xs
xsm
sm
md
lg

สนง.ยุติธรรมกระบี่ แจง 3 ผลงานชิ้นโบแดง สร้างความเป็นธรรมในสังคม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจากอินเทอร์เน็ต
 
กระบี่ - “นางสุดารัตน์ นพรัตน์” ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดกระบี่ ยุติธรรมจังหวัดกระบี่ เปิดเผยความสำเร็จชิ้นสำคัญมุ่งรับใช้สังคม ชี้ที่ผ่านมา ไกล่เกลี่ยระงับ 2 คดีข้อพิพาท คุ้มครองสิทธิผู้ต้องหาให้ได้รับการประกันตัว

กระบี่ เปิดเผยความสำเร็จของงานที่เกี่ยวกับการบำบัดทุกข์บำรุงสุข ในการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทในชุมชน กรณีการผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาจ้างทำของ

นางสุดารัตน์ นพรัตน์ ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดกระบี่ ยุติธรรมจังหวัดกระบี่ เปิดเผยความสำเร็จของงานที่เกี่ยวต่อการบำบัดทุกข์บำรุงสุขในการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทในชุมชน กรณีการผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาจ้างทำของ ซึ่งเหตุเกิดที่ตำบลเขาดิน อ.เขาพนม จ.กระบี่ โดยผู้ร้องอ้างว่า ตนได้นำรถแบ็กโฮเข้าไปซ่อมในอู่ซ่อมแห่งหนึ่งของคู่กรณีซึ่งเป็นนายช่างซ่อมรถแบ็กโฮคันดังกล่าว โดยเรียกให้ผู้ร้องชำระค่าซ่อมแซมรวมทั้งค่าแรง ค่าอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 112,180 บาท ซึ่งผู้ร้องอ้างว่า ราคาสูงเกินกว่าความเป็นจริง และตนได้ถูกคู่กรณีเอารัดเอาเปรียบไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกรณีดังกล่าว จึงได้นำเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าวยื่นขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดกระบี่ เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยหาข้อยุติหาทางออกให้แก่ผู้ร้อง

ทั้งนี้ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดกระบี่ จึงได้ร่วมมือประสานงานให้ความช่วยเหลือโดยได้ติดต่อไปยังคู่กรณีคือ นายช่างซ่อมรถแบ็กโฮคันดังกล่าว และได้นัดให้คู่ความทั้งสองมาตกลงเจรจาไกล่เกลี่ย โดยได้ข้อสรุปดังนี้ 1.นายช่างซ่อมรถแบ็กโฮ ได้คิดราคาใหม่ตามยอดค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริง และถูกต้องเป็นธรรมต่อหน้าเจ้าหน้าที่ จากยอดหนี้เดิม 112,180 บาท เป็นยอดหนี้ใหม่ในราคา 28,400 บาท 2.ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทตามความประสงค์ของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย โดยผู้ร้องสมัครใจยินยอมตกลงจ่ายในราคา 28,400 บาท และคู่กรณีสมัครใจยินยอมรับเงินค่าจ้างซ่อมรถแบ็กโฮคันดังกล่าวในจำนวนเงิน 28,400 บาท และคู่กรณีทั้งสองไม่ติดใจเอาความ หรือดำเนินคดีตามกฎหมายอีกต่อไป

นางสุดารัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การไกล่เกลี่ยสมานฉันท์จะเป็นประโยชน์ทำให้คู่กรณีสามารถหันหน้าเข้าหากันอย่างฉันมิตร ประหยัดค่าใช้จ่าย ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีของคู่กรณีลดลง คู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้รับความพึงพอใจ คู่กรณีไม่ต้องประสบต่อการบังคับคดีที่ยุ่งยากในศาล ช่วยลดปริมาณคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาล และก่อให้เกิดความสงบสุขในสังคม

อีกทั้ง นางสุดารัตน์ เปิดเผยความสำเร็จของงานที่เกี่ยวกับการบำบัดทุกข์บำรุงสุขในการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทในชุมชน เรื่อง เรียกให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งในกรณีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งผู้ร้องได้ขอรับความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยคู่กรณีอีกฝ่าย (ผู้ขับรถชน หรือผู้ก่อเหตุ) มิได้ชดใช้เยียวยาค่าเสียหาย หรือค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ร้องนับแต่วันทำละเมิดจึง ส่งผลให้ผู้ร้องได้รับความทุกข์ใจอย่างยิ่ง

สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกระบี่ จึงได้ให้ความช่วยเหลือในด้านการเงินสำหรับเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายหรือตกเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา โดยการรับยื่นค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 ทั้งนี้ได้ประสานไปยังคู่กรณีโดยนัดให้มาเจรจาไกล่เกลี่ย และทำบันทึกข้อตกลงระงับข้อพิพาทกัน ซึ่งได้ข้อยุติดังนี้ คือ 1.ผู้ร้องได้เรียกร้องให้คู่กรณีชำระเงินค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดในทางแพ่งนั้น เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท 2.คู่กรณียินยอมชดใช้ค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนอันเป็นสิทธิที่ผู้ร้องควรได้รับในจำนวนเงิน 100,000 บาท ตามความประสงค์ของผู้ร้อง และ 3.ผู้ร้องไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีในทางแพ่งอีกต่อไป ส่วนในเรื่องความรับผิดทางอาญานั้น ทั้งผู้ร้อง และคู่กรณียินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ สิทธิของผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 ในการขอรับเงินค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา หลักเกณฑ์การยื่น เงื่อนไข รวมทั้งระยะเวลาในการยื่นคำขอรับเงินค่าตอบแทนฯ ต้องดำเนินการภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ได้รู้ถึงการกระทำความผิดนั้น นางสุดารัตน์ กล่าวในตอนท้าย

นางสุดารัตน์ นพรัตน์ กล่าวเสริมว่า ในการขอรับเงินสนับสนุนกองทุนยุติธรรม กรณีค่าประกันตัวชั่วคราว โดยได้ดำเนินการยื่นหลักประกันต่อศาลจังหวัดกระบี่ เพื่อประกันตัวชั่วคราวจำเลย จำนวน 1 ราย เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือสำหรับประชาชนที่ยากไร้ หรือยากจนไม่มีเงิน หรือหลักทรัพย์ประกันตัวชั่วคราว และเพื่อเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมโดยผู้ยากไร้ก็สามารถมีอิสรภาพในระหว่างการพิจารณาของศาลจนกว่าศาลจะพิพากษาตัดสินคดี

ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้ความช่วยเหลือ หรือให้โอกาสแก่ผู้ที่ต้องตกเป็นผู้ต้องหา หรือจำเลยที่ไม่มีเงินประกันตัวระหว่างการพิจารณาของศาล ซึ่งตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นผู้กระทำความผิด ให้ถือว่าผู้นั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยวัตถุประสงค์ของกองทุนยุติธรรม เพื่อให้มีการสนับสนุนเงิน หรือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนในด้านกฎหมาย การฟ้องร้อง การดำเนินคดี หรือการบังคับคดี การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ รวมถึงผู้ที่กระทำการใดๆ เพื่อปกป้องคุ้มครองหรือรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นางสุดารัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้มีสิทธิยื่นคำขอ ได้แก่ ผู้เสียหาย หรือจำเลย หรือทายาทซึ่งได้รับความเสียหายจากการได้รับบาดเจ็บทางร่ายกาย จิตใจ หรือถึงแก่ความตายเนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย ถูกฆ่าตาย หรือถูกลูกหลง ถูกทำให้แท้งลูก ถูกข่มขืน ถูกกระทำอนาจารได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือตายจากการกระทำโดยประมาทของผู้อื่น โดยให้ดำเนินการ 1.แจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ณ ท้องที่เกิดเหตุ 2.พบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจรักษา กรณีตายให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อออกใบมรณบัตร 3.รวบรวมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง 4.ยื่นคำขอรับเงินค่าตอบแทนภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ได้รู้ถึงการกระทำผิด
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น