xs
xsm
sm
md
lg

สนช.ดันแก้ กม.สื่อลามกเด็ก คุกสูงสุด 7 ปีปรับ 1.4 แสน “วิษณุ” ขอชง ครม.20 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดันแก้ กม.คุมเข้มสื่อลามกอนาจารเด็กไม่เกิน 18 ปี ห้ามผลิต-จำหน่าย-ครอบครอง ฝ่าฝืนเจอคุกสูงสุด 7 ปี ปรับ 1.4 แสน สมาชิกติงโทษปรับเบาเกินไป แฉนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักชอปเซ็กซ์เด็ก ทุ่มเงินซื้อกระบวนการยุติธรรมไทยลอยนวล ด้าน “วิษณุ” ขอส่งเข้า ครม.20 วันก่อนส่งกลับสภาลงมติต่อไป

วันนี้ (19 ก.พ.) ที่รัฐสภา การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.... เสนอโดย น.ส.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร สนช.กับคณะ ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ เพื่อกำหนดให้ความผิดเกี่ยวกับการครอบครองสื่อลามกอนาจารเป็นความผิดเฉพาะการมีไว้ครอบครองเพื่อการค้า เพื่อการแจกจ่าย หรือเพื่อการแสดงอวดประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาหรือทำให้แพร่หลายด้วยประการใดๆ ประกอบการค้า หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการค้า โดยไม่ได้แยกประเภทของสื่อลามกอนาจารผู้ใหญ่ และสื่อลามกอนาจารเด็ก ซึ่งการครอบครองสื่อลามกอนาจารผู้ใหญ่ ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่สามารถกระทำได้ แต่สื่อลามกเด็กเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็กตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ประกอบกับการผลิตสื่อลามกอนาจารเด็กเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาชัดแจ้ง นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าว เป็นปัจจัยหนึ่งซึ่งก่อให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก สมควรที่จะกำหนดให้มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา

ในร่างดังกล่าวได้กำหนดคำนิยามคำว่า “สื่อลามกอนาจารเด็ก” ไว้ในมาตรา 3 หมายถึงสื่อไม่ว่าจะอยู่ในรูปของเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย คลิปวิดีโอ คลิปเสียง หากผู้ใดที่มีวัตถุหรือสื่อลามกอนาจารของเด็กอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไว้ในความครอบครอง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ใดมีวัตถุหรือสื่อลามกอนาจารของเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไว้ในความครอบครองฯ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากผู้ใดทำเพื่อการค้า หรือโดยการค้าเพื่อแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวด นำเข้า ส่งออกพาไปหรือทำให้แพร่หลายของสื่อลามกอนาจารของเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการค้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ น.ส.จินตนันท์กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้พยายามผลักดันกฎหมายฉบับนี้ มา 8 ปี 4 รัฐบาล แต่ไม่สำเร็จ ไม่ทราบว่าเด็กโดนกระทำไปแล้วเท่าไหร่ จึงหวังว่า สนช.และรัฐบาลจะเห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข ซึ่งจะช่วยปรับระดับการค้ามนุษย์ในไทยให้อยู่ในอันดับที่ดีขึ้น เนื่องจากปีที่ผ่านมาสหรัฐปรับสถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทยให้เป็นประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ การใช้แรงงานเด็กและการมีสื่อลามกอนาจารเด็ก ไทยควรมีมาตรการกฎหมายกำหนดความผิดและลงโทษทางอาญาป้องกันการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็กตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สนช.กล่าวสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ว่าเพราะเป็นไปตามอนุสัญญาโลก ขณะนี้มีการต่อต้านสื่อลามก 4 ลักษณะ คือ การห้ามนำภาพที่เป็นการสมสมสู่ของบุคคลในครอบครัวที่ไม่ใช่สามีภรรยา สื่อที่สมสู่ทางเพศระหว่างมนุษย์กับสัตว์ ซึ่งในประเทศไทยยังมีพฤติกรรมนี้อยู่พอสมควร การร่วมเพศในเชิงวิตถาร และการร่วมประเวณีกับเด็ก หรือการเผยแพร่ภาพเด็กมีประเวณีต่อกัน หรือใช้เด็กปรากฏในสื่อลามกอนาจาร ตนคิดว่ารัฐบาลก็มีความพยายามผลักดันกฎหมายป้องกันและปราบปรามพฤติกรรมอันตรายอยู่ เพียงแต่เป็นเรื่องที่กว้างๆ ไม่ได้เจาะจงด้านสื่อลามกเด็ก

คุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี สนช.อภิปรายว่า เห็นด้วยต่อหลักการกฎหมายที่การกำหนดให้ผู้ครอบครอง จำหน่ายผลิต ให้มีโทษหนักกว่าสื่อลามกอนาจารผู้ใหญ่ แต่เห็นว่าบทกำหนดโทษ มาตรา 4 เพิ่มโทษจำคุกเป็นไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท นั้นอาจไม่สอดคล้องกับการวางหลักเกณฑ์เทียบเคียงที่ให้โทษจำคุก 1 ปี เท่ากับโทษปรับ 2 หมื่นบาท ดังนั้น หากเทียบกับโทษไม่เกิน 3 ปีโทษควรจะเป็น 6 หมื่นบาท เพื่อความสอดคล้องกัน

นายสุธรรม พันธุศักดิ์ สมาชิก สนช.กล่าวว่า จากที่ตนมีประสบการณ์ในการทำหน้าที่อดีต ส.ว.และมีโอกาสร่วมหารือกับสภาในยุโรป ประเทศไทยถูกมองว่าล้าหลังในเรื่องนี้เพราะไม่มีการเอาจริงเอาจัง ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อคนไทยมากนัก แต่จะมีผลกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเพื่อแสวงหาทางเพศกับเด็กโดยเฉพาะเด็กที่เป็นผู้ชาย และเป็นการปราบปรามที่ลำบากเพราะมีการค้ามนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะพ่อแม่ที่มีฐานะยากจนจะยกเด็กให้เป็นบุตรบุญธรรมอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือขายให้กับนักท่องเที่ยวเพื่ออ้างเป็นบุตรบุญธรรมและใช้กระทำไม่ดีทางเพศ และใช้สื่อลามกล่อลวงเด็ก

“ผมเห็นด้วยว่ามีการกำหนดโทษน้อยเกินไป เพราะข้อเท็จจริงพวกที่มีรสนิยมแสวงหาทางเพศกับเด็ก หรือพวกวิปริตทางเพศ มักจะมีฐานะดี และใช้เงินซื้อทุกอย่างแม้แต่กระบวนการยุติธรรมของไทย บางครั้งใช้การประกันตัวออกไปและเปลี่ยนพาสปอร์ตเข้ามาใหม่หลายครั้ง ดังนั้นควรจะมีการปรับโทษให้สูงขึ้น และควรจะปรับภาพลักษณ์ของประเทศให้เห็นว่าเด็กเป็นทรัพยากรที่สำคัญด้วย”

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม แจ้งต่อที่ประชุมว่า การเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นการเสนอของสมาชิก สนช.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 14 วรรค 5 ซึ่งรัฐบาลอาจสามารถขอรับไปพิจารณาก่อน สนช.จะมีการลงมติพิจารณารับหลักการได้จึงจะขอฟังความเห็นจากตัวแทนรัฐบาลก่อน

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเสนอขอแก้ไขกฎหมายอาญาซึ่งถือเป็นกฎหมายหลักของประเทศ มีปัญหาที่จะต้องพิจารณาว่าจะกระทบกับกฎหมายเดิมที่มีอยู่แล้วหรือไม่ หรือตามเหตุผลที่เสนอร่าง พ.ร.บ.ที่อ้างถึงอนุสัญญาสิทธิเด็กฯ นั้นจะต้องตรวจสอบให้ถ่องแท้ว่าการจะอนุวัติเนื้อหาตามอนุสัญญาครบถ้วนหรือไม่ รวมทั้งจะต้องพิจารณาว่าซ้ำซ้อนกฎหมายเดิม รวมทั้งอัตราโทษที่มีสมาชิกตั้งข้อสังเกต จึงขออนุญาตนำกลับไปพิจารณา 20 วันนับจากวันที่ได้รับแจ้งและเสนอความเห็นกลับมายัง สนช.ก่อนเข้าสู่การพิจารณารับหลักการต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น