xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ทหาร ตรังจับนักศึกษามีอาวุธสงคราม เร่งสอบพัวพันคดียาเสพติดหรือไม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง - ตำรวจ ทหาร ตรัง แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาอาวุธสงคราม และยาเสพติด โดย 1 ในผู้ต้องหาเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังของภาคใต้ เร่งขยายผลพัวพันยาเสพติดหรือไม่ รอง กอ.รมน.ตรัง จี้ใครมีอาวุธสงครามเร่งมอบคืน เตรียมกวาดล้างทุกพื้นที่

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (16 ก.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองตรัง พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุข ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.อ.อัษฎา แสงฤทธิ์ รอง ผอ.รมน.จังหวัด ต.ง. (ฝ่ายทหาร) พ.ต.อ.ชัยรัตน์ กาญจนเนตร ผกก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.เมธี จันทร์งาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ภูมิ บาลทิพย์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ณฐาภพ พงศาปาน สวป.สภ.เมืองตรัง ร.ต.อ.ธรรมธร ศรีจันทร์ รอง สวป. ร.ต.ท.วรเดช เส็นฤทธิ์ รอง สวป. และ จนท.ตร.ศปร./ชปส.สภ.เมืองตรัง ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนสงคราม และยาเสพติด

โดยผู้ต้องหาประกอบด้วย นายรชานนท์ ขาวปาน หรือบัส อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/1 ม.2 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนเล็กยาว M 16 A 1 ขนาด 5.56 มม. เครื่องหมายประจำปืน 4921158 จำนวน 1 กระบอก ซองกระสุนปืน จำนวน 1 ซอง เครื่องกระสุนปืน ขนาด 5.56 มม. จำนวน 19 นัด จับได้ที่ห้องพักเลขที่ 7/25 ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง โดยผู้ต้องหาเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.ตรัง รับเป็นของเพื่อนนำมาฝากไว้ ไม่ทราบที่มาที่ไป

ส่วนผู้ต้องหาอีกคนหนึ่ง คือ นายเอกอนันต์ จันทร์เพชร หรือเอก อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/1 ม.8 ต.นาท่ามใต้ อ.เมือง จ.ตรัง ของกลางเป็นน้ำต้มพืชกระท่อม 3 ลิตร มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ และผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (น้ำต้มพืชกระท่อม) โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมยาบ้า จำนวน 70 เม็ด ให้การรับสารภาพว่าทำมาแล้ว 1-2 เดือน รับต่อมาครั้งละ 100 เม็ด

พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า ทางตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ดำเนินการตามนโยบายของ คสช. ด้วยการสนธิการปฏิบัติหน้าที่ร่วมระหว่างทหาร และฝ่ายปกครอง ดำเนินการปราบปรามอาวุธปืนสงคราม และยาเสพติดในพื้นที่อย่างจริงจัง จนกระทั่งสามารถจับกุมปราบปรามผู้กระทำความผิดได้อย่างต่อเนื่อง มีการตรวจค้นอาวุธสงครามอย่างเข้มข้น และยาเสพติดจะมีการขยายผลไปยังกลุ่มผู้ค้าทั้งรายย่อย และรายใหญ่ที่มีกานำอาวุธสงครามมาใช้ในการปฏิบัติงานอีกด้วย

ทั้งนี้ สำหรับอาวุธปืนที่จับได้จะนำไปตรวจสอบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดหรือไม่ เนื่องจากสถิติคดีอาชญากรรมส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในพื้นที่มักจะพัวพันกับยาเสพติด เมื่อทวงหนี้จากการค้ายาเสพติดไม่ได้ก็ใช้อาวุธสงครามก่อเหตุ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ก็ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทางด้าน พ.อ.อัษฎา แสงฤทธิ์ รอง ผอ.กอ.รมน.ต.ง.(ฝ่ายทหาร) กล่าวว่า การดำเนินการสนธิกำลัง 3 ฝ่ายจนสามารถจับกุมผู้ต้องหามีอาวุธสงครามได้ในครั้งนี้ ตนได้รายงานให้ พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาค 4 แล้ว อย่างไรก็ตาม ก็ให้มีการปฎิบัติหน้าที่ขยายผลไปเรื่อยๆ ให้สังคมมีความปรองดอง สมานฉันท์ และมีความสุขต่อไป ส่วนผู้ที่ยังมีอาวุธสงครามไว้ในครอบครองหากจับได้มีโทษสูงสุดถึงจำคุก 20 ปี และหากไม่กล้านำมามอบให้แก่ทางการ ก็ขอให้นำมาวางไว้ในที่สาธารณะที่ไหนก็ได้ แล้วแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบเพื่อดำเนินการจัดเก็บต่อไป
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น