ระนอง - เจ้าท่าระนอง ร่วมปลัดอำเภอเมืองระนอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบนายทุนลักลอบขุดทรายในคลองราชกรูด หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน แต่ไหวตัวทันย้ายเครื่องจักรหลบหนีไปได้ ชาวบ้านอ้างมีหลักฐานภาพถ่ายขณะนำรถแบ็กโฮลงขุดทรายมาแสดง เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบจับกุมนายทุนมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพราะเป็นทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทำให้ทิศทางน้ำเปลี่ยนกระแสเกิดการกัดเซาะตลิ่งพัง
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (12 ก.พ.) นายคำรณ อินทร์จันทร์ นักวิชาการชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าส่วนภูมิภาค นายสุรพล อาวุธ ปลัดอำเภอเมืองระนองฝ่ายป้องกัน ร.ต.อ.ยุทธนา ธนบัตร ร้อยเวร สภ.ราชกรูด ระนอง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ อส.จำนวนหนึ่ง เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังชาวบ้านตำบลราชกรูด แจ้งเจ้าท่าระนอง และนายอำเภอเมืองระนองว่า ได้มีนายทุนแอบมาลักลอบขุดทรายในลำคลองราชกรูด เขตรอยต่อระหว่างหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 3
เมื่อถึงจุดที่ชาวบ้านแจ้งว่ามีการลักลอบขุดตักทรายในลำคลอง พบว่า นายทุนพร้อมคนงานทั้งหมดได้ไหวตัวทัน และย้ายเครื่องจักรกลหลบหนีออกไปจากพื้นที่ดังกล่าวแล้วก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสำรวจตรวจสอบลำคลองแล้วพบว่า มีการขุดทรายจริงๆ ทำให้ลำคลองได้รับความเสียหาย และมีการขนทรายออกไปจากพื้นที่ดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการถ่ายภาพ และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามชาวบ้านใกล้เคียง กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตติดต่อกันระหว่างหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 3 โดยมีลำคลองราชกรูดกั้นตรงกลาง และบริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นช่วงปลายน้ำทำให้มีดินหิน หรือทรายมาตกตะกอนทุกๆ ปีเป็นจำนวนมาก จนทำให้เกิดเป็นสันดอนทรายขนาดใหญ่ จนมีมติในที่ประชุม อบต.ราชกรูด ว่า ให้ชาวบ้านทุกครัวเรือนในตำบลราชกรูดสามารถนำทรายดังกล่าวไปใช้ในงานสาธารณประโยชน์ได้ เช่น งานศพ งานบวช งานแต่งงาน หรืองานกิจกรรมประเพณีประจำปีต่างๆ ทุกงานในตำบลราชกรูด
แต่มีเมื่อช่วง 2 วันที่ผ่านมา ได้มีนายทุนฉวยโอกาสช่วงที่น้ำในคลองเริ่มแห้งขอด นำรถแบ็กโฮลงไปขุดทราย โดยอ้างว่า นายกเทศบาลตำบลราชกรูด เป็นคนสั่งให้ทำการขุดตักดินในลำคลองขึ้นมาเก็บกองไว้ก่อน โดยอ้างว่า ในช่วงหน้าน้ำหลากจะทำการขุดลอกทรายในลำคลองขึ้นมาใช้ในงานสาธารณะลำบากชาวบ้านจะได้นำไปใช้สะดวกกว่าในช่วงฤดูฝน ส่วนที่นำออกนอกพื้นที่ได้นำไปถมทำถนนทางเข้าหมู่ที่ 7 ตำบลราชกรูด ซึ่งเป็นการกล่าวอ้าง
นายอรรคพล อรุณโชติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 กล่าวว่า หินและทรายที่ได้ขุดขึ้นมานั้นกองไว้เพื่อรอให้รถบรรทุกสิบล้อมาขนถ่ายออกไปวันละประมาณ 70-80 เที่ยว โดยมีการขุดตักทรายทั้งกลางคืน และกลางวัน ซึ่งในความเห็นส่วนตัวแล้วตนคิดว่าหากนำไปใช้ในงานสาธารณประโยชน์ก็ไม่จำเป็นต้องทำการขุด หรือตักดินขึ้นมาจากลำคลองมากมายขนาดนั้น นำขึ้นมาเท่าที่จำเป็นเพราะจะทำให้ตลิ่งริมคลองสาธารณะทรุดตัวลงจะส่งผลต่อบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ตลอดแนวริมตลิ่งจะได้รับความเดือดร้อน แต่นายทุนกลับอ้างว่า ทรายในลำคลองเป็นของสาธารณะใครก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ส่วนในเรื่องการขออนุญาตขุดตักทรายในคลองสาธารณะนั้นตนเองไม่ทราบว่าทางเจ้าท่าระนอง ได้ทราบเรื่องนี้หรือไม่จึงได้แจ้งให้ทราบ พร้อมกับนำหลักฐานภาพถ่ายรถแบ็กโฮสีเหลือง และรถบรรทุกหกล้อกำลังขุดตักทรายกลางคลองราชกรูดมายืนยัน
นายคำรณ อินทร์จันทร์ นักวิชาการชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าส่วนภูมิภาค สาขาระนอง กล่าวว่า กรมเจ้าท่าในฐานะหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ดูแลรักษา และขุดลอกร่องน้ำ ทางเรือเดิน แม่น้า ลำคลอง ทะเลสาบ และทะเลภายในน่านน้ำไทยนั้น ภายหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งกระบวนการปฏิบัติที่ถูกต้องการขุดตักทรายในลำคลองสาธารณะนั้นจะต้องแจ้ง และยื่นขออนุญาตตามระเบียบต่อกรมเจ้าท่าก่อน หลังจากได้รับอนุญาตแล้วจึงจะทำการขุดลอกได้ หากว่าด้วยหลักเกณฑ์ตามกฎหมายแล้วถือว่าผิดกฎหมาย และหลังจากนี้จะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวผู้รับเหมาขุดทราย และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาทำการสอบถามข้อเท็จจริงเพื่อติดตามดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพราะถือว่าเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำให้ทิศทางน้ำเปลี่ยนกระแสเกิดการกัดเซาะตลิ่งพัง
ด้าน นายสุรพล อาวุธ ปลัดอำเภอเมืองระนอง ฝ่ายป้องกัน กล่าวว่า จากนี้จะสั่งการให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่กวดขันแต่ละหมู่บ้านว่ามีการลักลอบขุดตักทรายหรือไม่ พร้อมกับประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้มงวดในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งขณะนี้ทราบว่าทรายถมโดยเฉพาะทรายในลำคลองนั้นจะมีราคาสูง และเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก เพราะมีทั้งหิน และทรายหยาบจึงทำให้นายทุนนั้นพยายามเข้ามาลักลอบขุดตักทรายอยู่เป็นประจำทุกปีโดยเฉพาะหน้าแล้งฉวยโอกาสช่วงที่น้ำในคลองเริ่มแห้งขอด