xs
xsm
sm
md
lg

ญาติร้องผู้ต้องหายาบ้าผูกคอตายคาห้องขังปริศนา! หลังถูก ตร.จับรีดเงิน 5 แสนบาท (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ญาติร้องผู้ต้องหายาบ้าผูกคอตายคาห้องขังปริศนา หลังถูกตำรวจจับ และเรียกเงิน 5 แสนบาท แลกต่อการลดจำนวนยาบ้า ด้านญาติสงสัยสาเหตุการตายอาจมีเงื่อนงำจึงนำศพออกจากวัดส่งแพทย์ รพ.ม.อ.หาดใหญ่ ชันสูตรอย่างละเอียด ร้องเจ้าหน้าที่ตรวจสอบตำรวจชุดจับกุมที่เรียกรับเงินสินบน

วันนี้ (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางรัชดาพร หมื่นวุ่นหนู อายุ 52 ปี และนายสามารถ หมื่นวุ่นหนู อายุ 51 ปี พร้อมญาติ ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ม.4 ต.บ้านใหม่ อ.ระโนด จ.สงขลา ได้นำศพของ นายสุชาติ หมื่นวุ่นหนู อายุ 47 ปี ไปให้แพทย์นิติเวช โรงพยาบาล ม.อ.หาดใหญ่ ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุของการเสียชีวิต หลังถูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.ระโนด จ.สงขลา จับกุมในคดียาบ้า เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา และพบกลายเป็นศพผูกคอตายคาห้องขังในช่วงเช้ามืดของวันที่ 25 ต.ค.ซึ่งญาติสงสัยสาเหตุการตายอาจมีเงื่อนงำ ที่สำคัญคดีนี้ถูกตำรวจเรียกเงิน 5 แสนบาท แลกต่อการลดจำนวนยาบ้าที่ยึดได้จาก 1,400 เม็ด เหลือ 600 เม็ด และคืนของกลางให้ญาติ จึงตัดสินใจนำศพออกจากวัดหัววัง หลังจากที่ตั้งบำเพ็ญกุศลมา 3 วัน เพื่อให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียดคลายข้อสงสัย

โดย นางรัชดาพร กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. (24 ต.ค.) น้องชายได้ถูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.ระโนด จำนวน 6 นาย เข้าจับกุมภายในบ้านพักเลขที่ 10 ม.4 บ.หัววัง ต.บ้านใหม่ อ.ระโนด พร้อมยาบ้า จำนวน 1,400 เม็ด และยึดรถยนต์กระบะ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน สร้อยคอหนัก 2 บาท แหวน 1 วง หนัก 2 สลึง พระเครื่องหลวงพ่อเรือง 3 องค์ ก่อนที่จะถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ระโนด

ต่อมา น้องชายได้โทรศัพท์มาหา นางสมคิด ภรรยา บอกว่า ตำรวจชุดจับกุมได้เรียกเงิน จำนวน 5 แสนบาท เพื่อแลกกับการลดจำนวนยาบ้าจาก 1,400 เม็ด เหลือ 600 เม็ด ภรรยาจึงไปพบกับตำรวจชุดจับกุม และเจรจาต่อรองเหลือ 344,000 บาท และให้น้องชายเซ็นใบมอบอำนาจให้ภรรยาไปเบิกเงินสดจากธนาคารมามอบให้แก่หัวหน้าชุดจับกุมที่ห้องทำงานชุดสืบสวน สภ.ระโนด ภายในวันเดียวกัน ก่อนที่น้องชายจะถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน และถูกแจ้งข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และถูกนำตัวเข้าไปควบคุมไว้ในห้องขัง สภ.ระโนด และพบว่าผูกคอตายในช่วงเช้าวันต่อมา

โดยหลังจากที่นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด 3 วัน ญาติๆ ต่างตั้งข้อสงสัยว่าลักษณะการผูกคอตายผิดปกติ เนื่องจากผ้าถูกบิดเป็นเกลียว และเท้ายังงออยู่กับพื้นอาจถูกฆาตกรรม ขณะที่ภรรยาของนายสุชาติ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้นำเงินไปมอบให้แก่ชุดจับกุมแล้ว ได้เดินทางไปเยี่ยมนายสุชาติ เพื่อนำผ้าห่มไปให้ และระหว่างที่ถูกส่งตัวให้แก่ร้อยเวรในเวลาเที่ยงคืนยังพูดคุยกันปกติไม่มีอาการเครียด และเตรียมให้ทนายไปยื่นเรื่องขอประกันตัวในชั้นศาลในวันรุ่งขึ้น โดยไม่มีทีท่าว่าสามีจะคิดสั้น หรือเครียด

แต่ปรากฏว่า ในช่วง 6 โมงเช้า ตำรวจได้แจ้งว่าสามีของตนผูกคอตายคาห้องขังแล้ว เมื่อสอบถามสิบเวรหน้าห้องขังบอกว่า ช่วงตี 4 ยังเห็นสามีนอนอยู่ในห้องขัง และได้เดินลงมาสูบบุหรี่เมื่อกลับขึ้นไปก็พบว่าสามีได้ใช้ผ้าห่มผูกคอตายกับลูกเกรงเหล็กหน้าห้องขังแล้ว ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานมาตรวจที่เกิดเหตุระบุว่า เสียชีวิตมาแล้วราว 4-6 ชั่วโมง ส่วนของกลางซึ่งตำรวจได้คืนให้ทั้งหมด ยกเว้นโทรศัพท์มือถือของสามีที่มีการโทร.เข้ามาถึง 50 ครั้งนั้นยังไม่ได้คืน

ด้าน นายสามารถ พี่ชายของ นายสุชาติ เปิดเผยว่า แม้ว่าเมื่อ 2 ปีก่อนน้องชายเคยต้องคดีเสพยาบ้า และต้องโทษ 2 ปี และปัจจุบันกลับตัวเป็นคนดียึดอาชีพรับเหมาก่อสร้างเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเด็ดขาด และกำลังอยู่ระหว่างการสร้างบ้าน เพื่อรับแม่มาอยู่ด้วย แต่การตายของน้องชายนั้นพบพิรุธหลายอย่างเหมือนกับการจัดฉากตั้งแต่ก่อนถูกจับกุม เพราะน้องชายเล่าให้ฟังว่า ในช่วงเช้าก่อนถูกจับมีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นเมียของนักโทษอยู่ในเรือนจำได้โทรศัพท์มาหาเกือบ 50 สาย อ้อนวอนให้ช่วยไปรับยาบ้าตามจุดนัดหมาย เพราะกำลังตำรวจถูกติดตามตัวไม่สามารถไปรับได้ น้องชายจึงเดินทางไปรับแทน และเมื่อมาถึงบ้านก็ถูกตำรวจตามมาจับกุมทันที

พร้อมกับมีการเรียกเงินเพื่อลดจำนวนยาบ้า ก่อนที่จะกลายเป็นศพผูกคอตายคาห้องขัง จึงต้องนำศพออกจากวัดมาให้แพทย์ผ่าพิสูจน์เพื่อคลายข้อสงสัยสาเหตุการตาย และต้องการให้มีการสอบสวนตำรวจชุดจับกุมที่เรียกรับเงินสินบน ทั้งนี้ ญาติจะยังไม่เผาศพของนายสุชาติ โดยจะเก็บเอาไว้ก่อนจนกว่าข้อเท็จจริงเรื่องนี้จะปรากฏ ทั้งสาเหตุการตาย และกรณีที่ตำรวจเรียกรับสินบน อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แพทย์ได้ผ่าพิสูจน์ศพของนายสุชาติ ได้แจ้งแก่ญาติว่าต้องรอผลการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนได้

ด้าน พ.ต.อ.อำพล บัวรับพร รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา ระบุว่า ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตำรวจที่เกี่ยวข้อง 7 นาย ประกอบด้วย ชุดสืบสวนที่จับกุม 6 นาย และสิบเวรหน้าห้องขัง 1 นาย ทั้งกรณีรับสินบน และประเด็นของการเสียชีวิต หากพบว่ามีความผิดตามที่ญาติตั้งข้อสงสัยก็จะถูกดำเนินคดีทั้งทางวินัย และทางอาญา ซึ่งระหว่างการสอบสวนให้ย้ายออกจากพื้นที่ชั่วคราว ให้ไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เพื่อความสบายใจของญาติผู้เสียชีวิต และยืนยันจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
   
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น