xs
xsm
sm
md
lg

ภัยมืดรุกหนัก! หลังแกนนำต้านเหมืองนครศรีฯ ถูกฆ่า ชาวบ้านโร่ถอนฟ้องศาลปกครองแล้ว 5 ราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - ภัยมืดคุกคามหนัก! หลังแกนนำต้านเหมืองแร่ อ.นบพิตำ จ.นครศรีฯ ถูกสังหาร ด้านชาวบ้านผวาโร่ศาลปกครองขอถอนฟ้อง 5 ราย ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช สั่งตั้งคณะกรรมการ 2 ชุดติดตามคดี พร้อมส่งชุดทีมสืบสวนลงพื้นที่ พบประเด็นผู้ตายเข้าไปขัดขวางผลประโยชน์สัมปทานเหมืองแร่เป็นประเด็นหลัก

ภายหลังจากกรณี นายพิธาน ทองพนัง อายุ 45 ปี แกนนำชาวบ้านในตำบลกรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนลูกรังทางขึ้นบ้านห้วยหินขาว ภูเขาไม้ไผ่ หมู่ที่ 8 ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงคืนวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา จนกลายเป็นข่าวโด่งดัง และต่างมุ่งปมสาเหตุการตายเกิดจากรณีนายพิธาน เป็นตัวแทนชาวบ้านเข้ายื่นร้องต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราช ต่อกรณีเหมืองแร่ที่ได้รับสัมปทานใหม่ในพื้นที่จนมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเป็นสาเหตุสำคัญที่สำคัญ

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (2 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุดว่า พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอาง ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เร่งลงพื้นที่ติดตามการคลี่คลายคดีสังหาร นายพิธาน ทองพนัง แกนนำชาวบ้านรายนี้ ขณะที่ศพของนายพิธาน นั้นญาติได้นำมาบำเพ็ญกุศลที่ศาลาสวดพระอภิธรรม วัดชลธาราม ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยยังไม่มีกำหนดฌาปณกิจ

ขณะเดียวกัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้สั่งตั้งคณะกรรมการคลี่คลายคดีขึ้นมา 2 ชุด ชุดแรกเป็นคณะกรรมการที่ประกอบพนักงานสอบสวนที่เชี่ยวชาญเข้าทำการสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.อดุลย์ ธนะชัยขันธ์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้ควบคุม และอีกชุดนั้นเป็นชุดสืบสวนติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ มี พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้ควบคุม โดยมี พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช นำชุดสืบสวนมือดีเข้าสืบสวน โดยมีเป้าหมายที่ต้องติดตามอยู่ใน อ.นบพิตำ อ.ท่าศาลา นครศรีธรรมราช อ.กาญจนดิษฐ์ และ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี

ส่วนประเด็นที่เจ้าหน้าที่ให้น้ำหนักนั้นพบว่า เป็นประเด็นที่ผู้ตายได้เข้าร้องต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราช จนนำไปสู่การคุ้มครองชั่วคราว ทำให้เหมืองที่ได้รับสัมปทานใหม่ตั้งแต่กันยายน 2556 ไปจนถึงกันยายน 2565 ระยะเวลา 10 ปี ในพื้นที่ 523 ไร่ ยังไม่สามารถเริ่มได้ ซึ่งเหมืองนี้ได้ส่งผลกระทบต่อที่ดินทำกินที่ชาวบ้านทำกินมาก่อน และได้รับความคุ้มครองการทำกินในเขตพื้นที่ป่ามาก่อนตามมติ ครม. 30 มิถุนายน 2541 ประเด็นนี้ถือเป็นประเด็นหลัก และอีกประเด็นนั้นอาจเป็นเรื่องส่วนตัวแต่ยังไม่พบว่ามีน้ำหนักที่น่าสนใจ ส่วนกลุ่มมือปืนนั้นเจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่า อาจเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลบางกลุ่มที่เกี่ยวข้องอยู่ในพื้นที่

พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช กล่าวภายหลังจากการหารือทีมสืบสวนเพื่อลงพื้นที่ โดยประเด็นที่เจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญในขณะนี้คือ เรื่องของปัญหาเหมืองแร่ แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทิ้งเรื่องส่วนตัวที่จะต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการคลี่คลาย สืบเนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ชนบท ที่ไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ การสืบสวนสอบสวนจึงต้องละเอียดรอบคอบ

นายสำเร็จ ทองพนัง บิดาของนายพิธาน เปิดเผยว่า ตนเองพร้อมที่จะสู้กับชาวบ้านต่อไป โดยจะยังไม่เผาศพของ นายพิธาน จะรอจนกว่าคดีจะคลี่คลาย ซึ่งหลังจากนี้จะมีการทำหนังสือไปยังกองทัพภาคที่ 4 และจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้ติดตามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ แม้ว่า นายพิธานจะเสียชีวิตไปแล้วแต่เชื่อว่าเขาพร้อมที่จะสู้ต่อหากเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมจะเอาศพของเขาไปตั้งที่หน้าศาลากลาง

“ก่อนหน้านี้เขารู้ตัวแล้วว่าเขามีค่าหัว 5 แสนบาท ซึ่งได้ระบุด้วยว่าใครจะเอาชีวิต เกิดจากเรื่องเหมืองแร่เพียงเรื่องเดียว มีการประกาศกันแล้วว่า หากเหมืองเปิดไม่ได้ พิธานตาย ซึ่งก็ตายจริง” บิดาของนายพิธาน กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ในวันนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกนายสำเร็จ ทองพนัง อายุ 73 ปี บิดาของนายพิธาน ไปสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาข้อมูลที่เชื่อมต่อกับความขัดแย้งกลุ่มคนร้าย เนื่องจากพบว่า มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนายสำเร็จ และนายพิธาน ได้เคยบอกไว้ก่อนแล้วว่า หากถูกสังหารจะเป็นการกระทำของกลุ่มบุคคลใด ซึ่งมีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.นบพิตำ

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ นายพิธาน ร้องต่อศาลปกครองกรณีเหมืองแร่ โดยมีนายพิธาน เป็นแกนนำรวม 55 รายนั้น ได้เปิดเผยว่า ได้มีผู้ร้อง จำนวน 5 ราย จากทั้งหมด 55 รายได้เข้ายื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอถอนฟ้องคดีในคดีนี้ ซึ่งในทางคดีแล้วทางตุลาการจะออกหมายเรียกมาแถลงถึงเหตุผลในการยื่นขอถอนฟ้อง ซึ่งในทางพิจารณานั้นจะพิจารณาอย่างไรสุดแต่ตุลาการ แต่มีหลักสำคัญว่า หากพิจารณาแล้วพบว่าคำร้องเป็น “ประโยชน์สาธารณะ” ตุลาการจะมีคำสั่งไม่ถอนคำฟ้องก็ได้ และในวันที่ 3 ธันวาคม เวลา 10.00 น.ศาลปกครองนครศรีธรรมราช จะมีการเปิดแถลงอย่างเป็นทางการถึงคดีที่นายพิธาน เข้าเป็นผู้ฟ้องเนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และสื่อมวลชน

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น