ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชื่นชมสองตายาย จ.สงขลา ใช้พื้นที่ว่างทำการเกษตรแบบพอเพียง ตามรอย “พ่อหลวง” ด้วยการปลูกผักสวนครัว และพืชยืนต้นหลายชนิด สามารถสร้างรายได้หมุนเวียนตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงถือศีลกินเจ
วันนี้ (30 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสอน และนางเขียว อินทอง อายุ 72 ปี สองตายายชาว ต.ทุ่งหวัง อ.เมือง จ.สงขลา ใช้พื้นที่ว่างเพียง 1 ไร่ 2 งาน ทำการเกษตรแบบพอเพียง ปลูกพืชผักสารพัดชนิดปลอดสารพิษตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงทั้ง ผักคะน้า ผักบุ้งขาว ผักหอม อ้อย ข้าวโพด น้ำเต้า และฟักทอง ส่งขายตลาดนัดใกล้บ้าน มีรายได้หมุนเวียนทุกวันตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงนี้ซึ่งเป็นเทศกาลถือศีลกินเจ ผักกินใบทั้งคะน้า และผักบุ้งขายดี ตากับยายจะใช้วิธีตัดแทนการถอนทั้งต้น เพื่อให้ใบงอกออกมาใหม่ซึ่งสามารถหมุนเวียนเก็บขายได้ต่อเนื่อง
โดยตาสอน บอกว่า การปลูกพืชผักทุกชนิดจะทำสองคนตายาย ไม่ใช้สารเคมี จะใช้ปุ๋ยหมัก และปุ๋ยคอกบำรุงดินเพราะต้นทุนน้อย แต่เป็นที่นิยมของผู้คนทั่วไปเพราะเป็นผักปลอดสารพิษ วิธีการขายก็จะเก็บมามัดเป็นกำ กำละ 5-10 บาท ซึ่งขายได้ง่าย ลูกค้าสามารถเลือกซื้อผักได้หลายชนิดเพื่อนำไปปรุงเป็นอาหารในครอบครัว สำหรับรายได้ขึ้นอยู่กับปริมาณผักที่เก็บได้ในแต่ละครั้งเฉลี่ย 300-500 บาท
โดยจะนำไปขายตามตลาดนัดในช่วงเสาร์-อาทิตย์ และชาวบ้านในหมู่บ้านก็แวะเวียนมาซื้อถึงแปลง นอกจากนี้ ยังมีเงินก้อนจากการขายพืชยืนต้นอื่นๆ เช่นอ้อย ข้าวโพด ซึ่งจะใช้เวลาการปลูกนานกว่า การทำเกษตรแบบพอเพียงนอกจากจะมีรายได้เลี้ยงตัวเองได้แล้ว ยังทำให้มีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะมีผักปลอดสารพิษไว้กินในครัวเรือน และยังเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย เพราะหากนั่งๆ นอนๆ อยู่กับบ้านร่างกายก็จะเสื่อมโทรมไปตามวัย