ศูนย์ข่าวศรีราชา - โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ และภาคประชาชนบ้านอ่าวอุดม บรรลุข้อตกลงด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกัน เน้นย้ำประชาชนสามารถอยู่ร่วมกับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้ เมื่อทุกฝ่ายแสดงความจริงใจต่อกัน
นายสนธิ คชวัฒน์ เลขาธิการสมาคมอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย และประธานคณะกรรมการประสานความร่วมมือชุมชนบ้านอ่าวอุดม เปิดเผยว่า ตามที่โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ จะมีโครงการศึกษาเพื่อขยายกำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น และภาคประชาชนในพื้นที่ได้จัดตั้งคณะกรรมการประสานความร่วมมือชุมชนหารือร่วมกับผู้บริหารของบริษัทฯ เพื่อหาแนวทาง และวางมาตรการในการป้องกันละลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสุขภาพตั้งแต่เริ่มต้นคิดโครงการนั้น และเมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างภาคประชาชน และผู้บริหารของบริษัทในนามของคณะกรรมการประสานความร่วมมือชุมชนบ้านอ่าวอุดม ซึ่งผลการประชุมสรุปได้ดังนี้คือ
1.บรรลุข้อตกลงในการที่จะมีผู้แทนของบริษัทร่วมปรึกษาหารือกับภาคประชาชน และผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และภาคราชการ ในลักษณะคล้ายกับ Advisory committee ทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษา ให้ข้อเสนอแนะ และตรวจสอบการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการขยายกำลังการกลั่นน้ำมัน ซึ่งถือว่าจะเป็นโครงการที่ผู้บริหารโครงการภาคเอกชนแสดงออกถึงการมีธรรมาภิบาลที่ดี ที่ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มคิดโครงการ และจะเป็นโมเดลสำหรับโครงการพัฒนาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
2.มีแนวทางที่จะพัฒนาจัดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศถาวร ในพื้นที่ชุมชนที่ตั้งโดยรอบโครงการ โดยเป็นการตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบต่อเนื่องตลอดเวลา 24 ชั่วโมง โดยสถานีตรวจวัดอากาศดังกล่าวจะถูกติดตั้งในบริเวณที่รายงานอีไอเอคาดการณ์ว่า มลพิษทางอากาศจากโครงการ ทั้งปกติ และผิดปกติจะตกลงบริเวณใด เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจเรื่องคุณภาพอากาศในพื้นที่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ สำหรับโครงการปัจจุบัน บริษัทไทยออยล์ จะนำข้อมูลผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศขึ้นจอ LED บริเวณหน้าโรงกลั่น และศูนย์สุขภาพชุมชน ซึ่งประชาชนสามารถใช้จอแสดงผลดังกล่าวในการแจ้งข่าวของชุมชนได้ด้วย
3.บริษัทไทยออยล์ จะร่วมมือกับเทศบาลนครแหลมฉบัง ให้ความรู้ และจัดทำโครงการฝึกซ้อมแผนอพยพฉุกเฉินของชุมชนโดยรอบ และจะเป็นโครงการที่สามารถให้บริษัทต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงเข้าร่วมได้ด้วย เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยโดยรอบเข้าใจ และทราบขั้นตอนการปฏิบัติตนเมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดปกติต่างๆ
4.บริษัทไทยออยล์ จะสนับสนุนกลุ่มประมงในพื้นที่ในการอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งทางทะเล เช่น การบริบาลสัตว์น้ำ การปล่อยปู ปลา การปลูกหญ้าทะเล เป็นต้น โดยจะให้นักวิชาการที่มีความรู้เรื่องดังกล่าวเข้ามาศึกษา และให้ความรู้แก่กลุ่มประมงต้นแบบในพื้นที่ต่อไป และกรณีที่มีเรือประมงจากถิ่นอื่นเข้ามาแซะหอยที่เกาะเสาของท่าเทียบเรือของบริษัท ขอให้บริษัทหามาตรการป้องกันการกระทำดังกล่าวด้วย เนื่องจากอาจจะทำให้โรงกลั่นไม่มีความปลอดภัย
5.ในกรณีโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์เกิดเหตุผิดปรกติในบางครั้ง และอาจมีกลิ่นออกไปสู่ชุมชน ประชาชนสามารถให้ข้อมูล และแจ้งให้ผู้ประสานงานของบริษัททราบได้ทันที เพื่อที่บริษัทจะได้แก้ไขได้ทันที
นายสนธิ กล่าวอีกว่า การหารือร่วมกันครั้งนี้เกิดข้อตกลงด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกันในหลายประเด็น ทำให้ประชาชนมีความไว้วางใจ และร่วมมือกันในหลายๆ กิจกรรม ทำให้โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ และประชาชนที่อาศัยโดยรอบมีความเป็นมิตรไมตรีต่อกัน พึ่งพากันได้ ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และประชาชนสามารถอยู่ร่วมกันได้เมื่อทุกฝ่ายแสดงความจริงใจต่อกัน