ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภูเก็ต เปิดศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมง ณ สถานีวิทยุประมงชายฝั่ง สนับสนุนการแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (6 พ.ค.) ที่สถานีวิทยุประมงชายฝั่งจังหวัดภูเก็ต ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ พล.ร.ต.สมชาย ณ บางช้าง เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นประธานเปิดศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมง ภูเก็ต โดยมี นายพิษณุ นาอนันต์ ประมงจังหวัดภูเก็ต นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สว.ส.รน.3 กก.8 บก.ตร. ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายพิษณุ นาอนันต์ ประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยได้รับการประกาศเตือนจากสหภาพยุโรปถึงการจัดให้มีมาตรการในการป้องกันยับยั้ง และขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือ Illegal Unreported and Unregulated Fishing (IUU) Fishing มาตรการหนึ่งที่กรมประมงจัดทำเพื่อควบคุมและเฝ้าระวังการทำการประมง คือ การจัดตั้งศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมง (Port in - Port out) โดยกำหนดจัดตั้งศูนย์ทั้งหมด จำนวน 26 แห่ง เพื่อบริการชาวประมงโดยมีศูนย์วิทยุประมงชายฝั่งของกรมประมง จำนวน 26 ศูนย์ ทำหน้าที่เป็นศูนย์แจ้งเข้า-ออกของเรือประมง (Port in - Port out) เริ่มดำเนินการพร้อมกันตั้งแต่วันพุธที่ 6 พฤษภาคม 2558
โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ต จัดตั้งศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมงภูเก็ต ณ สถานีวิทยุประมงชายฝั่งจังหวัดภูเก็ต ถ.ท่าเรือ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อจัดตั้งศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกของเรือประมง (Port in - Port out) และพัฒนาขีดความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมการประมง อีกทั้งเพื่อบูรณาการข้อมูล และแลกเปลี่ยนข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สมบูรณ์ และครอบคลุมทุกมิติ และเป็นเอกภาพพร้อมใช้ เป็นปัจจุบันทันต่อสถานการณ์ เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหา IUU Fishing ตลอดจนเพื่อวิเคราะห์และประมวลผลการรับการเจ้งเข้า-ออกของเรือประมง และเพื่อรองรับการบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่
การจัดตั้งศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้าออกเรือประมง (Port in - Port outControlling Center : PIPO) และศูนย์ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่เรือประมงแบบเบ็ดเสร็จ (Fishing One Stop Service) ประจำในแต่ละจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน 6 จังหวัด เป็นหน่วยขึ้นตรงต่อ ศรขล. เขต 3 มีหน้าที่บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อการใช้บังคับกฎหมายเพื่อเกิดเอกภาพในการทำงาน รวมถึงประชาสัมพันธ์ และสร้างความตระหนักรู้ต่อเรือประมงโดยประสานกับส่วนปฏิบัติการข่าวสาร และสรุปรายงานผลให้หน่วยงาน ศรชล. เขต 3 ทุกวัน เวลา 12.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ทุกวันพฤหัสบดี ก่อนเวลา 09.00 น. เพื่อพัฒนารูปแบบการทำงานให้เหมาะสม รวมถึงกำกับดูแลศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้าออกเรือประมง (Port in - Port out Controlling Center : PIPO) และศูนย์ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่เรือประมงแบบเบ็ดเสร็จ (Fishing One stop service) ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีกำลังพลปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2558 เป็นต้นไป
การแจ้งเข้า-ออกเรือประมง จึงดำเนินการต่อเรือประมงที่มีขนาดตั้งแต่ 30 ตันกรอสขึ้นไป ก่อนออกเรือ หรือเข้ามีความจำเป็นต้องแจ้งต่อศูนย์ฯ ก่อน 24 ชั่วโมง พร้อมจัดส่งเอกสารตามแบบที่กำหนด ทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตมีเรือที่ต้องดำเนินการจำนวนทั้งสิ้น 148 ลำ
ขณะที่ พล.ร.ต.สมชาย ณ บางช้าง เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวว่า ในการดำเนินการของศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย เราได้มีการบูรณาการหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ในการที่จะทำงานร่วมกันในการแก้ปัญหาทุกมิติ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่งในการแก้ปัญหาเรื่อง IUU เพื่อทำให้ได้รับการปลดล็อกจากใบเหลืองที่เราได้รับจากอียู เพราะฉะนั้น ในการดำเนินการเราได้ทุ่มเทในความพยายามหลายอย่าง ซึ่งในส่วนของทัพเรือภาคที่ 3 มีหน้าที่ดำเนินการในส่วนนี้ในการที่จะบูรณาการกำลังหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ศรชล. เขต 3 ณ ขณะนี้เราได้ดำเนินการในขั้นตอนแรกของการปฏิบัติ คือ เรื่องการบังคับใช้กฎหมายบางส่วน เรื่องของการผ่อนผัน โดยได้ตั้งศูนย์ควบคุมและรายงานการแจ้งเข้า-ออก ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ มาร่วมกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารเรือเป็นหัวหน้าศูนย์ ที่จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งตนคิดว่า การทำงานค่อยๆ รวบรวมปัญหา และแก้ปัญหาต่างๆ ต่อไป ทั้งให้คำแนะนำ สื่อสารให้ผู้ประกอบการประมงตระหนักถึงความมีส่วนร่วม ร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหา ในระยะเวลา 6 เดือนนี้ เชื่อว่าถ้าทุกภาคส่วนมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาต่างๆ ออกไป จะทำให้การดำเนินงานในส่วนนี้น่าจะบรรลุผลไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ