เกษตรกรสงขลาผุดนวัตกรรมเจ๋ง! ปลูกข้าวในบ่อซีเมนต์-ล้อรถ

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกษตรกรใน อ.จะนะ จ.สงขลา ทำนารูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากการทำนาทั่วๆ ไป โดยการทำนาชีวภาพในบ่อซีเมนต์ และล้อรถยนต์ ดูแลง่าย ต้นทุนต่ำ ไม่เปลืองน้ำ ได้ข้าวที่มีคุณภาพปลอดสารพิษ ปลูกได้ถึงปีละ 4 รอบ ที่สำคัญเมื่อเกี่ยวเสร็จแล้วก็ลงมือปลูกใหม่ได้ทันที

วันนี้ (20 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายคำนึง นวลมณีย์ อายุ 50 ปี เกษตรกรในพื้นที่หมู่ 10 ต.จะโหนง อ.จะนะ จ.สงขลา และยังเป็นหัวศูนย์การเรียนรู้นวัตกรรมใหม่เพื่อเศรษฐกิจพอเพียง ใช้วิธีการทำนาแนวใหม่ที่แตกต่างจากการทำนาทั่วๆ ไป โดยการทำนาชีวภาพในบ่อซีเมนต์ และล้อรถยนต์ แทนการปลูกในแปลงนา แต่ได้ข้าวที่มีคุณภาพต้นทุนต่ำปลอดสารพิษ สามารถทำนาได้ถึง 4 รอบ ที่สำคัญเมื่อเก็บเกี่ยวเสร็จแล้วก็ลงมือดำนารอบใหม่ได้ทันที หรือที่เรียกว่าเกี่ยวเช้าดำเย็น

สำหรับวิธีการทำนาที่ว่านี้มี 3 แบบด้วยกัน คือ แบบแรกปลูกใน “บ่อซีเมนต์” โดยนำอิฐบล็อกมาก่อเป็นแปลงนาความกว้าง 4 เมตร ยาว 22 เมตร สูง 40 เซนติเมตร ลาดพื้นด้วยซีเมนต์ หรือตามความเหมาะสมของขนาดพื้นที่ แบบที่ 2 ปลูกใน “ท่อซีเมนต์” โดยนำท่อมาลาดพื้นด้วยซีเมนต์ และแบบที่ 3 ปลูกใน “ล้อรถยนต์” โดยนำล้อรถยนต์ทั้งเส้นมาลาดพื้นด้วยซีเมนต์ เสร็จแล้วก็ใส่น้ำลงไป และปลูกข้าวได้ทันทีไม่ต้องใส่ดิน

ส่วนการดำนาทั้ง 3 แบบจะเหมือนกันคือ ใช้วิธีปักต้นกล้าลงในถุงพลาสติกขนาด 6 คูณ 8 เซนติเมตร ซึ่งใส่ดินเอาไว้ และแช่ลงไปในน้ำให้พอมิดถุงระยะห่างของต้นกล้าเหมือนกับการดำนาทั่วๆ ไป เป็นอันเสร็จ ส่วนระยะเวลาในการปลูกก็เหมือนกับการทำนาปกติใช้เวลาประมาณ 120 วัน หรือ 2 เดือน ก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้

นายคำนึง บอกว่า การทำนาด้วยวิธีนี้ใช้น้ำน้อย ดูแลง่ายมาก และต้นทุนต่ำ ทำได้ทั้งนาลุ่มนาดอน เป็นการทำนาแบบชีวภาพร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากใช้เพียงปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพที่ทำขึ้นเองและแหนแดงซึ่งเป็นปุ๋ยพืชสด ไม่ใช้สารเคมี หรือยาฆ่าแมลง แต่ได้ข้าวที่มีคุณภาพปลอดสารพิษ รวงยาวเมล็ดเต็มไม่ลีบ ที่สำคัญเมื่อเกี่ยวข้าวเสร็จก็สามารถนำต้นกล้าใหม่ที่เพาะชำไว้มาปลูกแทนได้ทันทีเรียกว่าเกี่ยวเช้าดำเย็น เพียงแค่นำต้นกล้าใหม่ที่ชำไว้มาปักในถุงดินอันเดิมได้เลย ไม่ต้องทำใหม่ ปักได้ทั้งบนถุง ข้างถุง ท้ายถุง หมุนเวียนสลับกันไปได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องเปลี่ยนถุงดิน

สำหรับผลผลิตที่ได้ นายคำนึง บอกว่า หลังจากทำนาด้วยวิธีนี้มา 3 ปี หรือ 12 รุ่น เนื้อที่รวมกันทั้งหมดประมาณ 500 ตารางเมตร โดยใช้ข้าวพันธุ์ดอกพยอม ได้ข้าวรุ่นละประมาณ 7 ถัง ซึ่งเพียงพอสำหรับกินในครัวเรือนตลอดทั้งปี เกษตรกรหรือผู้ที่สนใจก็สามารถทำได้ หรือจะโทร.มาสอบถามรายละเอียดวิธีการปลูกได้ที่ตนโดยตรงที่หมายเลข 08-9465-4540