ชาวนาพิจิตรลงแขกปลูกข้าวอินทรีย์ ชูปุ๋ยขี้จิ้งหรีด-น้ำหมักจาวปลวกทำข้าวโตเร็ว

พิจิตร - นายอำเภอจับมือ ผอ.รพ.วชิรบารมี ลงแขกทำนาข้าวเกษตรอินทรีย์ใช้ปุ๋ยขี้จิ้งหรีด และน้ำหมักจาวปลวก คุยฟุ้งข้าวโตเร็ว

วันนี้ (30 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไชยา สมถวิล นายอำเภอวชิรบารมี จ.พิจิตร และ พญ.ผกามาศ เพชรพงศ์ ผอ.รพ.วชิรบารมี ได้เป็นแกนนำกลุ่มเกษตรกรจำนวนกว่า 40 คน ร่วมลงแขกปลูกข้าวในแปลงนาอินทรีย์

นายไชยากล่าวว่า ขณะนี้มีชาวนาเกือบ 100 คน มีที่นารวมกว่า 1 พันไร่ ประกาศตัวแล้วว่าจะต้องใช้ชีวิตอยู่ให้ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาโครงการรับจำนำข้าว แต่จะใช้วิธีลดต้นทุนการผลิต ปลูกข้าวมีคุณภาพที่เป็นข้าวอินทรีย์ เพราะข้าวเหล่านี้จะขายได้ราคาสูงกว่าตันละ 15,000 บาทอย่างแน่นอน

โดยได้ลงมือปลูกข้าวหอมปทุมเทพ และข้าวหอมนิลเพื่อขายเมล็ดพันธุ์ และนำไปสีเป็นข้าวกล้อง บรรจุถุงขายกิโลกรัมละ 50 บาท ที่มียอดสั่งจองซื้อมาแล้วมากมายจึงมั่นใจว่าถ้าปลูกข้าวพันธุ์ดีก็ขายได้ราคา ถึงแม้ไม่มีโครงการรับจำนำข้าวชาวนาพิจิตรก็อยู่ได้

ด้าน พญ.ผกามาศ เพชรพงศ์ ผอ.รพ.วชิรบารมี กล่าวว่า ได้ทำโครงการหมอต้นทาง นั่นคือ การดูแลสุขภาพของเกษตรกรไม่ให้เจ็บไข้ได้ป่วย เพราะที่ผ่านมามีการตรวจเลือดพบว่าชาวนามีสารพิษในร่างกาย สุดท้ายก็ป่วยเป็นมะเร็ง ดังนั้นอาชีพ อาหาร และสุขภาพ จึงมีผลเชื่อมโยงกัน จึงได้รณรงค์เริ่มต้นที่อาชีพทำนาว่า ต้องหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีและต้องบริโภคอาหารที่ปลอดสารพิษด้วย

ดังนั้นข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของคนไทยจึงต้องควรเป็นข้าวปลอดสารพิษ หรือข้าวเกษตรอินทรีย์ เรียกได้ว่ากินข้าวเป็นยา ทำเพียงเท่านี้ควบคู่กับการออกกำลังกาย คนไทยก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรงได้โดยไม่ต้องพึ่งยา

นายบุญเรือง เพชรน้อย อายุ 44 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านบัวยาง ต.หนองหลุม อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ซึ่งทำนาเกษตรอินทรีย์ 8 ไร่ เล่าให้ฟังว่า ทุกวันนี้ไม่เคยใช้ปุ๋ยเคมีเลย แต่ใช้น้ำหมักจาวปลวกที่เป็นสูตรของปราชญ์ชาวบ้านมาเทผสมน้ำในช่วงเตรียมดิน ทิ้งหมักดินเอาไว้แค่ 7 วัน ดินที่เคยแข็งกลับฟูเหนียวนุ่ม เหมาะแก่การทำนาดำ

ส่วนปุ๋ยที่ใช้ก็ลองผิดลองถูกมาหลายอย่าง สุดท้ายพบว่าในหมู่บ้านมีคนเลี้ยงจิ้งหรีดขายเป็นจำนวนมาก จึงได้ลองไปซื้อขี้จิ้งหรีดที่ขายกระสอบละ 40-50 บาท น้ำหนักประมาณ 15 กก.เอามาหว่านแทนปุ๋ยเคมี ปรากฏว่าข้าวโตเจริญงอกงามเป็นอย่างดี

“รวมแล้วทำนาลงทุนไร่หนึ่งๆ ไม่ถึง 2,000 บาท ตอนนี้ไม่มีโครงการรับจำนำ แต่ขายข้าวอินทรีย์ในรูปแบบข้าวกล้องบรรจุถุง ก็มีรายได้งามอยู่ได้อย่างสบาย”