xs
xsm
sm
md
lg

เขียนถึง “อาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์”/ จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ (แฟ้มภาพ)
 
คอลัมน์ : คนคาบสมุทรมลายู
โดย...จรูญ  หยูทอง-แสงอุทัย
 
โดยส่วนตัวผมรู้จัก อ.นิธิ  เอียวศรีวงศ์  ในฐานะอาจารย์ผู้สอนรายวิชาปริทรรศน์ไทยคดีศึกษาในระดับบัณฑิตวิทยาลัย ที่สถาบันทักษิณคดีศึกษา  มหาวิทยาลัยทักษิณ  เคยร่วมเสวนาทางวิชาการในโครงการ  โครงสร้าง และพลวัตวัฒนธรรมภาคใต้กับการพัฒนาของเมธีวิจัยอาวุโส  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)  สายสังคมศาสตร์ (ศ.สุธิวงศ์  พงศ์ไพบูลย์  หัวหน้าโครงการ)  และติดตามอ่านหนังสือและบทความของอาจารย์มานานนับทศวรรษ  ด้วยความชื่นชมในวิธีคิด และมุมมองที่โดดเด่น และไม่เหมือนใคร  โดยเฉพาะความกล้าหาญทางจริยธรรมที่อาจารย์มีให้เห็นมาตลอด
 
แต่ต่อมาในบั้นปลายของชีวิต  เมื่ออาจารย์เกษียณอายุราชการจากอาจารย์ประจำในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  เริ่มมีข่าวคราวไม่ค่อยเป็นมงคลของอาจารย์ ทั้งในเรื่องส่วนตัวและแนวคิดทางสังคมที่อาจารย์เริ่มผิดเพี้ยนไปจากเดิมที่ผมเคยรู้จัก  จนมาปรากฏชัดเจนในการแสดงออกต่อสาธารณชนโดยผ่านการพูด และการเขียน  โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อความขัดแย้ง  แตกแยก  แตกต่างระหว่างเสื้อเหลืองกับเสื้อแดง  และความเป็นคนใต้
 
อาจารย์มีทัศนะที่ดูถูกดูแคลนกระบวนการเคลื่อนไหวของเสื้อเหลือง และคนใต้หลายครั้งหลายคราว  อย่างไร้เหตุผล  อ้างหลักการ  งานวิจัย  วิธีคิดแบบข้างๆ คูๆ ถูไถ  กระแหนะกระแหนคล้ายคนไม่มีข้อมูล  ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเป็นมา  เป็นอยู่และเป็นไปของเสื้อเหลือง และคนใต้ที่อาจารย์พูดและเขียนถึง
 
ในฐานะคนรู้จักอาจารย์นิธิ  และรู้จักเสื้อเหลือง กับคนใต้คนหนึ่ง  เพราะผมเป็นคนใต้และเคยร่วมกิจกรรมกับคนเสื้อเหลืองในต่างกรรมต่างวาระกัน  โดยไม่มีอะไรสัมพันธ์กับความเป็นประชาธิปัตย์  เพราะตั้งแต่มีสิทธิเลือกตั้ง  ผมไม่เคยเลือกสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์  เนื่องจากผมชอบ  สนับสนุนและให้กำลังใจนักการเมืองที่มีโอกาสน้อยกว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์  โดยเฉพาะในยุค “ชวนฟีเวอร์”
 
ผมจึงอยากเขียนถึงอาจารย์นิธิ  เอียวศรีวงศ์  “ปูชนียบุคคล”  ที่ผมเคยเคารพนับถือ  และยึดเป็นแบบอย่างในการแสดงออกทางสังคม  ทั้งในการพูดและการเขียนมาตลอด  ก่อนจะมาเสื่อมถอยศรัทธา (แต่ก็ยังซื้อหนังสือที่อาจารย์เขียนมาอ่านทุกครั้งที่มีโอกาส  เพื่อจะได้รับรู้ว่าอาจารย์พัฒนาความไม่เป็นธรรมต่อคนใต้และคนเสื้อเหลืองไปถึงไหนแล้ว)
 
ล่าสุด  อาจารย์นิธิ  เขียนบทความในมติชนรายวัน  ฉบับวันจันทร์ที่  18  พฤษภาคม  2558  หน้า  20  เรื่อง “ที่มาทางสังคมของเสื้อเหลือง  สลิ่ม-นกหวีด (1)”  ขึ้นต้นบทความว่า
 
“ผมคิดว่า  เราคงพอนึกภาพได้แจ่มชัดพอสมควรว่า  เสื้อแดงเป็นใคร  พลังทางเศรษฐกิจ-สังคมที่ทำให้เขาออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองคืออะไร  ทำไมข้อเรียกร้องทางการเมืองของเขาจึงเป็นเช่นนั้น  ทั้งนี้ โดยไม่ต้องยึดติดกับตัวบุคคลที่ลอยละล่องอยู่บนกระแสความเคลื่อนไหวทางการเมืองของเสื้อแดง  ไม่ว่าจะเป็นแกนนำอย่างคุณณัฐวุฒิ  ไปจนถึงนักการเมืองอย่างคุณทักษิณ หรือคุณยิ่งลักษณ์  ภาพของเสื้อแดงเช่นนี้ชัดเจนพอสมควร  เพราะมีข้อมูลจากงานวิจัยรองรับอยู่ไม่น้อย”
 
เพียงย่อหน้าแรกของบทความชิ้นนี้  ผมเริ่มเห็นความไม่ปกติของคนอย่างอาจารย์นิธิในการสรรเสริญเยินยอ “คนเสื้อแดง” จนเกินเหตุ  ซึ่งก็ไม่แปลก  มันเป็นสิทธิเสรีภาพของอาจารย์อย่างเต็มที่  ในการที่อาจารย์จะรู้สึกดีหรือไม่ดีกับใคร  แต่ผมก็คาดไม่ผิดว่า  ย่อหน้าต่อไปที่อาจารย์จะเขียนถึงคงจะเป็นฝ่ายตรงข้ามกับเสื้อแดง  และแน่นอนด้วยตรรกะ และความคิดเห็น  ความรู้สึกนึกคิดที่ตรงกันข้าม  ซึ่งก็เป็นจริงดังคาด  เพราะย่อหน้าถัดมาอาจารย์เขียนว่า
 
“ในทางตรงกันข้าม  หากเราพยายามจะมองเสื้อเหลือง-สลิ่ม-นกหวีด ในลักษณะเดียวกันบ้าง  โดยไม่ติดอยู่กับคุณสนธิ  คุณจำลอง  คุณสุเทพ  หรือเสี่ยๆ ที่หนุนหลังทางการเงิน  และผู้ดีที่ถ่ายโอนความชอบธรรมให้แก่ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของเขา  เราแทบจะอธิบายคนกลุ่มนี้ไม่ได้ว่าอะไรคือที่มาทางสังคมของเขา  มักจะกล่าวกันว่า คนกลุ่มนี้มีผลประโยชน์ที่ขัดแย้งกับทักษิณและเสื้อแดง  ไม่ว่าจะเป็นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ  ทางสังคม หรือทางอุดมการณ์  แต่ครั้นซักไซ้ในรายละเอียดก็มองไม่ค่อยเห็นว่าสิ่งเหล่านั้นมันขัดแย้งกันอย่างไร”
 
ช่างเป็นทัศนะ และตรรกะที่ดูถูก ดูแคลน และรีบสรุปแบบด้านเดียว  ผิดวิสัยของนิธิ ผู้เคยเปรื่องปราดฉลาด และแหลมคม  มองไม่เห็น “ที่มาทางสังคม” ของมวลมหาประชาชนเรือนแสนเรือนล้านที่ออกมาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องยาวนานเป็นประวัติศาสตร์  แทบไม่น่าเชื่อว่าคนระดับอาจารย์นิธิจะไม่มีข้อมูลใหม่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของมวลมหาประชาชน  มากไปกว่าที่เอ่ยอ้างออกมา  จึงไม่น่าแปลกที่ท่านจะสรุปปรากฏการณ์ทั้งหมดว่า  มีธาตุแท้เพียงแค่นี้  แค่ที่ท่าน และพรรคพวกที่มีความเห็นและข้อมูลชุดเดียวกันรับรู้
 
ป่วยการที่ผมจะแลกเปลี่ยนในประเด็นนี้  เพียงแต่อยากจะบอกท่าน และพรรคพวกว่า  ถ้าท่านเปิดหูเปิดตาให้กว้างกว่านี้  ลงไปสัมผัสชีวิต และเลือดเนื้อจริงของพี่น้องประชาชน  ท่านอาจจะดูถูกดูแคลนเขาไม่ลงก็ได้ครับ  เพราะเขามีเหตุผลมากกว่าที่ท่านคิด  เบื้องลึกเบื้องหลังของการต่อสู้ท่ามกลางความขัดแย้งครั้งนี้  มันมีความสลับซับซ้อนมากกว่าที่ท่านเห็น และได้ยินมาจากพวกเดียวกัน
 
ย่อหน้าถัดมา  ท่านตอกย้ำความคับแคบทางความคิด  และมองด้านเดียวด้านที่ท่านอยากจะมองว่า “โดยปราศจากข้อมูลจากงานวิจัยรองรับ  เช่นเดียวกับที่ผมเคยเสนอเกี่ยวกับเสื้อแดงมาแล้ว  ผมขอเสนอที่มาทางสังคม (Social  Original) ของคนเสื้อเหลือง สลิ่ม นกหวีดบ้าง  แน่นอนมันจะเป็นเพียงข้อเสนอที่เชิญให้อภิปรายถกเถียง  ตลอดจนเก็บข้อมูลในการทำวิจัยกับคนกลุ่มนี้อย่างจริงจัง  ประโยชน์ของมันเป็นแค่ “มุมมอง” หนึ่งที่นักวิจัยอาจทิ้งไปไม่นาน  เพราะไม่สามารถใช้อธิบายข้อมูลจริงที่ได้จากการสำรวจ  หรืออาจเป็นคำถามการวิจัยที่ช่วยให้เข้าใจข้อมูลได้ดีขึ้นก็ได้”
 
ด้วยย่อหน้าสุดท้ายของอาจารย์  ผมจึงไม่เห็นประโยชน์ที่จะถกเถียงกับอาจารย์ตามคำเชิญ  เพราะผมรู้สึกเพียงว่า อาจารย์กำลัง “ผายลม” ทางสมองใส่ฝ่ายที่อาจารย์ไม่ชอบ  และไม่ยอมทำความรู้จักเขาจริงๆ ป่วยการที่จะอ่าน และถกเถียงกับอาจารย์อีกต่อไปครับ…ด้วยความเคารพ
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น