xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาเกาะสุกร จ.ตรัง ปลูกข้าวกล้องไรซ์เบอรี หวังเจาะตลาดกลุ่มคนรักสุขภาพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตรัง - เกษตรกรบนเกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ทดลองปลูกข้าวกล้องไรซ์เบอรี หวังทำตลาดกลุ่มคนรักสุขภาพที่เติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ เบื้องต้นพบว่าได้ผลผลิตดี

นางราตรี จิตรหลัง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กล่าวว่า เกาะสุกร นับเป็นพื้นที่เกาะเพียงแห่งเดียวของจังหวัดตรัง ที่ยังคงมีการอนุรักษ์อาชีพการทำนาแบบพื้นบ้าน และยังมีฝูงควายจำนวนมากที่สุดด้วย จนนับเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่อยู่คู่กับชุมชนมาช้านานแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ที่ 2 บ้านแหลม และหมู่ที่ 3 บ้านทุ่ง ซึ่งมีประชากรประมาณ 1,400 คน และส่วนใหญ่ยังคงยึดอาชีพการทำนา โดยพันธุ์ข้าวที่นิยมนำปลูกก็คือ หอมมะลิ และหอมมะลิแดง ส่วนผลผลิตที่ได้ส่วนใหญ่ใช้บริโภคบนเกาะสุกร ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อแบ่งปันอาหารกันในชุมชน และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่นำข้ามฟากออกไปขายบนฝั่ง ซึ่งแตกต่างไปจากพื้นที่เกาะอื่นๆ ที่ต้องซื้อข้าวจากภายนอกเข้ามา

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ผลผลิตข้าวที่ออกมาบนเกาะสุกร สามารถเชื่อมั่นได้ในเรื่องของคุณภาพ และความปลอดภัย เพราะเป็นการทำนาอินทรีย์ที่ไม่ใช้สารเคมี และปุ๋ยส่วนใหญ่ก็มาจากธรรมชาติ เช่น ขี้ควาย ขี้ค้างคาว รวมทั้งนำเศษกุ้งหอยปูปลาจากท้องทะเล มาทำเป็นปุ๋ยหมัก และน้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้ในการขับไล่แมลง กำจัดศัตรูพืช และบำรุงต้นข้าว ตลอดยังมีน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ตลอดช่วงฤดูกาลทำนา จึงทำให้ข้าวหอมมะลิที่ออกมามีรสชาติดี และมีกลิ่นหอมหวนชวนรับประทานกว่าที่อื่น นอกจากนั้น ล่าสุด ยังได้มีการทดลองปลูกข้าวกล้องไรซ์เบอรีด้วย ซึ่งหากประสบผลสำเร็จก็จะเป็นแนวทางใหม่ในการทำนาของกลุ่มเกษตรกร เนื่องจากข้าวชนิดนี้กำลังได้รับความนิยมบริโภคสูงมากขึ้นเรื่อยๆ

ด้วยเหตุนี้ อบต.เกาะสุกร จึงได้มีการส่งเสริมให้จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมรักษาอาชีพทำนาเพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนขึ้น ภายใต้โครงการความมั่นคงด้านอาหาร โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จนเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว รวมทั้งชาวต่างชาติจากหลากหลายประเทศ ทั้งจากทวีปเอเชีย และทวีปยุโรป เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ โดยมีการเดินทางมากินนอนกับชาวบ้านบนเกาะสุกร เพื่อศึกษาวิถีชีวิตการทำน นับตั้งแต่ไถ หว่าน ดำ ไปจนถึงเก็บเกี่ยว ซึ่งปรากฏว่า ชาวต่างชาติเหล่านี้มีความชื่นชอบและมีความรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก มีการบอกต่อไปยังกลุ่มเพื่อนๆ แล้วชักชวนกันมาร่วมกิจกรรมทำนาเพิ่มขึ้นรวมปีละนับร้อยคนแล้ว
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น