ยะลา - กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงกรณีศาลจังหวัดปัตตานี มีคำสั่งพิพากษาตัดสินประหารชีวิต 5 ผู้ต้องหา คดียิงถล่มเจ้าหน้าที่ทหารร้อย ร.15321 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 เสียชีวิต 4 นาย ในพื้นที่ อ.มายอ
วันนี้ (27 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พ.ต.อ.กรณ์ณพัชญ์ กิตติพิบูลย์ รองหัวหน้าสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกันแถลงข่าว กรณีความคืบหน้าศาลจังหวัดปัตตานีตัดสินประหารชีวิต ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงจำนวน 5 ราย
พ.ต.อ.กรณ์ณพัชญ์ กิตติพิบูลย์ รองหัวหน้าสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เปิดเผยว่า จากกรณีศาลจังหวัดปัตตานี ได้มีคำสั่งพิพากษาประหารชีวิตผู้ต้องหาคดีความมั่นคง จากเหตุการณ์คนร้ายเข้าโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารร้อย ร.15321 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 เป็นเหตุให้เสียชีวิต 4 นาย และบาดเจ็บ 2 นาย พร้อมทั้งได้แย่งชิงอาวุธปืนเล็กยาว เอ็ม 16 จำนวน 4 กระบอก เสื้อเกราะกันกระสุน และวิทยุสื่อสารหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อ 28 กรกฎาคม 2555 ในพื้นที่อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี
โดยมีรายชื่อผู้ต้องหาที่ถูกตัดสินประหารชีวิต ประกอบด้วย 1.นายอิสมาแอ ดาโฮง อายุ 33 ปี ที่อยู่ 31/2 หมู่ที่ 5 ตำบลลุโบะยิไร อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี 2.นายกอเดร์ เจะแต อายุ 31 ปี ที่อยู่ 17/6 หมู่ที่ 1 ตำบลท่าธง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา 3.นายมะซาฮาฟี มีทอ อายุ 28 ปี ที่อยู่ 69/1 หมู่ที่ 9 ตำบลปล่องหอย อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี 4.นายอิสบุเลาะ บือซา อายุ 36 ปี ที่อยู่ 155/3 หมู่ที่ 1 ตำบลบางเก่า อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี และนายนิมูหัมมัด นิเซ็ง อายุ 32 ปี ที่อยู่ 30/2 หมู่ที่ 5 ตำบลลางา อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี
ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้ากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า จากกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หน่วยได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุ และงานทางนิติวิทยาศาสตร์ จนสามารถนำไปสู่การออกหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 11 คน จากที่รู้ตัว 13 คน ซึ่งในจำนวนนี้ได้เสียชีวิตจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ 2 คน ควบคุมตัวได้ 6 คน โดยมีคำสั่งพิพากษา 5 คน และอยู่ในระหว่างดำเนินการ 1 คน และหลบหนีทางการอีก 5 คน
“กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะยังคงดำรงความมุ่งหมายในการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินภายใต้แนวคิด “ปรับทุกข์ ผูกมิตร ร่วมคิด ร่วมทำ” โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และการทำงานร่วมกันอย่างประสานสอดคล้องทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และภาคประชาชน รวมทั้งจะทำการติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย สำหรับผู้ที่อยู่ระหว่างหลบหนีก็พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในการเข้าสู่ กระบวนการยุติธรรมตามโครงการพาคนกลับบ้าน ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ก็มีสิทธิที่จะยื่นขออุทธรณ์ได้ ทั้งนี้ ทุกคนจะได้รับการปฏิบัติภายใต้หลักกฎหมายที่เสมอภาค และเป็นธรรม” โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ากล่าว