พ.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการประมงที่ผิดกฎหมาย ว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานเร่งเดินหน้าตามแนวทางที่รัฐบาลกำชับและสั่งการไว้ โดยเฉพาะในประเด็นการออกกฎหมายให้ครอบคลุมสิ่งที่สหภาพยุโรปเรียกร้องให้ปฏิบัติโดยกฎหมายพระราชบัญญัติประมง ที่ใช้ในปัจจุบันมีมาตั้งแต่ปี 2490 เมื่อรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศได้มีแนวนโยบายแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัยและไม่เป็นสากล ซึ่งรวมพระราชบัญญัติ ประมงไว้ด้วย ในช่วงที่มีการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติ เป็นช่วงก่อนที่จะได้รับคำชี้แจงในรายละเอียดจากสหภาพยุโรป กรณี IUU จึงทำให้สาระสำคัญบางประการมิได้ถูกกำหนดอยู่ในพระราชบัญญัติประมง ฉบับปรับปรุง และกำลังรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงจำเป็นต้องเตรียมร่างพระราชกำหนดขึ้นมา เพื่อปิดช่องที่เกิดขึ้น อาทิ การจัดการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าประมงจากแหล่งจับเพื่อทำให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าเป็นสัตว์น้ำที่ได้มาจากการประมงที่ถูกกฎหมาย รวมถึงการกำหนดบทลงโทษที่เป็นสากลต่อเรือประมงที่ทำผิดกฎหมาย จากเดิมที่ยังค่อนข้างหละหลวม โดยคาดว่าพระราชกำหนดนี้ จะประกาศออกมาในทันทีที่พระราชบัญญัติประมงมีผลบังคับใช้ เพื่อให้การดำเนินการเรื่องกฎหมายมีความต่อเนื่องและเห็นผลเป็นรูปธรรม
ในส่วนของการใช้ มาตรา 44 ร่วมแก้ไขปัญหาการประมงที่ผิดกฎหมายนั้น ที่ประชุมมิได้มีการพิจารณาในประเด็นนี้ เพราะเป็นเรื่องการใช้อำนาจหน้าที่ของ คสช. อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้ให้ความชัดเจนภายหลังเดินทางกลับจากประเทศอินโดนีเซียว่า มาตรา 44 จะนำมาใช้เพื่อให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยต้องไม่ขัดกับหลักกฎหมายใด ๆ ที่มีอยู่
ในส่วนของการใช้ มาตรา 44 ร่วมแก้ไขปัญหาการประมงที่ผิดกฎหมายนั้น ที่ประชุมมิได้มีการพิจารณาในประเด็นนี้ เพราะเป็นเรื่องการใช้อำนาจหน้าที่ของ คสช. อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้ให้ความชัดเจนภายหลังเดินทางกลับจากประเทศอินโดนีเซียว่า มาตรา 44 จะนำมาใช้เพื่อให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยต้องไม่ขัดกับหลักกฎหมายใด ๆ ที่มีอยู่