้ไขเพื่อลดปัญหาที่จะเกิดตามมา โดยเฉพาะเรื่องของอุบัติเหตุ”
กับคำถามที่ว่า ขณะนี้ในจังหวัดภูเก็ต จะมีโครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนสายหลักอีกหลายโครงการ จะมีการเข้มงวดเรื่องของอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยหรือไม่อย่างไรนั้น นายสมัคร กล่าวว่า ในการทำโครงการใหม่นั้นเราจะนำบทเรียนที่ได้รับจากโครงการที่ผ่านมาแจ้งให้ผู้รับเหมารับทราบ เพื่อจะได้ดำเนินการป้องกันตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ หรือเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนให้ได้มากที่สุด
นายสมัคร เลือดวงหัด แขวงทางหลวงภูเก็ต กล่าวว่า กรณีการสร้างความเชื่อมั่นในการใช้เส้นทางสัญจรในช่วงการก่อสร้างโครงการทางลอดสามแยกโลตัส ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (บายพาส) หลังเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ตกลงไปข้างทางพังเสียหายทั้งคัน ว่า โดยหลักพื้นฐานแล้วก่อนที่จะมีการก่อสร้างนั้นทางผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นสำนักทางหลวง หรือแขวงการทาง จะมีมาตรการขอพื้นที่ก่อสร้าง และพื้นผิวการจราจร ซึ่งมีการแบ่งแยกกันชัดเจน และก่อนถึงบริเวณพื้นที่ก่อสร้างจะมีป้ายเตือนในระยะ 1 กิโลเมตร 500 เมตร และ 300 เมตร จนเข้าสู่พื้นที่ก่อสร้าง ซึ่งเป็นมาตรการที่ผู้รับเหมาจะต้องดำเนินการหลังจากที่ได้รับมอบพื้นที่ก่อสร้างไปแล้ว โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ จะมีการกำหนดรายละเอียดมาตรการ การอำนวยความปลอดภัยไว้อย่างชัดเจน และผู้รับเหมาสามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้
“ในส่วนมาตรการอำนวยความปลอดภัยนั้น ก่อนที่จะมีการเปิดพื้นที่ก่อสร้าง จะมีการติดตั้งเครื่องอำนวยความปลอดภัยต่างๆ เช่น แบริเออร์กั้นเขตทางกับเขตก่อสร้าง การติดตั้งแผงเหล็ก การติดตั้งสัญญาณไฟ เป็นต้น โดยจะต้องมีการตรวจสอบสม่ำเสมอว่าอุปกรณ์ดังกล่าวยังสมบูรณ์อยู่หรือไม่ และที่ผ่านมา ทางกรมฯ และแขวงการทางก็ได้มีการเน้นย้ำต่อผู้รับเหมามาโดยตลอด เพื่อลดปัญหาการใช้รถใช้ถนนระหว่างผู้ใช้รถใช้ถนนกับพื้นที่การก่อสร้าง เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด และจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ได้สั่งกำชับไปยังผู้รับเหมาให้ดำเนินการให้เรียบร้อย ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีการเพิ่มในส่วนของสัญญาณไฟให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น”
นายสมัคร กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น กรมทางหลวงในฐานะเจ้าของโครงการก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ระดับไหนอย่างไรก็จะมีกระบวนการในการดำเนินการตามขั้นตอน ในทางปฏิบัติเมื่อมีการส่งมอบพื้นที่ให้แก่ผู้รับเหมาแล้ว พื้นที่จะอยู่ในความรับผิดชอบของผู้รับเหมาด้วย ภายใต้การควบคุมดูแลของกรมทางหลวง จากการตรวจสอบยืนยันว่า ในช่วงแรกของการดำเนินการอุปกรณ์สิ่งอำนวยความปลอดภัยมีแน่นอน แต่ระหว่างการก่อสร้างเนื่องจากมีการใช้งานมานานก็อาจจะมีการชำรุด ซึ่งต้องพิสูจน์ว่าเป็นอย่างไร และว่ากันไปตามกระบวนการ
“ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่โชคดี เมื่อมีการก่อสร้างใดๆ เกิดขึ้นจะช่วยกันดูแล และถูกตรวจสอบในเวลารวดเร็ว ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่รับผิดชอบทราบก็จะทำให้สามารถแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นได้รวดเร็วเช่นกัน ล่าสุด หลังจากที่ได้สั่งการให้ผู้รับเหมาติดตั้งสัญญาณไฟเตือนให้ชัดเจน แต่ได้รับแจ้งจากทาง สภ.วิชิต ว่า มีบางส่วนที่ไฟไม่ติด ซึ่งได้แจ้งไปยังผู้รับเหมาให้ดำเนินการแก้ไขแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันให้ข้อมูล เพื่อจะได้ตรวจสอบหาสาเหตุ และหาแนวทางแก้ไขเพื่อลดปัญหาที่จะเกิดตามมา โดยเฉพาะเรื่องของอุบัติเหตุ”
กับคำถามที่ว่า ขณะนี้ในจังหวัดภูเก็ต จะมีโครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนสายหลักอีกหลายโครงการ จะมีการเข้มงวดเรื่องของอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยหรือไม่อย่างไรนั้น นายสมัคร กล่าวว่า ในการทำโครงการใหม่นั้นเราจะนำบทเรียนที่ได้รับจากโครงการที่ผ่านมาแจ้งให้ผู้รับเหมารับทราบ เพื่อจะได้ดำเนินการป้องกันตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ หรือเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนให้ได้มากที่สุด
