ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ประมงจังหวัดภูเก็ต แจงแผนการปฏิบัติงาน IUU ภูเก็ต มีเรือจดทะเบียนแล้วกว่า 800 ลำ คาดเดือนหน้าแล้วเสร็จ
นายพิษณุ นาอนันต์ ประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงแผนการปฏิบัติงาน การป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำการประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) ของจังหวัดภูเก็ต ว่า ในส่วนของการจดทะเบียนเรือนั้น เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ตกับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ซึ่งจังหวัดภูเก็ต มีเรือที่ทำการประมงทั้งสิ้น 1,252 ลำ แยกเป็นเรือประมงพาณิชย์ 248 ลำ เรือประมงพื้นบ้าน 1,004 ลำ โดยได้จดทะเบียนเรือต่อสำนักงานเจ้าท่าแล้ว 858 ลำ คงเหลือที่ไม่ได้ดำเนินการ 146 ลำ ซึ่งทั้งหมดจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2558 นี้
ในส่วนของการออกใบอนุญาตเครื่องมือทำการประมง มีเรือประมงที่ต้องออกใบอนุญาต คือ เรือประมงที่จดทะเบียนเรือต่อสำนักงานเจ้าท่าฯ ทั้งหมด 858 ลำ ออกใบอนุญาตไปแล้ว จำนวน 258 ฉบับ ส่วนที่เหลือคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายนนี้ ขณะที่การติดตั้งระบบดาวเทียมติดตามเรือ (VMS) ซึ่งเรือที่จะต้องติดตั้งระบบดังกล่าวจะต้องเป็นเรือที่มีขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป ซึ่งมีอยู่ จำนวน 101 ลำ และเรือขนาด 60 ตันกรอสขึ้นไป มี 47 ลำ ซึ่งอยู่ระหว่างการแจ้งประชาสัมพันธ์ บังคับให้มีการติดตั้ง และจะเริ่มดำเนินการตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ในส่วนของการตรวจสอบย้อนกลับ โดยเรือประมงขนาดมากกว่า 30 ตันกรอสทุกลำ ต้องมีสมุดบันทึกการทำประมง (Logbook) และจะต้องส่งสมุดบันทึกการทำการประมงให้แก่สำนักงานประมงจังหวัดบันทึกเข้าระบบ และสำหรับเรือประมงที่มีการส่งออกสินค้าสัตว์น้ำไปยังตลาดประชาคมยุโรป (EU) จะต้องมีการจดบันทึกใบกำกับการจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำ (MCPD) และส่งให้แก่สำนักงานประมงจังหวัดบันทึกเข้าระบบ ซึ่งที่ผ่านมา มีเรือประมงจำนวน 80 ลำ ที่มีสมุดบันทึก และมีการบันทึกเข้าระบบเฉลี่ยเดือนละ 200 ฉบับ
ขณะที่ในเรื่องของการแจ้งเรือเข้า-ออก (Port in- Port out) จากการที่ทางจังหวัดภูเก็ตได้รับเป็นจังหวัดนำร่อง และได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 และมีการเริ่มดำเนินการพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยจังหวัดภูเก็ต มีศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ตั้งอยู่ที่สถานีวิทยุประมงชายฝั่งจังหวัดภูเก็ต มีภารกิจ 3 ภารกิจ ได้แก่ แจ้งเรือเข้า-ออก การตรวจเรือประมง และการบันทึกเข้าระบบของกรมประมง ซึ่งตั้งแต่เริ่มนำร่องจนถึงปัจจุบันระยะเวลาประมาณ 1 เดือนเศษ มีเรือแจ้งเข้า-แจ้งออก จำนวน 1,144 ครั้ง จากเรือประมง จำนวน 65 ลำ
ส่วนเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายนั้น ซึ่งกฎหมายประมงฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2558 โดยมีบทบัญญัติครอบคลุม IUU ซึ่งมีบทลงโทษหนักขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ จะมีหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายประมงหลักๆ คือ เรือตรวจประมง ศูนย์อนุรักษ์ฯ ตำรวจน้ำ ทหารเรือ และเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2558 คสช. ได้ออกคำสั่งที่ 10/2558 เรื่องการแก้ปัญหา IUU มีผลบังคับใช้ทันที และจัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) เป็นศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ นายพิษณุ กล่าวในที่สุด
นายพิษณุ นาอนันต์ ประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงแผนการปฏิบัติงาน การป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำการประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) ของจังหวัดภูเก็ต ว่า ในส่วนของการจดทะเบียนเรือนั้น เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ตกับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ซึ่งจังหวัดภูเก็ต มีเรือที่ทำการประมงทั้งสิ้น 1,252 ลำ แยกเป็นเรือประมงพาณิชย์ 248 ลำ เรือประมงพื้นบ้าน 1,004 ลำ โดยได้จดทะเบียนเรือต่อสำนักงานเจ้าท่าแล้ว 858 ลำ คงเหลือที่ไม่ได้ดำเนินการ 146 ลำ ซึ่งทั้งหมดจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2558 นี้
ในส่วนของการออกใบอนุญาตเครื่องมือทำการประมง มีเรือประมงที่ต้องออกใบอนุญาต คือ เรือประมงที่จดทะเบียนเรือต่อสำนักงานเจ้าท่าฯ ทั้งหมด 858 ลำ ออกใบอนุญาตไปแล้ว จำนวน 258 ฉบับ ส่วนที่เหลือคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายนนี้ ขณะที่การติดตั้งระบบดาวเทียมติดตามเรือ (VMS) ซึ่งเรือที่จะต้องติดตั้งระบบดังกล่าวจะต้องเป็นเรือที่มีขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป ซึ่งมีอยู่ จำนวน 101 ลำ และเรือขนาด 60 ตันกรอสขึ้นไป มี 47 ลำ ซึ่งอยู่ระหว่างการแจ้งประชาสัมพันธ์ บังคับให้มีการติดตั้ง และจะเริ่มดำเนินการตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ในส่วนของการตรวจสอบย้อนกลับ โดยเรือประมงขนาดมากกว่า 30 ตันกรอสทุกลำ ต้องมีสมุดบันทึกการทำประมง (Logbook) และจะต้องส่งสมุดบันทึกการทำการประมงให้แก่สำนักงานประมงจังหวัดบันทึกเข้าระบบ และสำหรับเรือประมงที่มีการส่งออกสินค้าสัตว์น้ำไปยังตลาดประชาคมยุโรป (EU) จะต้องมีการจดบันทึกใบกำกับการจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำ (MCPD) และส่งให้แก่สำนักงานประมงจังหวัดบันทึกเข้าระบบ ซึ่งที่ผ่านมา มีเรือประมงจำนวน 80 ลำ ที่มีสมุดบันทึก และมีการบันทึกเข้าระบบเฉลี่ยเดือนละ 200 ฉบับ
ขณะที่ในเรื่องของการแจ้งเรือเข้า-ออก (Port in- Port out) จากการที่ทางจังหวัดภูเก็ตได้รับเป็นจังหวัดนำร่อง และได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 และมีการเริ่มดำเนินการพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยจังหวัดภูเก็ต มีศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ตั้งอยู่ที่สถานีวิทยุประมงชายฝั่งจังหวัดภูเก็ต มีภารกิจ 3 ภารกิจ ได้แก่ แจ้งเรือเข้า-ออก การตรวจเรือประมง และการบันทึกเข้าระบบของกรมประมง ซึ่งตั้งแต่เริ่มนำร่องจนถึงปัจจุบันระยะเวลาประมาณ 1 เดือนเศษ มีเรือแจ้งเข้า-แจ้งออก จำนวน 1,144 ครั้ง จากเรือประมง จำนวน 65 ลำ
ส่วนเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายนั้น ซึ่งกฎหมายประมงฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2558 โดยมีบทบัญญัติครอบคลุม IUU ซึ่งมีบทลงโทษหนักขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ จะมีหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายประมงหลักๆ คือ เรือตรวจประมง ศูนย์อนุรักษ์ฯ ตำรวจน้ำ ทหารเรือ และเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2558 คสช. ได้ออกคำสั่งที่ 10/2558 เรื่องการแก้ปัญหา IUU มีผลบังคับใช้ทันที และจัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) เป็นศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ นายพิษณุ กล่าวในที่สุด
