นครศรีธรรมราช - พ่อ “พิธาน” แกนนำคัดค้านเหมืองแร่ จ.นครศรีฯ รุดแจ้งความ 5 แกนนำหนุนเปิดเหมืองแร่ “นบพิตำ” เหตุชุมนุมชูป้ายมีข้อความหมิ่นประมาท พร้อมเข้าพบ ผบก.ภ.นครศรีฯ ตามความคืบหน้าคดีลอบสังหารบุตรชาย ยอมรับขณะนี้ในพื้นที่ ต.กรุงชิง กำลังเข้าสู่สถานการณ์ตึงเครียด
วันนี้ (17 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ความตึงเครียดในความขัดแย้งระหว่างผู้ประกอบการ ผู้รับเหมาในเหมืองแร่แบไรท์ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช กำลังเริ่มขึ้นอีกครั้ง โดยวันนี้ นายสำเร็จ ทองพนัง บิดาของ นายพิธาน ทองพนัง แกนนำคัดค้านเหมืองแร่ที่ถูกลอบสังหารไปเมื่อ 4 เดือนก่อน พร้อมด้วย นายสวัสดิ์ สมัครพงศ์ คณะอนุกรรมการอิสระด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพแห่งชาติ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีต่อแกนนำ 5 ราย ที่ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมทั้งชูป้ายข้อความโจมตี เมื่อ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า มีข้อความเข้าข่ายหมิ่นประมาท ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีจนถึงที่สุด
นายสวัสดิ์ สมัครพงศ์ คณะอนุกรรมการอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพแห่งชาติ ระบุว่า ในการยื่นหนังสือวานนี้ พบว่า มีข้อความที่เข่าข่ายหมิ่นประมาท ใส่ร้าย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งตนเอง และนายสำเร็จ ทองพนัง บิดาของนายพิธาน ทองพนัง เหยื่ออิทธิพลมืดที่เสียชีวิตจากการถูกยิงตาย หลังจากเคลื่อนไหวคัดค้านการทำเหมืองที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และที่ทำกินของชาวบ้าน
“สังคมชุมชนบนกรุงชิงเปลี่ยนไปมากแล้ว เหมืองนี้ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์โดยรวมต่อคนกรุงชิง ผู้มีอิทธิพลเข้าไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ชาวบ้านอยู่ในสภาพอกสั่นขวัญแขวน เหมืองควรต้องทบทวน และต้องหยุด” นายสวัสดิ์ กล่าว
เวลาต่อมา นายสำเร็จ ทองพนัง พร้อมด้วยครอบครัว และผู้ฟ้องคดีอีกจำนวนหลายสิบรายได้เข้าพบกับ พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอาง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เพื่อยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าของคดีฆาตกรรมนายพิธาน ทองพนัง บุตรชาย ซึ่งล่วงเลยมาแล้วกว่า 4 เดือน ยังไม่สามารถติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้
พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอาง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ทั้งในส่วนของพยานคนสำคัญ รวมทั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เราได้มาแล้วแต่ยอมรับว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ได้ เนื่องจากมีความละเอียดอ่อน ซึ่งยังบ่งชี้ไปไม่ถึง ซึ่งได้ประสานกับบิดาของผู้ตายอย่างใกล้ชิด และยอมรับว่ามีความตึงเครียดในพื้นที่เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนลงพื้นที่คอยติดตามความเคลื่อนไหว และตั้งจุดตรวจกดดันไม่ให้มีการก่อเหตุเกิดขึ้นได้
