นครศรีธรรมราช - คนร้ายบุกยิงแม่เฒ่าวัย 88 ปี ตายสยองพร้อมบุตรบุญธรรม 2 ศพ ตำรวจพุ่งปมสังหารขัดแย้งเรื่องมรดก การล้างแค้นของนักโทษขาใหญ่ และธุรกิจนอกกฎหมายของหลานชาย
วันนี้ (18 ม.ค.) ร.ต.ท.สุกรี พรหมมาศ พนักงานสอบสวน สภ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ได้รายงานความคืบหน้าของการสอบสวนคดีในกรณีรับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย 2 ศพ ที่บ้านเลขที่ 33 ม.4 ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.อ.เชิดชัย โชติสุทธิ์ ผกก.สภ.ลานสกา พ.ต.ท.ศิรพงศ์ โพธิพัฒน์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ประเสริฐ นาคคง รอง ผกก.สส.
โดยในที่เกิดเหตุพบศพ นางเพ็ญ ขวัญอ่อน อายุ 88 ปี เจ้าของบ้านนอนเสียชีวิตที่เตียงนอน สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม.เข้าใบหน้า 1 นัด อยู่ในชุดใส่เสื้อคอกระเช้าสีขาว นุ่งผ้าถุงลายล่องสีดำ-แดง ใกล้กันพบศพ นายสฤษดิ์ ทิพย์สวรรค์ อายุ 57 ปี เป็นบุตรบุญธรรมของนางเพ็ญ นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ในชุดนุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา ไม่สวมเสื้อ สภาพศพถูกยิงอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้ากลางศีรษะ 1 นัด และในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนปืน 11 มม.ตกอยู่ 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยภายในบ้านไม่มีร่องรอยรื้อค้นแต่อย่างใด ซึ่งทรัพย์สินของผู้ตายยังอยู่ครบ
เพื่อนบ้านระบุว่า บ้านหลังนี้ นางเพ็ญ อยู่กับหลานชายคนหนึ่งแต่ไม่ค่อยอยู่บ้าน โดยมีนายสฤษดิ์ บุตรบุญธรรมมาดูแลทุกวัน ก่อนพบศพไม่เห็นนางเพ็ญ ผู้ตาย และนายสฤษดิ์ ออกมาเดินพูดคุยกับเพื่อนบ้านเหมือนวันก่อนๆ ตกกลางคืนก็ปิดไฟเงียบผิดปกติทำให้เกิดความสงสัย ญาติและเพื่อนบ้านจึงพากันไปเรียกก็ไม่มีเสียงตอบ จึงเข้าไปดูภายในถึงกับผงะ เนื่องจากพบว่า นางเพ็ญ กับนายสฤษดิ์ ถูกฆ่าตายอยู่ในบ้านแล้ว
พ.ต.ท.ศิรพงศ์ โพธิพัฒน์ รอง ผกก.ป.สภ.ลานสกา กล่าวว่า ตำรวจได้ตั้งประเด็นการตายมาจากขัดแย้งในเครือญาติเรื่องมรดก ซึ่งสามีของนางเพ็ญ นั้นเสียชีวิตไปแล้ว แต่มีภรรยา 2 คน และมีลูกกับภรรยาทั้ง 2 หลายคน อาจเป็นชนวนเหตุที่คนร้ายมาฆ่านางเพ็ญ และฆ่านายสฤษดิ์ เพื่อปิดปาก อีกประเด็นพบว่า หลานชายของนางเพ็ญ ไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ่งกับภรรยาของนักโทษขาใหญ่รายหนึ่งในคุก จนนักโทษรายดังกล่าวทราบจึงสั่งให้พรรคพวกมาฆ่าล้างแค้น แต่หลานชายของนางเพ็ญ ไม่อยู่ จึงฆ่านางเพ็ญ และนายสฤษดิ์ แทน
นอกจากนั้น ยังพบว่าหลานชายของนางเพ็ญ นั้นมีเพื่อนมาก และไปพัวพันกับธุรกิจผิดกฎหมายแล้วไปเป็นหนี้ในธุรกิจดังกล่าว คนร้ายจึงตามหาหลานชายนางเพ็ญ ที่บ้านแต่ไม่พบ จึงฆ่าคนที่อยู่ในบ้านแทน ซึ่งจะเร่งทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อคลี่คลายคดีโดยเร็ว เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ รวมทั้งเร่งหาสาเหตุที่รัดกุมกว่านี้ เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป