ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คืบหน้าเหตุญาติร้องผู้ต้องหาถูกจับคดียาเสพติดผูกคอตายคาห้องขัง เนื่องจาก ตร.รีดไถเงิน สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดรวม 7 นาย เตรียมส่งสรุปผลใน 7 วัน พร้อมชงเรื่องต่อยัง ป.ป.ท. ด้านญาติผู้ตายพอใจผลการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ ภรรยาผู้ตายเผยหวั่นความปลอดภัยของครอบครัว
ความคืบหน้ากรณี นายสุชาติ หมื่นวุ่นหนู อายุ 47 ปี ผูกคอตายคาห้องขัง สภ.ระโนด จ.สงขลา เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากถูกจับกุมคดียาบ้า และญาติได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมทั้งสาเหตุของการเสียชีวิตเพราะอาจถูกฆาตกรรม พร้อมกับนำศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ รวมทั้งให้ตรวจสอบเอาผิดต่อตำรวจชุดจับกุมซึ่งรีดเงิน จำนวน 344,000 บาท แลกกับการลดจำนวนยาบ้าจาก 1,400 เม็ด เหลือ 600 เม็ด ซึ่งทางรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนตำรวจ 7 นาย และย้ายออกจากพื้นที่ให้ไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา จนกว่าผลสอบจะแล้วเสร็จ
ล่าสุด วันนี้ (29 ต.ค.) พ.ต.อ.อำพล บัวรับพร รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยถึงแนวทางการสอบสวนคดีนี้ว่า ในส่วนของตำรวจ สภ.ระโนด ทั้ง 7 นาย มีชุดสืบสวน 6 นาย และสิบเวรเฝ้าห้องขัง 1 นาย ที่ถูกร้องเรียนนั้นนอกจากจะตั้งกรรมการสอบสวนและสรุปผลภายใน 7 วัน แล้วยังส่งเรื่องไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เขต 9 ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดของข้าราชการ ทั้งนี้ หากผลสอบออกมาว่ามีความผิดก็จะให้ออกราชการทันที รวมทั้งดำเนินคดีทางอาญาด้วย
พ.ต.อ.อำพล ยังกล่าวอีกว่า ได้ชี้แจงแนวทางการสอบสวนคดีนี้ให้ญาติของผู้เสียชีวิตได้ทราบแล้ว ซึ่งญาติเข้าใจ และพอใจการทำงานของตำรวจที่ให้ความเป็นธรรม และดำเนินการสอบสวนเอาผิดต่อตำรวจที่เกี่ยวข้อง แต่ในส่วนประเด็นสาเหตุการตายซึ่งญาติยังตั้งข้อสงสัยนั้นจะต้องรอผลการพิสูจน์ศพจากแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลสงขลานครินทร์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย
ด้าน นางสมคิด หมื่นวุ่นหนู ภรรยาของ นายสุชาติ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ออกมาร้องเรียนเรื่องตำรวจเรียกเงินนั้น ขณะนี้เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของตนเอง และครอบครัว เนื่องจากตนเป็นพยานปากเอกในเรื่องนี้ และเป็นคนไปเบิกเงินไปมอบให้แก่ตำรวจ เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย และอยู่บ้านเพียงลำเพียงกับลูกชายวัย 11 ขวบ จึงต้องการให้ตำรวจจัดกำลังมาดูแลความปลอดภัยที่บ้านพักเป็นระยะจนกว่าผลสอบคดีนี้จะสิ้นสุด ทั้งนี้ ตนได้เข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ไปแล้ว พร้อมกับหลักฐานการเบิกจ่ายเงินจากธนาคาร ซึ่งตนให้การไปตามข้อเท็จจริงทั้งหมด
นางสมคิด เผยว่า เดิมทีเรื่องนี้ตนได้สัญญากับตำรวจชุดจับกุมไปแล้วว่าจะเก็บเรื่องการเรียกเงินไว้เป็นความลับเพื่อแลกกับจำนวนยาบ้าให้น้อยลง และสามีไม่ต้องถูกดำเนินคดีหลายปี แต่ที่ออกมาเปิดเผย และร้องเรียนเรื่องนี้เนื่องจากรับไม่ได้ที่สามีต้องมาเสียชีวิต ซึ่งโดยส่วนตัวตนนั้นไม่ติดใจในประเด็นการตายเพราะสามีอาจจะเครียด เพราะก่อนตายเคยบ่นว่า นอกจากจะเสียเงินแล้วยังต้องติดคุกทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน และไม่อยากเข้าไปอยู่ในคุกอีก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เคยต้องโทษมาแล้ว 2 ปี จึงอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คิดสั้นจบปัญหาทุกอย่าง
แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องรอผลการพิสูจน์จากแพทย์อีกครั้งหนึ่งร่วม 1 เดือน โดยในวันพรุ่งนี้ (30 ต.ค.) หลังจากเสร็จพิธีบำเพ็ญกุศลศพแล้วก็จะนำศพส่งไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จนกว่าผลการตรวจจะออกมา
