ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หมอกควัน ไฟป่าพื้นที่ภาคเหนือตอนบนพุ่งเกินมาตรฐานเต็มพื้นที่ 9 จังหวัด สูงสุดที่แม่ฮ่องสอน พบ PM10 พุ่งทะลุ 303 ไมโครกรัม/ลบ.ม.แล้ว มีเพียง “อุตรดิตถ์” คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ “ปลอดภัย” ที่เหลือเข้าขั้นอันตรายต่อสุขภาพ ปชช.ต่อเนื่อง
วันนี้ (16 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรางานว่า จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่วันนี้พบว่าพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ทั้งเชียงใหม่, เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, ลำพูน, ลำปาง,พะเยา, แพร่, น่าน รวมถึงจังหวัดตาก มีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ มีเพียงจังหวัดอุตรดิตถ์เท่านั้นที่คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
โดยเขต อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน สูงสุดถึง 303 ไมโครกรัม/ลบ.ม. รองลงมาคือจังหวัดเชียงราย ซึ่งสถานีตรวจวัดสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ วัดค่าฝุ่นละอองเช้านี้ได้ 300 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ส่วนชายแดนแม่สายวัดได้ 229 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ สถานีโรงเรียนยุพราช กลางเมืองเชียงใหม่ พบว่าระดับฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนอยู่ในระดับสูงอีกครั้ง โดยวัดได้ 240 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ขณะที่บริเวณศาลากลางจังหวัดฯ วัดได้ 174 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
ขณะที่จังหวัดพะเยา สถานีตรวจวัดบริเวณอุทยานการเรียนรู้จังหวัดฯ พบค่าฝุ่นละออง อยู่ในระดับ 251 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ ( AQI ) อยู่ที่ระดับ 150 ซึ่งเป็นค่าทะลุสูงสุดในรอบปีนี้ของจังหวัดพะเยา, จังหวัดลำพูน สถานีตรวจวัดสนามกีฬาจังหวัดฯ วัดค่าฝุ่นละอองในอากาศได้ 180 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
จังหวัดลำปาง ที่มีสถานีตรวจวัด 4 สถานี เขต อ.แม่เมาะ และตัวเมืองลำปาง พบว่า ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน สูงเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลบ.ม.ทุกสถานี คือ ที่อุตุนิยมวิทยาลำปางวัดค่าได้มากสุดถึง 167 ไมโครกรัม/ลบ.ม., โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านท่าสี 159 ไมโครกรัม/ลบ.ม., การประปาส่วนภูมิภาคแม่เมาะ 147 ไมโครกรัม/ลบ.ม. และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านสบป้าด 131 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพทั้งหมด
สำหรับพื้นที่จังหวัดแพร่ พบว่าสถานีตรวจวัดอุตุนิยมวิทยาแพร่วัดค่าฝุ่นละอองในอากาศได้ 137 ไมโครกรัม/ลบ.ม., น่าน สถานีตรวจวัดที่เทศบาลเมืองน่าน วัดได้ 133 ไมโครกรัม/ลบ.ม., ตาก จุดตรวจวัดที่สถานีอุตุนิยมวิทยาแม่สอด วัดค่าฝุ่นละอองในอากาศได้ 132 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
โดยสถานการณืดังกล่าวส่งผลทำให้ประชาชนโดยทั่วไปต้องประสบปัญหาอาการแสบตา รวมไปถึงส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะเด็ก คนชรา และผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ขณะที่การลักลอบเผาป่าและพื้นที่ทางการเกษตรยังคงมีให้พบเห็นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดแต่ก็ยังมีการลักลอบเผาอยู่ โดยเฉพาะการหาของป่าอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มีเพียงจังหวัดอุตรดิตถ์จังหวัดเดียวในภาคเหนือตอนบนที่คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปลอดภัย พบว่าจุดตรวจวัดที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนอยู่ในระดับต่ำเพียง 68 ไมโครกรัม/ลบ.ม.เท่านั้น
วันนี้ (16 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรางานว่า จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่วันนี้พบว่าพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ทั้งเชียงใหม่, เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, ลำพูน, ลำปาง,พะเยา, แพร่, น่าน รวมถึงจังหวัดตาก มีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ มีเพียงจังหวัดอุตรดิตถ์เท่านั้นที่คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
โดยเขต อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน สูงสุดถึง 303 ไมโครกรัม/ลบ.ม. รองลงมาคือจังหวัดเชียงราย ซึ่งสถานีตรวจวัดสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ วัดค่าฝุ่นละอองเช้านี้ได้ 300 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ส่วนชายแดนแม่สายวัดได้ 229 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ สถานีโรงเรียนยุพราช กลางเมืองเชียงใหม่ พบว่าระดับฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนอยู่ในระดับสูงอีกครั้ง โดยวัดได้ 240 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ขณะที่บริเวณศาลากลางจังหวัดฯ วัดได้ 174 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
ขณะที่จังหวัดพะเยา สถานีตรวจวัดบริเวณอุทยานการเรียนรู้จังหวัดฯ พบค่าฝุ่นละออง อยู่ในระดับ 251 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ ( AQI ) อยู่ที่ระดับ 150 ซึ่งเป็นค่าทะลุสูงสุดในรอบปีนี้ของจังหวัดพะเยา, จังหวัดลำพูน สถานีตรวจวัดสนามกีฬาจังหวัดฯ วัดค่าฝุ่นละอองในอากาศได้ 180 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
จังหวัดลำปาง ที่มีสถานีตรวจวัด 4 สถานี เขต อ.แม่เมาะ และตัวเมืองลำปาง พบว่า ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน สูงเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลบ.ม.ทุกสถานี คือ ที่อุตุนิยมวิทยาลำปางวัดค่าได้มากสุดถึง 167 ไมโครกรัม/ลบ.ม., โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านท่าสี 159 ไมโครกรัม/ลบ.ม., การประปาส่วนภูมิภาคแม่เมาะ 147 ไมโครกรัม/ลบ.ม. และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านสบป้าด 131 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพทั้งหมด
สำหรับพื้นที่จังหวัดแพร่ พบว่าสถานีตรวจวัดอุตุนิยมวิทยาแพร่วัดค่าฝุ่นละอองในอากาศได้ 137 ไมโครกรัม/ลบ.ม., น่าน สถานีตรวจวัดที่เทศบาลเมืองน่าน วัดได้ 133 ไมโครกรัม/ลบ.ม., ตาก จุดตรวจวัดที่สถานีอุตุนิยมวิทยาแม่สอด วัดค่าฝุ่นละอองในอากาศได้ 132 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
โดยสถานการณืดังกล่าวส่งผลทำให้ประชาชนโดยทั่วไปต้องประสบปัญหาอาการแสบตา รวมไปถึงส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะเด็ก คนชรา และผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ขณะที่การลักลอบเผาป่าและพื้นที่ทางการเกษตรยังคงมีให้พบเห็นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดแต่ก็ยังมีการลักลอบเผาอยู่ โดยเฉพาะการหาของป่าอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มีเพียงจังหวัดอุตรดิตถ์จังหวัดเดียวในภาคเหนือตอนบนที่คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปลอดภัย พบว่าจุดตรวจวัดที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนอยู่ในระดับต่ำเพียง 68 ไมโครกรัม/ลบ.ม.เท่านั้น