xs
xsm
sm
md
lg

ชาวเหมืองแร่ “นบพิตำ” จี้เร่งเปิดเหมืองทำงาน อ้างขาดรายได้ อัดพ่อ “พิธาน” สร้างความแตกแยก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
นครศรีธรรมราช - ชาวเหมืองแร่นบพิตำ จ.นครศรีฯ กว่า 100 คน รวมตัวยื่นหนังสือร้องผู้ว่าฯ เร่งเปิดเหมืองทำงาน หลังศาล ปค.สั่งปิดเหมืองชั่วคราว อ้างขาดรายได้จนได้รับความเดือดร้อน พร้อมโต้พ่อ “พิธาน” บิดเบือนข้อมูล ทำชาวบ้านแตกแยก ขณะที่พ่อพิธาน สวนกลับเตรียมแจ้งความฐานหมิ่นประมาท

วันนี้ (16 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีชาวบ้าน และผู้ประกอบการจาก ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ประมาณ 100 คน ที่สนับสนุนให้มีการเปิดเหมืองแร่ในพื้นที่ เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อต้องการให้จังหวัดสั่งการให้เปิดเหมืองแร่โดยเร็ว สืบเนื่องมาจากชาวบ้านที่ทำงานรับจ้างอยู่ในเหมืองแร่ รวมทั้งผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจต่อเนื่องกับเหมืองแร่เดือดร้อน

 
พร้อมทั้งให้ทางจังหวัดเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ นายสำเร็จ ทองพนัง และนายสวัสดิ์ สมัครพงศ์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวอย่างหนัก หลังจาก นายพิธาน ทองพนัง บุตรของนายสำเร็จ ที่เป็นแกนนำในการยื่นร้องต่อศาลปกครองถึงกรณีเหมืองแร่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง และการคุกคามขับไล่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในป่าที่มติ ครม.30 มิ.ย.41 ให้ความคุ้มครอง

โดยในหนังสือที่ไม่ได้ระบุผู้รับผิดชอบลงนาม แต่อ้างเพียงชาว ต.กรุงชิง ได้กล่าวหานายสำเร็จ ทองพนัง บิดาของ นายพิธาน ทองพนัง และนายสวัสดิ์ สมัครพงศ์ คณะกรรมการอิสระด้านสิ่งแวดล้อม ระบุว่า มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงจนสร้างปัญหาความแตกแยกให้แก่ชาวบ้านมาโดยตลอด และมีการนำแผ่นป้ายข้อความโจมตีทั้งคู่มาแสดงในการยื่นหนังสือใส่ร้ายเหมืองแร่ เพื่อฮุบป่า โดยมี นายนภดล กีรติกรพิสุทธิ์ ป้องกันจังหวัดนครศรีธรรมราช รับหนังสือแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช

ขณะที่ นายพันธวัช แดงพรหม อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ม.6 ต.กรุงชิง และนายสุธรรม คงดุก อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ม.6 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช อ้างเป็นตัวแทนชาวบ้านระบุว่า ชาวบ้าน และผู้ประกอบการเดือดร้อนในธุรกิจต่อเนื่องกับเหมืองแร่ ที่ผู้ประกอบการรับงานจากเหมืองแร่ที่ทำติดต่อกันมาโดยตลอด

 
หลังศาลปกครองสั่งให้หยุดทำเหมืองชั่วคราว ทำให้ผู้ประกอบการ และชาวบ้านที่มาทำงานรับจ้างในเหมืองแร่ขาดรายได้ ไม่มีเงินมาจุนเจือครอบครัว จึงเข้ามายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอความเป็นธรรม และร้องขอให้แจ้งศาลปกครองเร่งพิจารณาคดี ที่มีการสั่งปิดเหมืองแร่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อชาวบ้าน และผู้ประกอบการจะได้มีงานทำ มีรายได้

ขณะที่ นายนภดล กีรติกรพิสุทธิ์ ป้องกันจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า จะทำหนังสือรายงานไปยังศาลปกครอง เพื่อรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งศาลจะดำเนินการอย่างไรนั้นอยู่ที่ดุลพินิจของศาล จังหวัดไม่สามารถสั่งการเองได้ ซึ่งผลจะออกมาอย่างไรก็จะแจ้งให้แก่ชาวบ้านได้ทราบ

สำหรับความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นนั้น แหล่งข่าวระบุว่า ใกล้ถึงช่วงเวลาที่ศาลปกครองจะไต่สวนในกรณีขอระงับคำสั่งคุ้มครอง เพื่อขอเปิดเหมืองในวันที่ 18 มี.ค.เวลา 14.00 น.นี้ จึงมีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นให้สอดรับในการอ้างต่อศาลปกครองถึงความเดือดร้อนของผู้ที่ทำงานกับเหมือง โดยไม่ได้ระบุถึงการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำเป็นวงกว้าง

 
ขณะเดียวกัน ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของผู้ที่อ้างว่าได้รับความเดือดร้อนจากการปิดเหมือง ไม่มีรายได้นั้นพบว่า เป็นข้าราชการคนหนึ่งที่อยู่ในระหว่างการตั้งกรรมการสอบสวนในข้อร้องเรียนของฝ่ายญาติของ นายพิธาน ทองพนัง เหยื่อสังหาร และผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนซึ่งเข้าชื่อร้องศาลปกครองโดยมี นายพิธาน เป็นผู้ฟ้องคดีที่ 1 แต่หลังจากที่นายพิธาน ถูกสังหาร นายสำเร็จ ได้รับมรดกความเป็นผู้ฟ้องคดีที่ 1 แทน

ส่วนทางด้านนายสำเร็จ ทองพนัง และนายสวัสดิ์ สมัครพงศ์ เตรียมแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่เข้ายื่นหนังสือในวันนี้ฐานหมิ่นประมาท เตรียมแถลง และยื่นหนังสือร้องต่อผู้บังคับบัญชาข้าราชการผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการเคลื่อนไหว นอกจากนั้น ยังมีฝ่ายปกครองท้องที่บางคนที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยถึงความเกี่ยวข้องต่อคดีการตาย

โดยก่อนหน้านี้ กองปราบปราม และตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้เข้าปฏิบัติการตรวจค้นครั้งใหญ่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ถึง 16 จุด โดยหนึ่งในนั้นมีผู้ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยเชื่อมโยงต่อการตายของนายพิธาน ทองพนัง ด้วย ส่วนคดีการสังหารนายพิธาน จนถึงขณะนี้แม้ว่าการสืบสวนจะมีความคืบหน้าไปมากแต่ไม่สามารถหาความเชื่อมโยงต่อผู้ที่อยู่เบื้องหลัง และผู้ที่ก่อเหตุได้ จึงยังไม่มีความคืบหน้าในการจับกุม และการสอบสวน
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น