ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศูนย์ประสานงานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 ปล่อยหมวดเรือเฉพาะกิจ จำนวน 12 ลำ พร้อมอากาศยาน 1 ลำ เพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายในพื้นที่ฝั่งอันดามัน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (15 พ.ค.) พล.ร.ท.สายันต์ ประสงค์สำเร็จ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 หรือ ศร.ชล.เขต 3 เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดตั้งหมวดเรือเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือ Illegal Unreported and Unregulated Fishing (IUU Fishing) ในพื้นที่ฝั่งอันดามัน ซึ่งประกอบด้วย อากาศยาน จำนวน 1 ลำ และเรือจำนวน 12 ลำ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน ศรชล.เขต 3 ร่วมพิธี ที่บริเวณท่าเทียบเรือศูนย์วิจัย และพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งสืบเนื่องจากการที่ คสช.ได้มีคำสั่งที่ 10/58 เรื่องการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน ไร้การควบคุม โดยให้จัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ ศปมผ.ขึ้น โดยให้กองทัพเรือ เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการแก้ไขปัญหา และมีศูนย์ประสานงานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศร.ชล.ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2541 ประกอบด้วย 6 หน่วยงาน คือ กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมเจ้าท่า กรมศุลกากร และกรมประมง ดำเนินการตามคำสั่งนี้ ด้วยการบูรณาการการปฏิบัติของทุกหน่วยงานดังกล่าวข้างต้น เพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการดำเนินการจัดตั้งศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก หรือ Port In - Port Out ใน 22 จังหวัดชายทะเล เพื่อควบคุมการเข้า-ออก ของเรือประมง และการจัดตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ หรือ One stop service เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติประมง และพระราชบัญญัติเรือไทย และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว
สำหรับการจัดตั้งหมวดเรือเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฏหมาย ศร.ชล.เขต 3 นั้น มีชื่อย่อว่า “มวก.ปมผ.ศร.ชล.เขต 3” ประกอบด้วย อากาศยาน จำนวน 1 ลำ และเรือ จำนวน 12 ลำ แบ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ และเรือ 4 ลำ จากทัพเรือภาค 3 เรือจากตำรวจน้ำ 2 ลำ เรือ จากกรมเจ้าท่า 2 ลำ เรือจากศุลกากร 2 ลำ เรือจากกรมประมง 1 ลำ และเรือจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 1 ลำ ซึ่งทั้งหมดจะร่วมกันปฏิบัติงาน และบังคับใช้กฎหมายในทะเลให้เป็นไปตามแผนที่ ศปมผ.กำหนด ทั้งนี้ เพื่อให้ได้รับการถอดถอนใบเหลืองจากอียูได้ทันภายในเงื่อนไขเวลาที่สหภาพยุโรป หรืออียูกำหนด