xs
xsm
sm
md
lg

กอ.รมน.ภาค 4 สน.ชี้แจงจับ 3 แกนนำ RKK พร้อมขอบคุณประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปัตตานี - พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงเหตุเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายสนธิกำลังเข้าจับกุม 3 แกนนำผู้ก่อเหตุรุนแรง กล่าวขอบคุณประชาชนแจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุม ย้ำการจับกุมเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมรับผู้เคยหลงผิดกลับใจเข้าโครงการพาคนกลับบ้าน

วันนี้ (14 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย เข้าติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรง ตามหมายจับในพื้นที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2557 เวลา 02.00 น. ทำให้สามารถจับกุมแกนนำผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นายอาสมาลเจะบา อายุ 33 ปี นายอาฟันดี กาพา อายุ 28 ปี และนายสุกรี สาแม อายุ 35 ปี แกนนำ RKK

พร้อมตรวจยึดอาวุธปืน จำนวน 5 กระบอก ประกอบด้วย ปืนเล็กยาว HK - 33 จำนวน 1 กระบอก, ปืนพกขนาด 9 มิลลิเมตร จำนวน 2 กระบอก, ปืนพก ขนาด .38 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก, ปืนเล็กยาว .22 มิลลิเมตร จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนกว่า 500 นัด และตรวจยึดอุปกรณ์ในการประกอบวัตถุระเบิดจำนวนมาก เช่น ถังแก๊สขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัม จำนวน 1 ถัง, ขนาด 5 กิโลกรัม 1 ถัง และอุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิดอีกหลายรายการ รวมทั้งรถจักรยานยนต์พร้อมป้ายทะเบียนปลอม จำนวน 2 คัน

จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจดังนี้ 1.ผลสำเร็จจากการปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบาย และสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก/หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ได้เน้นย้ำให้หน่วยปฏิบัติการเชิงรุก และจำกัดเสรีในการปฏิบัติ และติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษาตามกฎหมาย และความร่วมมือของพี่น้องประชาชนที่เบื่อหน่ายความรุนแรง และพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ช่วยกันแจ้งเบาะแสนำไปสู่การจับกุม ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนได้แสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงกลุ่มดังกล่าวได้

2.ผู้ก่อเหตุรุนแรงกลุ่มดังกล่าว เป็นบุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา และหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จำนวนหลายหมาย เนื่องจากมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ ทั้งการลอบยิง และลอบวางระเบิดจำนวนหลายเหตุการณ์ ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัฐ และพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ละเมิดต่อหลักกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงมาอย่างต่อเนื่อง

3.การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก เพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมาย จึงไม่เกิดความสูญเสียขึ้น โดยทุกคนจะได้รับการปฏิบัติในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเสมอภาค และเป็นธรรม ซึ่งเป็นวิธีที่เจ้าหน้าที่ทุกคนยึดถือ และปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเสมอมา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมหลักฐานเพื่อตรวจสอบสารพันธุกรรม (DNA) รวมทั้งพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และขยายความเชื่อมโยงต่อไป สำหรับอาวุธปืนที่ยึดได้ทั้ง 5 กระบอก เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบแหล่งที่มา และความเชื่อมโยงกับคดีอื่นๆ ต่อไป

4.อย่างไรก็ตาม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่กระทำความผิด และผู้เห็นต่างมาร่วมกันสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยการยุติการใช้ความรุนแรง และเข้ารายงานตัวแสดงตนตาม “โครงการพาคนกลับบ้าน” โดยเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะให้ความสะดวกในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ สามารถแจ้งความประสงค์กับผู้นำท้องที่, ผู้นำท้องถิ่น, ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ หรือหน่วยเฉพาะกิจประจำพื้นที่ได้ตลอดเวลา


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น