xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนหมดสัมปทานปลูกปาล์มที่กระบี่ ร้องศาลปกครองกรมป่าไม้ยื้อไม่ต่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

กระบี่ - บริษัทเอกชนขอสัมปทานพื้นที่ปลุกปาล์มที่กระบี่ ร้องศาลปกครอง หลังกรมป่าไม้ยื้อต่ออายุสัมปทาน ขณะที่บริษัทดังหุ้นคนไทย-ต่างชาติ ตรวจสอบพบทำผิดเงื่อนไขเสนอกรมป่าไม้พิจารณาตั้งแต่ปี 55 แต่ไร้ความคืบหน้า

จากกรณีเมื่อปี 2529-2530 รัฐบาลในสมัยนั้น มีนโยบายให้เอกชนเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเพื่อปลูกพืชเศรษฐกิจปาล์มน้ำมันในพื้นที่ จ.กระบี่ จำนวน 14 แปลง เนื้อที่กว่า 70,000 ไร่ ซึ่งขณะนี้มีจำนวน 11 แปลงที่หมดอายุสัมปทานไปแล้ว โดยแปลงล่าสุดที่หมดสัมปทานคือ แปลงที่ บริษัทเจียรวานิช น้ำมันปาล์ม จำกัด ยื่นขอโดยจะขอใช้ประโยชน์พื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่ ส่วนแปลงที่กำลังจะหมดอายุสัมปทานมี จำนวน 3 แปลง ซึ่ง 2 ใน 3 แปลงนั้นเป็นของบริษัท ยวนสาวการเกษตร ที่มีปัญหาเรื่องของการทำผิดเงื่อนไข

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายบุญสืบ สมัครราช ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 สาขากระบี่ เปิดเผยว่า สวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ ได้หมดอายุการขออนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินป่าสงวนแห่งชาติฯ ตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา รวมแล้ว 11 ราย และในจำนวน 11 แปลง ที่หมดอายุสัมปทาน มีเพียง 1 แปลงเท่านั้นที่ยื่นขอต่อใบอนุญาต คือ บริษัทเจียรวานิช น้ำมันปาล์ม จำกัด โดยจะขอใช้ประโยชน์พื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่ แต่ขณะนี้ทางกรมป่าไม้ ยังไม่พิจารณาให้อนุญาตเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวแต่อย่างใด และพบว่า ขณะนี้ในพื้นที่ที่ดินแปลงดังกล่าวกำลังมีการบุกรุกของประชาชนทั้งในพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียงเข้าไปอาศัยอยู่พร้อมเรียกร้องให้มีการนำที่ดินมาจัดสรรให้แก่คนที่ไม่ที่ดินทำกินตามมติ ครม.ปี 2546 จนทำให้ขณะนี้มีปัญหากระทบกระทั่งระหว่างผู้ที่เข้ามายึดครอง และชาวบ้านที่อ้างว่าได้รับความเดือดร้อนจากการเข้ามายึดครองสวนปาล์ม

นายบุญสืบ กล่าวด้วยว่า สำหรับบริษัทเจียรวานิช ได้ขอสัมปทานในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าปลายคลองพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2528 และได้หมดสัญญาสัมปทานเมื่อวันที่ 21 เม.ย.2556 ที่ผ่านมา และหลังจากนั้น ได้ทำการขอต่ออนุญาตสัมปทานต่อ แต่ทางกรมป่าไม้ ยังไม่มีการพิจารณาว่าจะให้ต่ออนุญาตต่อไปอีกหรือไม่ ทำให้บริษัทเจียรวานิช น้ำมันปาล์ม จำกัด ได้ยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราช เพื่อขอให้กรมป่าไม้พิจารณาหลังจากที่เวลาได้ผ่านมานาน ซึ่งขณะนี้เรื่องยังอยู่ในชั้นศาล

สำหรับรายที่ยังไม่หมดสัญญาสัมปทาน มีอยู่ 2 ราย ได้แก่ บริษัทยวนสาวการเกษตร จำกัด และ ของนายวิศิษฐ์ วุฒิชาติวานิช สำหรับในส่วนของบริษัท ยวนสาวการเกษตร จำกัด ได้มีการยื่นขอสัมปทานพื้นที่ป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 2 แปลง เพื่อใช้ประโยชน์ปลูกปาล์มน้ำมัน แปลงที่ 1 อยู่ในพื้นที่ป่าเขาขวาง ป่าโคกยาง และป่าช่องบางเหรียง ตำบลโคกยาง อำเภอเหนือคลอง ตำบลเพหลา อำเภอคลองท่อม และป่าช่องเสียด ป่าเขากลม และป่าเขาช่องบางเหรียง ตำบลพรุเตียว อำเภอเขาพนม รวมเนื้อที่ประมาณ 3,816 ไร่ โดยได้รับอนุญาตเข้าทำประโยชน์ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2554-18 ก.ย.2558

ส่วนแปลงที่ 2 อยู่ในพื้นที่ป่าเขาขวาง ป่าโคกยาง และป่าช่องบางเหรียง ตำบลโคกยาง อำเภอเหนือคลอง ตำบลเพหลา อำเภอคลองท่อม ได้รับอนุญาต วันที่ 6 ธ.ค.2545-18 ก.ย.2558 รวมเนื้อที่ 8,206 ไร่ ต่อมา พื้นที่ดังกล่าวได้มีปัญหา และมีการปลูกยางพารา เนื้อที่ประมาณ 434 ไร่ ซึ่งเป็นการทำผิดสัญญาสัมปทาน ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ และได้ตรวจยึดพื้นที่ไว้เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2554 พร้อมกับได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และเมื่อปี 55 ได้สรุปส่งเรื่องไปยังกรมป่าไม้ เพื่อขอทราบการดำเนินการกันพื้นที่ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับบริษัท ยวนสาวการเกษตร มีหุ้นส่วนทั้งคนไทย และต่างชาติ โดยหุ้นส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซีย และได้ถอนหุ้นกลับประเทศไปแล้ว ยังคงเหลือผู้ถือหุ้นที่เป็นคนไทย และภายในบริษัทฯ เองก็เริ่มเกิดความขัดแย้งขึ้นอย่างหนัก จนเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มกันมาแล้ว
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น