xs
xsm
sm
md
lg

โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยันบุกจับผู้ต้องหาใน “สถาบันศึกษาปอเนาะ” เป็นไปอย่างถูกต้อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ปัตตานี - พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยันการบุกจับ “นายอับดุลเลาะ สาแม” ผู้ต้องหาความมั่นคง ตามหมายจับ ป.วิอาญา กลางสถาบันปอเนาะเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย เชื่อเจ้าหน้าที่ไม่มีเจตนาแอบแฝงทำลายชื่อเสียงสถาบัน วอนสื่อใช้ความระมัดระวังในการนำเสนอข่าว หวั่นอาจก่อให้เกิดความเกลียดชัง

วันนี้ (23 มี.ค) เมื่อเวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. เปิดเผยว่า ตามที่เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ได้สนธิกำลังเข้าติดตามจับกุม นายอับดุลเลาะ สาแม บุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา ที่ใช้สถาบันศึกษาปอเนาะนัฮฏอตุลอุลูมิดีนียะฮ์ เป็นแหล่งหลบซ่อนตัว สามารถตรวจยึดอาวุธปืนสงคราม เครื่องกระสุน อุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิด และอื่นๆ รวม 95 รายการ

ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 18-19 กุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งต่อมาภายหลัง นายมะรอนี นิเซ็ง โต๊ะครู/เจ้าของสถานศึกษาปอเนาะดังกล่าวออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ “ASTVผู้จัดการออนไลน์” เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำลายชื่อเสียง และเกียรติภูมิในขณะที่เข้าทำการตรวจค้น ดังที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

กรณีดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจว่า การจัดกำลังเข้าติดตามจับกุม และตรวจค้นในครั้งนั้น หน่วยได้ปฏิบัติตามนโยบายของแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ได้กำชับให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวังมิให้ส่งผลกระทบ และเกิดเป็นเงื่อนไขขึ้นในพื้นที่ สำหรับกรณีดังกล่าวเป็นการเข้าติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงซึ่งหลบซ่อนอยู่ในสถานศึกษาปอเนาะ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบหลักฐานทั้งภายใน และภายนอกปอเนาะ หลายรายการ เช่น หมวกแก๊ปสีดำ ซึ่งยึดได้จากห้องพักภายในปอเนาะ

จากการตรวจสอบพบว่า เป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สูญหายจากเหตุยิง และเผา แล้วชิงรถยนต์นางเบญจพร (ภรรยา) เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 และอาวุธปืนสงคราม 3 กระบอก ซุกซ่อนห่างจากปอเนาะประมาณ 20-100 เมตร และอยู่ในลักษณะที่พร้อมใช้งาน โดยจากการตรวจสอบพบว่า ได้ปล้นแย่งชิงมาจากเจ้าหน้าที่ และนำไปก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าว

พ.อ.ปราโมทย์ ยังกล่าวอีกว่า ในขณะที่ทำการตรวจค้นได้ให้ นายมะรอนี นิเซ็ง ในฐานะเจ้าของสถานที่เป็นผู้นำตรวจ มิใช่ผู้ครอบครองอาวุธ และไม่เคยกล่าวหาว่าพบอาวุธภายในปอเนาะ ทั้งนี้หน่วยได้มีการชี้แจงสร้างความเข้าใจ และไม่มีการใช้คำพูดที่ไม่สุภาพเพื่อทำลายเกียรติเนื่องจากทุกคนต่างเข้าใจ และตระหนักถึงเงื่อนไขที่อาจเกิดขึ้น จึงเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนมุ่งเน้น การบังคับใช้กฎหมายโดยไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงที่ต้องการทำลายเกียรติของความเป็นโต๊ะครู และทำลายชื่อเสียงสถาบันปอเนาะแต่อย่างใด

แต่ในขณะเดียวกัน กลับพบว่า ในห้วงที่ผ่านๆ มากลุ่มขบวนการมักแอบแฝงใช้สถาบันปอเนาะบางแห่งหลบซ่อนตัว ซ่อนอาวุธ ดังเช่นเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้สถานศึกษาปอเนาะ ซึ่งมีคุณูปการต่อพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ต้องมีมลทิน จึงถือได้ว่าเป็นผู้ที่ทำลายเกียรติยศ และชื่อเสียงของสถาบันการศึกษาปอเนาะอย่างแท้จริง

“ทั้งนี้ผลการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ (DNA) จากวัตถุพยานที่ยึดได้ สามารถยืนยันได้ว่า มีบุคคลตามหมายจับ 3 คน พร้อมอาวุธปืน 2 กระบอก เข้ามาพักหลบซ่อนในสถานศึกษาปอเนาะดังกล่าวจริง ซึ่งโต๊ะครู/เจ้าของปอเนาะ ในฐานะเจ้าของสถานที่คงไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ สำหรับจะมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่นั้นจะต้องสืบสวนสอบสวนต่อไป ทั้งนี้ขอให้เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

โดยจะดำเนินการตามพยานหลักฐาน และผลการสอบสวนเพื่อนำผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมทั้งขอให้สื่อมวลชนบางสำนักใช้ความระมัดระวังในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในสถานการณ์ที่ล่อแหลม และเปราะบางที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำลายความเชื่อมั่นในระบบอำนาจรัฐ และสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในสังคมดังเช่นครั้งนี้ และหลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น