xs
xsm
sm
md
lg

"ผบ.ทบ."สั่งล่ามือM16 เหยื่อคมกระสุนตายอีก1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เหยื่อคมกระสุนยิงถล่มชาวเทพาดับเพิ่มอีก 1 รวมเป็น 4 ฝ่ายความมั่นคงถกเครียดหาเบาะแส พร้อมนำปลอกกระสุนปืน 28 ปลอกตรวจพิสูจน์หาความเชื่อมโยงกลุ่มคนร้าย และดีเอ็นเอ "โฆษก กอ.รมน.ภ.4 สน." ประณามเป็นการกระทำที่โหดร้าย ป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรม ผบ.ทบ.สั่ง จนท.เร่งคลี่รวบรวมพยานหลักฐานล่าคนร้าย และเพิ่มความเข้มดูแลชุมชนคนไทยพุทธ

วานนี้ (2 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มชาวบ้านซึ่งเป็นชาวไทยพุทธบริเวณหน้าร้านขายของชำเลขที่ 57/ 1 ม.8 บ้านหนองสาหร่าย ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คนคือนายสุกิจ จันทรัตน์ รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 คน

ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งหมด 7 รายสาหัส 3 ราย คือ นายอุทัย กิ้มเส้ง และนายถวิล เพชรจำรัส ส่งต่อไปรักษาที่ รพ.สงขลา นายวิมล จันทร์แก้ว ส่งต่อไปรักษาที่ รพ.หาดใหญ่ ส่วนที่เหลืออีก 4 คนแพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน ประกอบด้วยนายเอกพล เพชรจำรัส, นายจิรศักดิ์ ไชยศรี, นางอารมณ์ จันทรัตน์ และ ด.ญ.ศิริวรรณ จันทรัตน์ และจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบใบปลิวที่คนร้ายทิ้งไว้ 8 แผ่น ปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 20 ปลอก

ขณะที่ พ.ต.อ.อำพล บัวรับพร รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.สงขลา ได้ลงตรวจที่เกิดเหตุและประชุมชุดสืบสวนสอบสวน และฝ่ายความมั่นคงเพื่อวางแนวหาเบาะแสคนร้าย ซึ่งคดีนี้ได้มีการตั้งชุดทำงานขึ้นมา 4 ชุด ทั้งชุดสืบสวนภาค 9 ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสงขลา ชุดสืบสวน สภ.ห้วยปลิง และชุดสืบสวนหน่วยเฉพาะกิจ ตชด.43 เพื่อเร่งรวบรวมหลักฐานทั้งภาพวงจรปิดและพยานแวดล้อมจากชาวบ้านในพื้นที่ในการแกะรอยติดตามคนร้ายตามเส้นทางที่ใช้หลบหนี ซึ่งจากเบาะแสพบว่าใช้เส้นทางปากบาง-เทพา หลบหนีโดยคนร้ายมีด้วยกัน 4 คนใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน

พ.ต.อ.อำพล เปิดเผยว่า จากการเก็บหลักฐานของเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ของคนร้ายจำนวน 28 ปลอก เจ้าหน้าที่จะนำไปเปรียบเทียบว่าตรงกับคดีใดบ้าง เพื่อเชื่อมโยงไปยังกลุ่มคนร้ายว่าเป็นกลุ่มใด รวบทั้งตรวจดีเอ็นจากหลักฐานที่เก็บได้เพื่อใช้เป็นพยานทางนิติวิทยาศาสตร์

นอกจากนี้ ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด.38 จำนวน 3 ปลอก เศษกระสุน 1 หัว และปลอกปืนลูกซอง 1 ปลอก ซึ่งเป็นของ ชรบ.ที่ยิงตอบโต้คนร้ายและอาจได้รับบาดเจ็บแต่จากการตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลทุกแห่งขณะนี้ยังไม่พบว่ามีผู้ถูกยิงเข้ารักษาตัวแต่อย่างใด

พ.ต.อ.อำพล กล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถชี้ชัดหรือระบุได้ว่าคนร้ายเป็นกลุ่มไหน จะต้องรอผลการตรวจสอบพยานหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แต่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่เพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่และต้องการสร้างความหวาดกลัวให้แก่ชาวบ้านเพื่อเชื่อมโยงเหตุการณ์กับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

**ชรบ.เทพาเผยนาทีระทึกยิงโต้คนร้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอาทิตย์ มณีปรีชา อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ.ใน ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตและอยู่ในเหตุการณ์ขณะที่คนร้ายกราดยิงชาวบ้าน เล่าถึงนาทีชีวิตว่า ขณะเกิดเหตุมีชาวบ้านทั้งชายและหญิงนั่งอยู่ในที่เกิดเหตุกว่า 10 คน เพื่อพูดคุยและเตรียมทำของหวานไปทำบุญที่วัดคลองเปล ระหว่างนั้นได้มีกลุ่มคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ยิงเข้าใส่กลุ่มของตนที่นั่งตั้งวงดื่มสุราอยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าร้านขายของชำ

"ในตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงประทัด แต่เมื่อเห็นเพื่อนบ้านกระเด็นล้มลง และบาดเจ็บจึงรู้ว่าถูกยิง และคนร้ายยังยิงซ้ำอีกชุด ผมจึงหมอบ และใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ไปสองนัดคนร้ายจึงหลบหนีไป ก่อนที่จะช่วยกันนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 8 คน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านหวาดผวา และขวัญเสียเป็นอย่างมาก สำหรับเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง โดยก่อนหน้าที่นายถวิล เพชรจำรัส ซึ่งเป็น ชรบ.ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสในครั้งนี้เคยถูกลอบยิงมาแล้วครั้งหนึ่ง" นายอาทิตย์ กล่าว

**ทหารประณามป่าเถื่อน-ไร้มนุษยธรรม"

เช้าวันเดียวกันที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภ 4 สน.) เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัว และญาติของผู้ที่เสียชีวิต และบาดเจ็บจากการกระทำอย่างโหดร้าย ป่าเถื่อน และไร้มนุษยธรรมของกลุ่มขบวนการที่มีพฤติกรรมแบบสุดโต่ง เผด็จการ และก่อการร้าย พร้อมสั่งกำชับให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เร่งคลี่คลายสถานการณ์ รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้หามาตรการดูแลความปลอดภัยให้รัดกุมยิ่งขึ้น

พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวต่อว่า พฤติกรรมของกลุ่มขบวนการ และองค์กรเครือข่ายกว่า 10 ปีที่ผ่านมา คือ การเรียกร้องหาความเป็นธรรมจากสถานการณ์ด้วยการทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ให้ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ สร้างความหวาดระแวง และความเกลียดชัง ซึ่งเป็นสิ่งที่สมควรต้องได้รับการประณามอย่างกว้างขวาง เพราะมนุษย์ทุกคนย่อมมีสิทธิ และเสรีภาพในการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม จึงถือเป็นการกระทำของพวกนอกศาสนา จึงขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) และเครือข่ายองค์กรที่เคลื่อนไหวเรียกร้องหาความเป็นธรรมในพื้นที่ร่วมกันประณามกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง และให้ยุติพฤติกรรมดังกล่าว

พ.อ.ปราโมทย์ ยังได้กล่าวอีกว่า ทางแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง และเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยเป้าหมายอ่อนแอ โดยเฉพาะชุมชนไทยพุทธให้มากขึ้น พร้อมกำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐาน โดยใช้กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเร่งติดตามผู้ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้มาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมโดยเร็วที่สุด รวมทั้งขอความร่วมมือภาคประชาชนในการเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัย และแจ้งเบาะแสคนร้ายให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ทราบโดยด่วน.
กำลังโหลดความคิดเห็น