ลากูน่า เปิด “ซี้ดลิ้งส์ภูเก็ต” ธุรกิจเพื่อสังคมในรูปแบบของร้านอาหารแห่งแรกในไทย

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ลากูน่า ภูเก็ต เปิดตัวโครงการธุรกิจเพื่อสังคมในรูปแบบของร้านอาหารเป็นแห่งแรก “ร้านอาหารซี้ดลิ้งส์” พลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ CSR เปลี่ยนชีวิตเยาวชนท้องถิ่น

เมื่อวานนี้ (16 ก.ค.) นายราวี ชานดราน กรรมการผู้จัดการ ลากูน่า ภูเก็ต เป็นประธานเปิดตัวห้องอาหาร “ซี้ดลิ้งส์ ภูเก็ต” โครงการธุรกิจเพื่อสังคมในรูปแบบร้านอาหารแห่งแรกในเครือลากูน่า ภูเก็ต โดยมี นางแคลร์ เชียง ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มโรงแรมในเครือบันยันทรี และประธานมูลนิธิบันยันทรี โกลบอล ฟาวเดชั่น ผู้จัดการทั่วไป บันยันทรี ภูเก็ต และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม ซึ่งการเปิดร้านอาหารในครั้งนี้เป็นโครงการต่อเนื่องมาจากการเปิดตัวโครงการซี้ดลิ้งส์ ภูเก็ต “บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ ผันเปลี่ยนชีวิต” ให้เยาวชน ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 9 เดือนที่แล้ว มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่เยาวชนท้องถิ่น ผู้ต้องการโอกาสทางสังคม และการศึกษา

สำหรับการเปิดตัวห้องอาหารซี้ดลิ้งส์ ภูเก็ต ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของโครงการฯ ซึ่งประกอบไปด้วยหลักสูตรการอบรมระยะเวลา 18 เดือน แบ่งเป็นการฝึกอบรมวิชาชีพด้านการบริการอาหารและเครื่องดื่ม และการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเชิงลึก และตั้งเป้าหมายเพื่อเปิดดำเนินกิจการธุรกิจเพื่อสังคมในรูปแบบร้านอาหารแห่งแรก ณ ลากูน่า ภูเก็ต ซึ่งเป็นแห่งที่ 2 ภายใต้การกำกับดูแลโดยกลุ่มบันยัน ทรี ประเทศสิงคโปร์ โดยมีโครงการต้นแบบ ณ ลากูน่า ลังโค ประเทศเวียดนาม ภายใต้ชื่อ ซีดลิงค์ ฮอยอัน (Seedlings Hoi An) เปิดดำเนินกิจการเมื่อปี พ.ศ.2556

อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวห้องอาหารซี้ดลิ้งส์ ภูเก็ต ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเปิดตัวห้องอาหารที่ตั้งอยู่ใจกลางลากูน่า ภูเก็ต ณ โรงแรมลากูน่า ฮอลิเดย์ คลับ ภูเก็ต รีสอร์ท ซึ่งเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 06.30 น. ถึงเวลา 22.00 น. บริการอาหารท้องถิ่น อาหารเอเชีย และอาหารนานาชาติ เช่น ยำหัวปลี หมูฮ้อง ซี้ดลิ้งส์เบอร์เกอร์ และซี้ดลิ้งส์พิซซ่า แล้วยังเปิดโอกาสให้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ ซี้ดลิ้งส์ ภูเก็ต “บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ ผันเปลี่ยนชีวิต” รุ่นแรก จำนวน 8 คน ได้ปฏิบัติงานจริงเป็นครั้งแรก ทั้งทำอาหาร และงานบริเวณ พบว่า เยาวชนทั้งหมดสามารถปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดี

นายราวี ชานตราน กรรมการผู้จัดการ ลากูน่า ภูเก็ต กล่าวว่า ซี้ดลิ้งส์ ภูเก็ต เป็นแบบอย่างความร่วมมือของโรงแรม และบริษัทในเครือที่สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่ามากที่สุด คืนกำไรให้แก่ชุมชน และสังคมให้เติบโตอย่างยั่งยืน เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการกับเราต่างก็เผชิญต่อความยากลำบากมามากมาย กว่าจะได้มาร่วมการเดินทางไปกับเราในโครงการนี้ เราหวังว่าโครงการซีดลิ้งค์จะเป็นแบบอย่างของการพัฒนาชุมชน และสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป

ขณะที่ นางแคลร์ เชียง ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มโรงแรมในเครือบันยันทรี และประธานมูลนิธิบันยันทรีโกลบอล ฟาวเดชั่น เผยเบื้องหลังแรงบันดาลใจภายใต้สโลแกน “บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ ผันเปลี่ยนชีวิต” ว่า “กลุ่มลากูน่า และบันยันทรีนั้นมีความพร้อมในด้านทรัพยากร และเรามีเยาวชนท้องถิ่นผู้เปี่ยมด้วยศักยภาพ และต้องการโอกาสทางสังคม และการศึกษาอยู่อีกมาก”

“โครงการซี้ดลิ้งส์ จึงเป็นตัวอย่างในการนำเอาความรู้ความสามารถ และทรัพยากรที่เรามีอยู่ในระดับนานาชาติ มาใช้บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ในท้องถิ่นให้มีโอกาสเจริญเติบโตทั้งในด้านวิชาชีพ ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ให้แก่คนในชุมชนท้องถิ่นในระยะยาว โครงการธุรกิจเพื่อสังคมควรเป็นไปในลักษณะที่ผู้มีทรัพยากรอยู่ในมือให้ความช่วยเหลือ และแบ่งปันให้แก่ผู้ที่ยังต้องการโอกาสในการเข้าถึง และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านั้น ซึ่งโครงการนี้ได้ดำเนินการครั้งแรกที่ ฮอยอัน ประเทศเวียดนาม มาสู่ภูเก็ต ซึ่งถือเป็นแห่งที่ 2 อย่างไรก็ตาม ยังมีแผนที่จะดำเนินการต่อในประเทศเม็กซิโก และจีนในอีกไม่กี่เดือนจากนี้ โครงการซี้ดลิ้งส์ ได้หล่อหลอมแรงบันดาลใจที่ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน การจัดสรรทรัพยากรในทุกที่ที่เราประกอบธุรุกิจ เพื่อช่วยเหลือ และเอื้อประโยชน์ให้แก่ชุมชนท้องถิ่นไปพร้อมๆ กัน” ปัจจุบัน กลุ่มเยาวชนท้องถิ่นจำนวน 23 คน จากโครงการ 2 รุ่น ได้เข้าร่วมการฝึกอบรมวิชาชีพด้านการบริการอาหารและเครื่องดื่ม และการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเชิงลึก

โดยผู้เข้าร่วมฝึกอบรมในกลุ่มแรก ได้เริ่มฝึกปฏิบัติงานที่ห้องอาหารซี้ดลิ้งส์ ภูเก็ต ในเดือนกรกฎาคมปีนี้เป็นต้นไป หลักสูตรการฝึกอบรมวิชาชีพด้านการบริการอาหารและเครื่องดื่ม และการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเชิงลึก 18 เดือน ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เยาวชนที่ร่วมโครงการได้มีโอกาสในการพัฒนาตนเองสู่สายอาชีพ