ศูนย์ข่าวศรีราชา - โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ พร้อมให้ความร่วมมือชุมชนด้าน สวล. หลังมีแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่ม
วันนี้ (27 พ.ค.) ที่อาคาร Function Centre บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายสนธิ คชวัฒน์ ประธานคณะกรรมการประสานความเข้าใจชุมชนบ้านอ่าวอุดม พร้อมคณะกรรมการ ได้ร่วมประชุมกับคณะผู้บริหารของบริษัทไทยออยล์ เพื่อร่วมวางแนวทางในการป้องกันปัญหา และผลกระทบจากโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ และบริษัทในเครือที่อาจจะส่งผลกระทบต่อชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง
นายสนธิ กล่าวว่า ปัจจุบัน โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์มีโครงการจะขยายกำลังผลิตเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต ซึ่งปัญหาในอนาคตอาจจะส่งผลกระทบต่อชุมชน และชาวบ้านได้ ดังนั้น ควรมีแนวทาง หรือมาตรการในการป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้น จึงมีการเสนอให้โรงกลั่นไทยออยล์ เพิ่มเครื่องตรวจวัดอากาศเพิ่มขึ้น ซึ่งเดิมทราบว่า มีการติดตั้งแล้ว 1 จุด ภายในโรงกลั่นเท่านั้น โดยครั้งนี้ได้เสนอให้ติดตั้งบริเวณชุมชน หรือพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ เพิ่มอีก 2 จุด โดยขอให้ไทยออยล์ไปพิจารณาหาจุดที่เหมาะสมเอง
นอกจากนั้น ให้บริษัทไทยออยล์ นำข้อมูลคุณภาพอากาศที่ดำเนินการตรวจวัดอยู่ในขณะนี้แจ้งผลขึ้นจอ LCD บริเวณศูนย์สุขภาพของไทยออยล์ เพื่อให้ประชาชน และชุมชนได้รับทราบว่าคุณภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์เป็นอย่างไรบ้าง เพราะปัจจุบันได้ส่งข้อมูลดังกล่าวให้สิ่งแวดล้อมส่วนกลางแล้ว ก็ส่งข้อมูลให้ประชาชนในพื้นที่ทราบบ้าง
ด้าน นายสมยศ เฉียวกุล ชาวบ้านจาก ชุมชนบ้านอ่าวอุดม กล่าวว่า อยากให้ทางโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ มีการซ้อมแผนฉุกเฉิน โดยให้ประชาชน และชุมชนรอบโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ ได้เข้าร่วมในการซ้อมแผนดังกล่าวด้วย เนื่องจากที่ผ่านมา การซ้อมแผนจะเป็นการซ้อมแต่เฉพาะพนักงานในโรงกลั่น
แต่หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นจริงๆ ชาวบ้านจะได้รู้ถึงวิธีการปฏิบัติตนเอง พร้อมทั้งควรที่จะได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้น หากเกิดเหตุการณ์แล้วจะต้องให้ชาวบ้านต้องทำตัวอย่างไรบ้าง เพราะขณะนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ค่อยทราบข้อมูล นอกจากนั้น จะต้องมีการซ้อมแผนอพยพอย่างเต็มรูปแบบ เพราะหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงแล้วจะต้องมีแผนเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง
นอกจากนี้ ขอเสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาสังคมสิ่งแวดล้อมไทยออยล์ขึ้น โดยให้มีนักวิชาการมาเป็นคณะกรรมการร่วมของชุมชน เพื่อร่วมกันตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม เพราะจะให้ชาวบ้านเพียงอย่างเดียวอาจไม่มีความรู้เพียงพอทางด้านนี้ ดังนั้น ควรจะต้องมีนักวิชาการที่มีความรู้ความสามารถด้านสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นคณะกรรมการร่วม เพื่อคอยช่วยเหลือชาวบ้านในอีกแนวทางหนึ่ง
ด้านตัวแทนโรงกลั่นนำมันไทยออยล์ กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่ดี และทางโรงกลั่นเองก็มีการนโยบายที่จะดำเนินการอยู่แล้วในเรื่องของการซ้อมแผนฉุกเฉิน ซึ่งสามารถดำเนินการได้เลย รอเพียงประสานงานกับทางเทศบาลนครแหลมฉบัง ส่วนเรื่องอื่นๆ จะได้นำข้อเสนอต่างๆ เสนอผู้บริหารระดับสูงไปพิจารณา พร้อมเตรียมนำเสนอในการประชุมในครั้งต่อไป