ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกายเด็กชายอายุ 1 ปี 3 เดือน เสียชีวิตที่ภูเก็ต เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ยืนยันชัดไม่ทำร้ายเด็ก ส่วนสาเหตุที่ทำให้เด็กเสียชีวิตเกิดจากเด็กพลัดตกจากเตียงเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวสอบเครียด ขณะที่คำให้การของแม่เด็ก และผู้ต้องหาสวนทางทุกเรื่อง ตำรวจเผยต้องรอผลชันสูตรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งเมื่อวันที่ 3 เม.ย. เวลา 01.30 น. ว่า มีเด็กชายอายุ 1 ปี 3 เดือน ถูกทำร้ายเสียชีวิต ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย โดยศพอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต หลังรับแจ้งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดโรงพยาบาล พบ น.ส.มณฑา พิมไชยศรี มารดาของเด็กชายคนดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า เด็กมีรอยฟกช้ำตามลำตัว ขา และบริเวณก้นกบ และจากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่า ก่อเกิดเหตุ เด็กชายไปอาศัยอยู่กับนายสมศักดิ์ หรืออ้วน ยะก๊บ อายุ 38 ปี ที่ห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองภูเก็ต ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามนายสมศักดิ์ ไปยังห้องพักดังกล่าวแต่ไม่พบตัว และจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายสมศักดิ์ ได้หลบหนีไปต่างจังหวัดหลังจากนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่จึงออกติดตาม และออกหมายจับในข้อหาทำร้ายร่ายการผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนศพของเด็กทางเจ้าหน้าที่ส่งไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด วันนี้ (7 เม.ย.) ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.ไกรทอง จันทร์ทองใบ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.คุณเดช ณ หนองคาย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ร่วมกันควบคุมตัว นายสมศักดิ์ ยะก๊บ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ซึ่งเข้ามอบตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อคืนวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
พ.ต.อ.ไกรทอง กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งจากการสอบปากคำ นางมณฑา พิมไชยศรี มารดาเด็กในเบื้องตน ทราบว่า ทำงานที่ร้านคาราโอเกะ ซอยดำรง ต.ตลาดใหญ่ และต่อมาได้รู้จักกับนายสมศักดิ์ ซึ่งมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง เมื่อนายสมศักดิ์ เห็นลูกชายของนางมณฑา ก็เกิดความเอ็นดูเนื่องจากนายสมศักดิ์ ไม่มีลูกชาย จึงมารับลูกชายของนางมณฑา ไปเลี้ยงดูเป็นประจำ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17 .00 น. นายสมศักดิ์ มารับเด็กชายคนดังกล่าวไปจากห้องเช่า โดยรับปากว่าจะมาส่งห้องพักในวันรุ่งขึ้น แต่เมื่อครบกำหนดกลับไม่นำตัวมาส่ง
จนกระทั่งวันที่ 2 เม.ย. มารดาเด็กได้ให้เพื่อนซึ่งพักอยู่โรงแรมเดียวกับนายสมศักดิ์ ไปดูที่ห้องพักก็ได้รับแจ้งว่า เด็กชายอยู่กับนายสมศักดิ์ อย่างปกติ จนกระทั่งเวลา 02.00 น. วันที่ 3 เม.ย. มารดาเด็กได้รับแจ้งจากนายสมศักดิ์ ว่า เด็กชายตกเตียงหมดสติ และนำส่งโรงพยาบาลแล้ว หลังรับแจ้งมารดาเด็กก็ได้ตามไปที่โรงพยาบาลพบว่า เด็กเสียชีวิตแล้ว และพบว่าตามร่างกายมีรอยฟกช้ำผิดปกติจึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หลังรับแจ้งทางตำรวจก็เดินทางไปตรวจสอบพบเด็กมีรอยฟกช้ำหลายจุดจริง จึงเดินทางไปตรวจสอบที่ห้องพัก และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และออกติดตามจับกุม และขอศาลอนุมัติหมายจับ นายสมศักดิ์ จนกระทั่งนายสมศักดิ์ ตัดสินใจเข้ามอบตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสู้คดี ซึ่งจากการสอบปากคำในเบื้องต้น นายสมศักดิ์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตัวเองไม่ได้ทำร้ายเด็กชายคนดังกล่าว ซึ่งเด็กชายคนนี้ตัวเองรักเหมือนลูก เวลามาอยู่ก็จะเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ส่วนใหญ่แม่เด็กจะโทร.มาฝากให้ตัวเองเลี้ยง ถ้าสะดวกก็จะไปรับมาเลี้ยง ซึ่งแม่เด็กก็ฝากเด็กมาเลี้ยงหลายครั้งแล้ว ครั้งล่าสุด ก็เมื่อวันที่ 31 มี.ค. แม่เด็กโทร.มาบอกว่าจะฝากเด็กเลี้ยง 1 วัน โดยจะมารับหลังเลิกงาน แต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่มารับซึ่งเป็นเรื่องปกติ ส่วนตนเมื่อรับเด็กมาเลี้ยงก็มีปัญหากับภรรยา โดยภรรยาได้พาลูกสาวออกไปอยู่บ้านญาติ ช่วงนั้นตนก็เลี้ยงเด็กชายดังกล่าวมาตลอด
ซึ่งก่อนเกิดเหตุคืนวันที่ 2 เม.ย. เมื่อเด็กชายนอนหลับ ตนก็ได้ออกไปหาภรรยาซึ่งไปอยู่บ้านญาติ หลังจากนั้น ก็ได้เดินทางกลับมายังห้องพัก ซึ่งมีเพื่อนตามกลับมาด้วย เมื่อมาถึงห้องพักก็พบว่า เด็กตกลงมาอยู่ข้างเตียงแล้ว ส่วนเพื่อนเมื่อเสร็จธุระกับตนก็ได้เดินทางกลับไป ตัวเองก็ได้ยกเด็กขึ้นมาเพื่อจะนำไปนอนบนเตียงอีกครั้ง แต่พบว่า เด็กหายใจรวยริน จึงตัดสินใจอุ้มเด็กไปส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อถึงโรงพยาบาลพบว่า เด็กเสียชีวิตแล้ว ด้วยความตกใจจึงตัดสินใจหนีไปตั้งหลัก และเข้ามอบตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยที่จะไปขอเด็กจากแม่เพื่อนำมาเลี้ยงเอง แต่ในทางกลับกัน แม่เด็กจะเป็นคนที่โทรศัพท์มาเพื่อนำลูกมาฝากเองทุกครั้ง และยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายเด็ก รักเด็กเหมือนลูก ที่ผ่านมา ช่วงที่พาเด็กมาเลี้ยงจะพาไปไหนมาไหนด้วยตลอด พร้อมยอมรับว่ามีการใช้ยาเสพติดประเภทพืชกระท่อมบ้างในบางครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ นางมนทา พิมไชยศรี แม่ของเด็กกล่าวต่อผู้สื่อข่าวในขณะที่กำลังประกอบพิธีฌาปกิจศพ ว่า ตนมีลูก 2 คนเป็นหญิง 1 คน และชาย 1 คน น้องบ่าวที่เสียชีวิ โดยก่อนหน้านี้ได้รู้จักกับนายสมศักดิ์ ซึ่งที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เห็นว่าตนต้องทำงานกลางคืนจึงไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูกจึงอาสารับเด็กไปดูแลให้เป็นครั้งคราว โดยครั้งแรกที่พาไปเลี้ยงกลับมาลูกมีรอยเหมือนโดนไฟบุหรี่จี้ที่หลังมือ แต่นายสมศักดิ์ บอกว่าถูกน้ำร้อนหยดใส่ ครั้งที่ 2 ลูกกลับมาพบว่าที่รอยที่เท้าเหมือนถูกไฟไหม้ ตนสอบถามนายสมศักดิ์ บอกว่า น้องเล่นไปโดนเหล็กตะแกรงปิ้งลูกชิ้นซึ่งตนก็รู้สึกแปลกๆ จึงไม่ให้นายสมศักดิ์ นำลูกไปเลี้ยงพักใหญ่
จนกระทั่งล่าสุด นายสมศักดิ์ ติดต่อมาบอกว่า คิดถึงน้องอยากเอาไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมตนก็ไม่ให้ นายสมศักดิ์ มาตามตื๊อหลายครั้ง ตนจึงให้ลูกไปอยู่ด้วยเป็นครั้งที่ 3 กลับมาครั้งนี้ศีรษะและอวัยวะเพศบวม นายสมศักดิ์ บอกว่า อวัยวะเพศน้องถูกมดกัด ส่วนศีรษะที่บวมเนื่องจากเค้าทะเลาะกับภรรยาแล้วภรรยาผลักจนล้มลงไปโดนเด็กชายบ่าว ทำให้ศีรษะบวม ซึ่งตนนำลูกมารักษาอาการบวมประมาณหนึ่งอาทิตย์ นายสมศักดิ์ ก็มาขอเด็กไปดูแลอีกตนก็ให้ไปแต่ให้ไปดูแลเฉพาะช่วงกลางคืนเพราะตนต้องทำงานพอรุ่งเช้าก็ไปรับลูกกลับมา
ซึ่งครั้งนี้ได้บอกต่อ นายสมศักดิ์ ว่า ถ้าลูกเป็นอะไรอีกตนจะเอาเรื่องแล้วนะ ซึ่งนายสมศักดิ์ พาเด็กไปเลี้ยงได้ 2 คืน คืนที่ 3 ประมาณ 02.00 น. นายสมศักดิ์ โทร.มาบอกว่าลูกชายตกเตียงอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ตนตกใจมากจึงรีบตามไปเมื่อถึงโรงพยาบาลพบว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว และจากการตรวจของแพทย์พบว่า ลูกมีอาการเลือดออกในสมอง มีแผลฟกช้ำตามร่างกาย และทวารหนักมีลักษณะบวม ตนจึงได้แจ้งตำรวจเนื่องจากสงสัยว่าเด็กอาจจะถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งเมื่อวันที่ 3 เม.ย. เวลา 01.30 น. ว่า มีเด็กชายอายุ 1 ปี 3 เดือน ถูกทำร้ายเสียชีวิต ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย โดยศพอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต หลังรับแจ้งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดโรงพยาบาล พบ น.ส.มณฑา พิมไชยศรี มารดาของเด็กชายคนดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า เด็กมีรอยฟกช้ำตามลำตัว ขา และบริเวณก้นกบ และจากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่า ก่อเกิดเหตุ เด็กชายไปอาศัยอยู่กับนายสมศักดิ์ หรืออ้วน ยะก๊บ อายุ 38 ปี ที่ห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองภูเก็ต ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามนายสมศักดิ์ ไปยังห้องพักดังกล่าวแต่ไม่พบตัว และจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า นายสมศักดิ์ ได้หลบหนีไปต่างจังหวัดหลังจากนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่จึงออกติดตาม และออกหมายจับในข้อหาทำร้ายร่ายการผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนศพของเด็กทางเจ้าหน้าที่ส่งไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด วันนี้ (7 เม.ย.) ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.ไกรทอง จันทร์ทองใบ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.คุณเดช ณ หนองคาย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ร่วมกันควบคุมตัว นายสมศักดิ์ ยะก๊บ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ซึ่งเข้ามอบตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อคืนวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
พ.ต.อ.ไกรทอง กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งจากการสอบปากคำ นางมณฑา พิมไชยศรี มารดาเด็กในเบื้องตน ทราบว่า ทำงานที่ร้านคาราโอเกะ ซอยดำรง ต.ตลาดใหญ่ และต่อมาได้รู้จักกับนายสมศักดิ์ ซึ่งมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง เมื่อนายสมศักดิ์ เห็นลูกชายของนางมณฑา ก็เกิดความเอ็นดูเนื่องจากนายสมศักดิ์ ไม่มีลูกชาย จึงมารับลูกชายของนางมณฑา ไปเลี้ยงดูเป็นประจำ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17 .00 น. นายสมศักดิ์ มารับเด็กชายคนดังกล่าวไปจากห้องเช่า โดยรับปากว่าจะมาส่งห้องพักในวันรุ่งขึ้น แต่เมื่อครบกำหนดกลับไม่นำตัวมาส่ง
จนกระทั่งวันที่ 2 เม.ย. มารดาเด็กได้ให้เพื่อนซึ่งพักอยู่โรงแรมเดียวกับนายสมศักดิ์ ไปดูที่ห้องพักก็ได้รับแจ้งว่า เด็กชายอยู่กับนายสมศักดิ์ อย่างปกติ จนกระทั่งเวลา 02.00 น. วันที่ 3 เม.ย. มารดาเด็กได้รับแจ้งจากนายสมศักดิ์ ว่า เด็กชายตกเตียงหมดสติ และนำส่งโรงพยาบาลแล้ว หลังรับแจ้งมารดาเด็กก็ได้ตามไปที่โรงพยาบาลพบว่า เด็กเสียชีวิตแล้ว และพบว่าตามร่างกายมีรอยฟกช้ำผิดปกติจึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หลังรับแจ้งทางตำรวจก็เดินทางไปตรวจสอบพบเด็กมีรอยฟกช้ำหลายจุดจริง จึงเดินทางไปตรวจสอบที่ห้องพัก และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ และออกติดตามจับกุม และขอศาลอนุมัติหมายจับ นายสมศักดิ์ จนกระทั่งนายสมศักดิ์ ตัดสินใจเข้ามอบตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสู้คดี ซึ่งจากการสอบปากคำในเบื้องต้น นายสมศักดิ์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตัวเองไม่ได้ทำร้ายเด็กชายคนดังกล่าว ซึ่งเด็กชายคนนี้ตัวเองรักเหมือนลูก เวลามาอยู่ก็จะเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ส่วนใหญ่แม่เด็กจะโทร.มาฝากให้ตัวเองเลี้ยง ถ้าสะดวกก็จะไปรับมาเลี้ยง ซึ่งแม่เด็กก็ฝากเด็กมาเลี้ยงหลายครั้งแล้ว ครั้งล่าสุด ก็เมื่อวันที่ 31 มี.ค. แม่เด็กโทร.มาบอกว่าจะฝากเด็กเลี้ยง 1 วัน โดยจะมารับหลังเลิกงาน แต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่มารับซึ่งเป็นเรื่องปกติ ส่วนตนเมื่อรับเด็กมาเลี้ยงก็มีปัญหากับภรรยา โดยภรรยาได้พาลูกสาวออกไปอยู่บ้านญาติ ช่วงนั้นตนก็เลี้ยงเด็กชายดังกล่าวมาตลอด
ซึ่งก่อนเกิดเหตุคืนวันที่ 2 เม.ย. เมื่อเด็กชายนอนหลับ ตนก็ได้ออกไปหาภรรยาซึ่งไปอยู่บ้านญาติ หลังจากนั้น ก็ได้เดินทางกลับมายังห้องพัก ซึ่งมีเพื่อนตามกลับมาด้วย เมื่อมาถึงห้องพักก็พบว่า เด็กตกลงมาอยู่ข้างเตียงแล้ว ส่วนเพื่อนเมื่อเสร็จธุระกับตนก็ได้เดินทางกลับไป ตัวเองก็ได้ยกเด็กขึ้นมาเพื่อจะนำไปนอนบนเตียงอีกครั้ง แต่พบว่า เด็กหายใจรวยริน จึงตัดสินใจอุ้มเด็กไปส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อถึงโรงพยาบาลพบว่า เด็กเสียชีวิตแล้ว ด้วยความตกใจจึงตัดสินใจหนีไปตั้งหลัก และเข้ามอบตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยที่จะไปขอเด็กจากแม่เพื่อนำมาเลี้ยงเอง แต่ในทางกลับกัน แม่เด็กจะเป็นคนที่โทรศัพท์มาเพื่อนำลูกมาฝากเองทุกครั้ง และยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายเด็ก รักเด็กเหมือนลูก ที่ผ่านมา ช่วงที่พาเด็กมาเลี้ยงจะพาไปไหนมาไหนด้วยตลอด พร้อมยอมรับว่ามีการใช้ยาเสพติดประเภทพืชกระท่อมบ้างในบางครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ นางมนทา พิมไชยศรี แม่ของเด็กกล่าวต่อผู้สื่อข่าวในขณะที่กำลังประกอบพิธีฌาปกิจศพ ว่า ตนมีลูก 2 คนเป็นหญิง 1 คน และชาย 1 คน น้องบ่าวที่เสียชีวิ โดยก่อนหน้านี้ได้รู้จักกับนายสมศักดิ์ ซึ่งที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เห็นว่าตนต้องทำงานกลางคืนจึงไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูกจึงอาสารับเด็กไปดูแลให้เป็นครั้งคราว โดยครั้งแรกที่พาไปเลี้ยงกลับมาลูกมีรอยเหมือนโดนไฟบุหรี่จี้ที่หลังมือ แต่นายสมศักดิ์ บอกว่าถูกน้ำร้อนหยดใส่ ครั้งที่ 2 ลูกกลับมาพบว่าที่รอยที่เท้าเหมือนถูกไฟไหม้ ตนสอบถามนายสมศักดิ์ บอกว่า น้องเล่นไปโดนเหล็กตะแกรงปิ้งลูกชิ้นซึ่งตนก็รู้สึกแปลกๆ จึงไม่ให้นายสมศักดิ์ นำลูกไปเลี้ยงพักใหญ่
จนกระทั่งล่าสุด นายสมศักดิ์ ติดต่อมาบอกว่า คิดถึงน้องอยากเอาไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมตนก็ไม่ให้ นายสมศักดิ์ มาตามตื๊อหลายครั้ง ตนจึงให้ลูกไปอยู่ด้วยเป็นครั้งที่ 3 กลับมาครั้งนี้ศีรษะและอวัยวะเพศบวม นายสมศักดิ์ บอกว่า อวัยวะเพศน้องถูกมดกัด ส่วนศีรษะที่บวมเนื่องจากเค้าทะเลาะกับภรรยาแล้วภรรยาผลักจนล้มลงไปโดนเด็กชายบ่าว ทำให้ศีรษะบวม ซึ่งตนนำลูกมารักษาอาการบวมประมาณหนึ่งอาทิตย์ นายสมศักดิ์ ก็มาขอเด็กไปดูแลอีกตนก็ให้ไปแต่ให้ไปดูแลเฉพาะช่วงกลางคืนเพราะตนต้องทำงานพอรุ่งเช้าก็ไปรับลูกกลับมา
ซึ่งครั้งนี้ได้บอกต่อ นายสมศักดิ์ ว่า ถ้าลูกเป็นอะไรอีกตนจะเอาเรื่องแล้วนะ ซึ่งนายสมศักดิ์ พาเด็กไปเลี้ยงได้ 2 คืน คืนที่ 3 ประมาณ 02.00 น. นายสมศักดิ์ โทร.มาบอกว่าลูกชายตกเตียงอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ตนตกใจมากจึงรีบตามไปเมื่อถึงโรงพยาบาลพบว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว และจากการตรวจของแพทย์พบว่า ลูกมีอาการเลือดออกในสมอง มีแผลฟกช้ำตามร่างกาย และทวารหนักมีลักษณะบวม ตนจึงได้แจ้งตำรวจเนื่องจากสงสัยว่าเด็กอาจจะถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต