นายจุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมประมง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการควบคุมและเฝ้าระวังการทำประมง ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) ว่า ในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ กรมประมงจะเริ่มทดลองใช้ระบบควบคุมการแจ้งเข้า – ออกของเรือประมง (Port in - Port out) สำหรับเรือประมงที่มีขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป ก่อนจะออกไปทำการประมง และกลับเข้าเทียบท่า โดยต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า – ออก ของเรือประมงที่กำหนด เพื่อให้มีการรายงานข้อมูลการทำประมงรวมถึงแรงงานบนเรือประมง อาทิ ทะเบียนเรือ เครื่องมือทำการประมง ใบอนุญาตทำการประมง ผลการจับสัตว์น้ำจากสมุดบันทึกการทำประมง (logbook) ตลอดจนบุคคลทำการประมงประจำเรือ เช่น กัปตัน เจ้าของเรือ และแรงงานบนเรือ โดยจะต้องแจ้งก่อนเรือเข้า - ออก ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง
สำหรับผลการทดลองนำร่อง 1 เดือน ระหว่างวันที่ 1 - 30 เมษายนนี้ ใน 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สงขลา ระนอง และภูเก็ต มีจำนวนเรือประมง ขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป มาแจ้งออกจากท่า จำนวน 350 ครั้ง และแจ้งเข้าท่า จำนวน 248 ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นที่น่าพอใจ
ทั้งนี้ กรมประมงได้ขยายศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า – ออกเรือประมง เพิ่มอีก 2 ศูนย์ ได้แก่ สำนักงานประมงจังหวัดนราธิวาส และสำนักงานประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้ท่าเทียบเรือ ซึ่งทำให้มีศูนย์จากเดิมจำนวน 26 ศูนย์ เป็น 28 ศูนย์ ครอบคลุมท่าเทียบเรือ 297 แห่ง
สำหรับผลการทดลองนำร่อง 1 เดือน ระหว่างวันที่ 1 - 30 เมษายนนี้ ใน 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สงขลา ระนอง และภูเก็ต มีจำนวนเรือประมง ขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป มาแจ้งออกจากท่า จำนวน 350 ครั้ง และแจ้งเข้าท่า จำนวน 248 ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นที่น่าพอใจ
ทั้งนี้ กรมประมงได้ขยายศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า – ออกเรือประมง เพิ่มอีก 2 ศูนย์ ได้แก่ สำนักงานประมงจังหวัดนราธิวาส และสำนักงานประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้ท่าเทียบเรือ ซึ่งทำให้มีศูนย์จากเดิมจำนวน 26 ศูนย์ เป็น 28 ศูนย์ ครอบคลุมท่าเทียบเรือ 297 แห่ง