โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. แจงเหตุโจรใต้กราดยิงครูสอนศาสนาดับ ลูกชายสาหัส

ยะลา - โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงกรณีคนร้ายลอบยิงราษฎรครูสอนศาสนาอำเภอเบตง จังหวัดยะลา วอนทุกฝ่ายช่วยประณามการก่อเหตุในครั้งนี้ เผยแม่ทัพภาค 4 สั่งเจ้าหน้าที่คุมเข้มดูแลเป้าหมายอ่อนแอ หวั่นตกเป็นเป้า

วันนี้ (13 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนเล็กยาว AK 47 ยิงราษฎรเสียชีวิต 1 ราย คือ นายอาซัน มะแตหะ อายุ 43 ปี อาชีพ ครูสอนศาสนา บ้านเลขที่ 250 หมู่ที่ 1 ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา

โดยกระสุนปืนถูกบริเวณราวนมด้านซ้าย และแผ่นหลัง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และเด็กได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 1 ราย คือ ด.ช.อัยมัน มะแตหะ อายุ 7 ปี บ้านเลขที่ 45 บ้านธารมะลิ หมู่ที่ 4 ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นบุตรชายของ นายฮาซัน กระสุนปืนถูกบริเวณท้อง ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2557 เวลา 20.30 น. บ้านเลขที่ 45 บ้านธารมะลิ หมู่ที่ 4 ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา

“จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว และญาติของผู้ที่เสียชีวิต และบาดเจ็บ จากการกระทำอย่างโหดร้าย ป่าเถื่อน และไร้มนุษยธรรมของกลุ่มขบวนการที่มีพฤติกรรมแบบสุดโต่ง เผด็จการ และก่อการร้าย โดยพฤติกรรมของกลุ่มขบวนการ และองค์กรเครือข่ายกว่า 10 ปีที่ผ่านมา คือ การบิดเบือนข้อเท็จจริงจากสถานการณ์ด้วยการทำร้ายพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ให้ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ สร้างความหวาดระแวง และความเกลียดชัง ซึ่งเป็นสิ่งที่สมควรต้องได้รับการประณามอย่างกว้างขวาง จึงขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) และเครือข่ายองค์กรที่เคลื่อนไหวเรียกร้องหาความเป็นธรรมในพื้นที่ร่วมกันประณามกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง และให้ยุติพฤติกรรมดังกล่าว” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าว

โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุทางท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งกำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐาน โดยใช้กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเร่งติดตามผู้ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้มาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมโดยเร็วที่สุด รวมทั้งกำชับให้ทุกหน่วยเฝ้าระวังการฉกฉวยโอกาสของกลุ่มกระบวนการด้วยการบิดเบือนว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐแล้วทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงมุ่งเน้นการปฏิบัติงานภายใต้หลักกฎหมายที่เสมอภาค และเป็นธรรมอย่างเคร่งครัด