xs
xsm
sm
md
lg

เปิด 14 รายชื่อสัมปทานปลูกปาล์มน้ำมัน-พืชเศรษฐกิจในพื้นที่ป่าสงวนที่กระบี่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เปิด 14 รายชื่อผู้ได้รับสัมปทานปลูกปาล์มน้ำมัน และพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ จ.หวัดกระบี่ พบหมดอายุสัมปทานแล้ว 11 แปลง เหลือเพียงแค่ 3 แปลงที่ยังไม่หมด โดยบริษัทยวนสาวการเกษตร จำกัด ถือมากถึง 2 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 8 พันไร่ ด้านป่าไม้กระบี่ ระบุคุมเข้มพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันหมดอายุ สัมปทาน แต่ก็ยังมีการลักลอบเก็บผลผลิต

นายบุญสืบ สมัครราช ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 สาขากระบี่ เปิดเผยว่า ตามที่เอกชนได้ยื่นขอสัมปทานพื้นที่ป่าเพื่อใช้ประโยชน์ปลูกปาล์มน้ำมัน และพืชเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดกระบี่ 14 ราย รวมเนื้อที่กว่า 7 หมื่นไร่ ประกอบด้วย 1.นายสุนทร เจียวก๊ก ได้รับสัมปทานในพื้นที่ป่าแหลมกรวด และป่าคลองบางผึ้ง ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง ปลูกยางพารา และมะม่วงหิมพานต์ เนื้อที่ 500 ไร่ ขณะนี้หมดอายุสัปทานไปแล้วเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ปี 45

2.นายพัฒน์ ซ้ายเส้ง ได้รับสัมปทานในพื้นที่ป่าแหลมกรวด และป่าครองบางผึ้ง ต.ปกาไส อ.เหนือคลอง ปลูกไม้ยืนต้น และมะม่วงหิมพานต์ เนื้อที่ 1,000 ไร่ ขณะนี้หมดอายุสัมปทานแล้วเมื่อวันที่ 11 พ.ย.45 รายที่ 3.ห้างหุ้นส่วนจำกัด กระบี่รวมภัณฑ์ โดยนายสาธิต แหลมสัก ได้รับสัมปทานในพื้นที่ป่าแหลมกรวด และป่าคลองผึ้ง ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง ปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 1,000 ไร่ หมดอายุสัมปทานเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.45 รายที่ 4.นายประเสริฐ กิตติธรกุล ได้รับสัมปทานในพื้นที่ป่าแหลมกรวด และป่าคลองผึ้น ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง ปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 2,200 ไร่

รายที่ 5.ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีปราณี โดยนางปราณี เอ่งฉ้วน หุ้นส่วนผู้จัดการ สัมปทานในพื้นที่ป่าเหนือคลอง ป่าแหลมกรวด ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง ปลูกยางพารา และมะม่วงหิมพานต์ พื้นที่ 580 ไร่ หมดอายุสัมปทานเมื่อวันที่ 23 ต.ค.46 รายที่ 6.นายสุบินท์ ฉายะบุระกุล (ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อแล้ว) ขอใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าห้วยทังและป่าหนองน้ำแดง ป่าเขาขวาง ป่าโคกยาง และป่าช่องบางเหรียง ต.พรุเตียว อ.เขาพนม ปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 1,844 ไร่ หมดอายุสัมปทานวันที่ 30 พ.ค. 46 รายที่ 7.ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีวิไลปาล์ม ขอใช้ประโยชน์พื้นที่ป่า เขาช่องเสียด ป่าเขากลม และป่าเขาช่องบางเหรียง ต.สินปุน อ.เขาพนม ปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 3,000 ไร่ หมดอายุสัมปทานเมื่อวันที่ 25 มี.ค.46 รายที่ 8.บริษัทจิตรธวัชสวนปาล์ม จำกัด ขอใช้ประโยชน์พื้นที่เขาแก้ว และป่าควนยิงวัว ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก ต.เขาเขน และ ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา ปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 13,950 ไร่ หมดสัมปทานเมื่อวันที่ 27 มี.ค.43

รายที่ 9.บริษัทฟูจูการเกษตร จำกัด ขอใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าด่านยางคู่ ป่าบางเหรียง และป่าเขาขวาง ต.เขาดิน ต.พรุเตียว อ.เขาพนม ปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 9,500 ไร่ หมดสัมปทานเมื่อวันที่ 1 ต.ค.45 รายที่ 10.บริษัท กรานี่การเกษตร จำกัด ขอใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าสินปุน ต.สินปุน องเขาพนม ปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 9,750 ไร่ หมดอายุสัมปทานเมื่อวันที่ 28 ก.พ.45 และรายที่ 11.บริษัทเจียรวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด ขอใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าปลายคลองพระยา ต.คลองหิน องอ่าวลึก และ ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา ปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 20,000 ไร่ หมดอายุสัมปทานเมื่อวันที่ 21 เม.ย.56

นอกจากนั้น ยังมีผู้ที่ได้รับสัมปทาน และยังไม่หมดอายุสัมปทานอีก 3 แปลง บางแปลงกำลังอยู่ระหว่างการขอต่ออายุสัมปททานก่อนหมดอายุ ประกอบด้วย 1.บริษัทยวนสาวการเกษตร จำกัด จำนวน 2 แปลงๆ ที่ 1 ขอใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าเขาขวาง ป่าโคกยาง และป่าช่องบางเหรียง ต.โคกยาง อ.เหนือคลอง และ ต.เพหลา องคลองท่อม ปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 285-1-63 ไร่ และพื้นที่ป่าช่องเสียด ป่าเขากลม และป่าเขาช่องบางเหรียง ต.พรุเตียว อ.เขาพนม พื้นที่ 3,530-2-55 ไร่ รวมพื้นที่ทั้งหมดของแปลงที่ 1 3,816 ไร่ 22 ตารางวา สำหรับในส่วนของแปลงที่ 1 มีการหมายเหตุว่า มีการกระทำผิดเงื่อนไขการอนุญาตจังหวัดได้รวบรวมข้อเท็จจริงเสนอกรมป่าไม้เพื่อให้คณะกรรมการตามคำสั่งกรมป่าไม้ ดำเนินการ ซึ่งแปลงดังกล่าวจะหมดอายุสัมปทานในวันที่ 18 ก.ย.58 ส่วนแปลงที่ 2 บริษัทยวนสาวการเกษตร จำกัด ขอใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าเขาขวาง ป่าโคกยางและป่าช่องบางเหรียง ต.โคกยาง อ.เหนือคลอง ต.เพหลา อ.คลองท่อม ปลูกปาล์มน้ำมันเช่นเดียวกัน เนื้อที่ 4,390 ไร่ 8 ตารางวา โดยจะหมดอายุการอนุญาตวันที่ 18 ก.ย.2558 และแปลงที่ 3 เป็นของนายวิศิษฐ์ วุฒิชาติวานิช ขอใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชองเสียด ป่าเขากลม ป่าช่องบางเสียด ต.สินปุน อ.เขาพนม ปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 1,500 ไร่ ซึ่งจะหมดอายุการขออนุญาต วันที่ 7 เม.ย.60

นายบุญสืบ กล่าวต่อไปว่า สำหรับพื้นที่ที่หมดอายุสัมปทานไปแล้วขณะนี้ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 ได้เข้าทำการควบคุมพื้นที่เพื่อป้องกันการบุก และการลักลอบเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่เข้าไปบุกรุก หรือเก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างต่อเนื่องทั้ง 11 แปลง นอกจากนี้ ยังได้เสนอของบประมาณ และเจ้าหน้าที่ จากกระทรวงฯ เพื่อที่จะนำมาทำการออกสำรวจว่าพื้นที่ป่าที่เคยให้สัมปทานไปยังมีเหลืออยู่จำนวนใด และมีใครเข้าไปบุกรุกบ้าง ซึ่งอยู่ระหว่างการรองบประมาณ หากว่าได้งบประมาณมาก็จะสามารถเข้าไปทำการสำรวจรังวัดพื้นที่ได้ทันที

แหล่งข่าวรายงานว่า สำหรับการดำเนินการต่อพื้นที่หมดสัมปทาน ทางหน่วยงานในพื้นที่รอเพียงคำสั่งของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเท่านั้น เพราะที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้ทวงถามไปหลายครั้งแล้วว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีคำตอบ รวมระยะเวลากว่า 5 ปี และทุกแปลงก็ยังมีการลักลอบเก็บเกี่ยวผลิต รวมทั้งบางแปลงพบว่ามีชาวบ้านผู้เดือดร้อนที่ทำกินบุกรุกเข้าไปยึดครองโดยอ้างมติ ครม.ปี 2546 ได้มีมติไม่ต่ออนุญาตให้พื้นที่ที่ได้รับสัมปทาน พร้อมกับให้นำพื้นที่ดังกล่าวมาจัดสรรให้แก่คนที่ยากจนไม่มีที่ดินทำกิน
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น