xs
xsm
sm
md
lg

กฟผ.ตื่น! แจง 4 ข้อห่วงใยเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ ยันคำนึงถึงชุมชน พร้อมฟังทุกฝ่าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจาก กฟผ.
 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “กฟผ.” นั่งไม่ติด! หลังเจอปฏิบัติการอดอาหารประท้วงโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ร่อน จม.ชี้แจง 4 ข้อความห่วงใยเพื่อเดินหน้าต่อ ยันคำนึงถึงชุมชน และพร้อมรับฟังข้อห่วงใยจากทุกฝ่าย

วันนี้ (14 ก.ค.) ฝ่ายประชาสัมพันธ์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ส่งหนังสือชี้แจงกรณีมีกลุ่มคนเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ณ หน้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น กระทรวงพลังงาน และ กฟผ.ขอชี้แจงว่า การดำเนินโครงการโรงไฟฟ้ากระบี่ คำนึงถึงความห่วงใยของชุมชน และการพัฒนาในด้านต่างๆ ในทุกมิติของ จ.กระบี่ จึงดำเนินการด้วยความรอบคอบ และเป็นไปตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
 
ทั้งนี้ โครงการอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ตามขั้นตอนของกฎหมายสิ่งแวดล้อม

โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เริ่มออกแบบ และรับฟังความคิดเห็น 3 ครั้ง หรือเวที ค.1, ค.2 และ ค.3 ทั้งในส่วนโรงไฟฟ้า และท่าเทียบเรือขนส่งถ่านหินตั้งแต่ ส.ค.2555-ต.ค.2557 ซึ่งได้มีการปรับปรุงตามข้อเสนอของชุมชน ทั้งกลุ่มท่องเที่ยว ประมง เกษตรกรรม ตลอดจนนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงยุทธศาสตร์ของจังหวัดที่มุ่งสู่การเป็นเมืองสีเขียว เน้นการท่องเที่ยวและความสวยงามตามธรรมชาติ เช่น

1.การขนส่งถ่านหินด้วยเรือขนส่งขนาด 10,000 ตัน จากต่างประเทศมายังท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว โดยใช้เรือขนส่งถ่านหินระบบปิด จำนวนไม่เกินวันละ 2 ลำ และใช้เส้นทางเดินเรือเดียวกันกับเรือขนส่งน้ำมันเตาสำหรับโรงไฟฟ้ากระบี่ปัจจุบัน โดยเส้นทางเดินเรือถ่านหิน กับแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงจุดดำน้ำทุกจุดห่างกันเฉลี่ยกว่า 10 กิโลเมตร จึงไม่มีผลกระทบต่อแหล่งหญ้าทะเล ปะการัง และที่อยู่อาศัยของพะยูน

2.ท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว และการขนถ่ายถ่านหินจากเรือส่งผ่านสายพานลำเลียงไปยังโรงไฟฟ้า กฟผ.ได้ออกแบบเป็นระบบปิดทั้งหมด ดังนั้น จึงไม่มีการฟุ้งกระจายของถ่านหิน และไม่ทำให้ทะเลปนเปื้อนจากถ่านหิน อีกทั้งไม่มีผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล อาหารทะเล การประกอบอาชีพประมง และวิถีชีวิตชุมชน

3.ในด้านการป้องกันผลกระทบจากมลสารทางอากาศ และสุขภาพอนามัยของประชาชนนั้น กฟผ.ได้นำเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้า และระบบกำจัดมวลสารที่มีประสิทธิภาพสูง ได้แก่ ระบบกำจัดก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน ระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ระบบดักจับฝุ่นแบบไฟฟ้าสถิตย์ และระบบดักจับสารปรอท และโลหะหนัก ดังนั้น จึงสามารถควบคุมมวลสารที่ระบายจากปล่องของโรงไฟฟ้าได้ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
 
นอกจากนี้ ยังมีระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่องที่ปลายปล่องของโรงไฟฟ้า และสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณชุมชนโดยรอบโรงไฟฟ้า เพื่อติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศได้อย่างต่อเนื่อง ถ้าตรวจพบว่าเกินกว่าค่าควบคุมจะหยุดเดินเครื่องเพื่อแก้ไขทันที ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ชุมชนเกี่ยวกับระบบการป้องกัน และดูแลสิ่งแวดล้อม

4.โครงการใช้เทคโนโลยีสะอาดที่ทันสมัยที่สุดเชิงพาณิชย์ในปัจจุบัน ด้วยระบบเผาไหม้และหม้อต้มไอน้ำระดับ Ultra Super Critical ซึ่งสามารถลดการใช้เชื้อเพลิง และลดการปล่อย CO2 ลงได้ร้อยละ 20

นอกจากนี้ กฟผ.ยังกำหนดนโยบายให้โรงไฟฟ้ากระบี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงาน และการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ทันสมัยของ จ.กระบี่ ที่สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้ ดังเช่น โรงไฟฟ้าในญี่ปุ่น และเยอรมนี ซึ่งปัจจุบัน ประเทศดังกล่าวยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยว
 
“อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ยังมีความห่วงใยผลกระทบของโครงการสามารถติดตามการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกระทรวงพลังงาน และ กฟผ.พร้อมรับฟังข้อห่วงใย และข้อเสนอแนะในการดำเนินงานโครงการต่อไป” ประชาสัมพันธ์ กฟผ.ชี้แจง
ภาพจาก กฟผ.
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น