ตำรวจและทหารนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยซุกซ่อนอาวุธสงครามและสิ่งผิดกฎหมายย่านบางแค ได้ผู้ต้องหา 1 รายเป็นลูกชายเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวพร้อมของกลางอาวุธสงคราม-ยาบ้า และอุปกรณ์เสพยาบ้า 1 ชุด
คลิกเพื่อรับยชมคลิป...
เมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ (27 มิ.ย.) พ.ต.ท.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน พร้อม พ.ต.ต.ไตรรัตน์ เพ็งนู สว.สส.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ต.เอกลักษณ์ หมวกผัน สว.สส.สน.บางขุนเทียน และ ร.ต.อ.ภีรชาติ คุ้มสังข์ รอง สว.สส.สน.บางขุนเทียน ผสานกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารร้อย รส.พัน.ขส.พล.ร.9 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 42/383 ถนนเอกชัย ซอย 43 แยก 2 แขวงและเขตบางแค กทม. หลังจากมีแหล่งข่าวแจ้งว่าเป็นสถานที่เก็บอาวุธสงคราม
ที่เกิดเหตุบ้านดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น จำนวน 1 คูหา เมื่อเจ้าหน้าที่ขอให้บุคคลภายในบ้านเปิดประตูออกมาแสดงความบริสุทธิ์ให้ตรวจค้น ปรากฏว่า นายสุเมธ พรไชยสุทธิ อายุ 33 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน รีบวิ่งหนีขึ้นไปชั้นบนทำให้กำลังส่วนหนึ่งต้องช่วยกันใช้คีมตัดเหล็กขนาดใหญ่พยายามตัดแม่กุญแจที่พันธนาการไว้บริเวณประตูทางเข้า ขณะที่หัวหน้าชุดได้สั่งการให้กำลังชุดที่ 2 วิ่งอ้อมไปทางตึกข้างเคียง ขออนุญาตเจ้าของอาคารทำการปีนเข้าไปล้อมจับทางดาดฟ้าของบ้านหลังดังกล่าว ผลปรากฏว่าทั้งตำรวจฝ่ายสืบสวนและทหารสามารถเข้าจับตัวนายสุเมธไว้ได้ขณะพยายามพุ่งตัวหนีออกจากห้องนอนบนชั้นที่ 4 เพื่อวิ่งย้อนกลับลงไปด้านล่างอีกครั้ง
จากการตรวจค้นห้องโถงชั้นที่ 1 ของตัวบ้าน พบอุปกรณ์เสพยาบ้า 1 ชุด และโครงจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน นอกจากนี้ในห้องนอนพบกระสุนปืนสงครามที่ใช้กับปืนเล็กยาวเอ็ม 16 จำนวน 11 นัด กระสุนปืนขนาด 11 มม.อีก 7 นัด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจปัสสาวะนายสุเมธพบว่าเป็นสีม่วงจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมยึดของกลางทั้งหมดไปสอบสวนดำเนินคดีที่ สน.บางขุนเทียน
นายสุเมธให้การว่า เคยถูกจับคดีเสพยาบ้ามาแล้ว 2 ครั้ง และครอบครองยาบ้าจำนวน 5 เม็ดอีก 1 ครั้ง นอกจากนี้ยังพัวพันกับคดีชิงทรัพย์จักรยานยนต์มา 1 ครั้ง แต่สู้คดีจนศาลสั่งไม่ฟ้อง ขณะนี้ไม่ได้ทำงานอะไรและยอมรับว่าเพิ่งเสพยาบ้าไปเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา โดยนำอุปกรณ์การเสพเก็บไว้ในกล่องใต้บันไดชั้นล่างเพราะไม่อยากให้แม่เห็นเกรงจะถูกด่าทอ สำหรับสาเหตุที่วิ่งหนีทหารกับตำรวจตอนเคาะประตูนั้นก็เพราะความตกใจ ส่วนกระสุนปืนที่พบในห้องทั้งหมดเป็นของญาติที่เคยรับราชการทหารนำมาฝากเก็บไว้ กรณีโครงจักรยานยนต์ที่พบเป็นของรุ่นน้องที่มาฝากจอดไว้ให้ซ่อม สามารถติดตามเจ้าของให้นำเล่มทะเบียนมายืนยันได้
พ.ต.ต.เอกลักษณ์กล่าวว่า ชุดจับกุมแจ้งข้อหาต่อนายสุเมธว่ามีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในความครอบครอง, มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาบ้า ส่วนโครงรถที่ยึดมานั้นผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นของรุ่นน้องชื่อนายโทนี่ จะต้องติดตามตัวเจ้าของรถที่แท้จริงมาตรวจสอบต่อไป หากพบว่าให้การเป็นเท็จและรถคันดังกล่าวถูกแจ้งความหายหรือได้มาอย่างผิดกฎหมายก็จะอายัดข้อหาเพิ่มเติมก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป