นครปฐม - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เผยอีกน้ำหมักชีวภาพ “สูตรป้องกันโรค” สูตรที่สมบูรณ์สุด หลังใช้เวลานานเป็นแรมปีเข้าห้องวิจัย พร้อมลงแปลงทดลอง เปิดอีกทางเลือกให้เกษตรกรลดยาฆ่าแมลงและต้นทุนการผลิตพืชเกษตร สู่เศรษฐกิจพอเพียง
รองศาสตราจารย์ ดร.จุรีย์รัตน์ ลีสมิทธิ์ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า น้ำหมักชีวภาพนั้นถือว่ามีความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมีหลายสูตรที่เกษตรกรนำมาใช้ และปัจจุบันเกษตรกรส่วนใหญ่มีแนวโน้มทำการเกษตรผสมผสาน และปลอดสารเคมีมากขึ้น
ดังนั้น น้ำหมักชีวภาพสูตรต่างๆ ตามภูมิปัญญาท้องถิ่นจึงเป็นทางเลือกหนึ่งซึ่งนอกจากจะลดต้นทุนของการใช้ปุ๋ยเคมีแล้ว ยังนำไปสู่การเกษตรที่ไร้สาร ปลอดภัยต่อเกษตรกร และผู้บริโภค แม้ว่ามีการตรวจสอบคุณภาพในด้านต่างๆ ของน้ำหมักชีวภาพ จากหน่วยงานราชการ และเอกชนหลายแห่ง แต่ยังไม่มีการศึกษาเปรียบเทียบน้ำหมักชีวภาพจากต่างสูตรอย่างเป็นระบบ
งานวิจัยนี้จะทำการศึกษาเปรียบเทียบน้ำหมักชีวภาพสูตรต่างๆ ตามภูมิปัญญาท้องถิ่นของจังหวัดนครปฐม ในด้านต่างๆ คือ คุณสมบัติทางกายภาพ ได้แก่ ความเป็นกรดเป็นด่าง ค่าการนำไฟฟ้า เปอร์เซ็นต์ธาตุหลัก เปอร์เซ็นต์อินทรีย์คาร์บอน อัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจน คุณสมบัติทางชีวภาพ ได้แก่ จำนวนจุลินทรีย์ในน้ำหมักชีวภาพ ผลต่อการงอกของเมล็ดพืช ผลต่อการเจริญเติบโตของพืช ความสามารถในการต่อต้านโรคพืช ในแปลงปลูกเลียนแบบเกษตรกร และศึกษาผลของน้ำหมักชีวภาพต่อจุลินทรีย์มีประโยชน์ ซึ่งเกษตรกรมักเลือกใช้ในแปลงปลูก โดยพืชที่เลือกใช้ทดสอบนั้นจะเป็นพืชสำคัญของจังหวัด และผักกินสด ได้แก่ ข้าว ผักกาดหอม ต้นหอม ผักชี และพริก
ผลจากงานวิจัยนี้จะทำให้เกษตรกรมีข้อมูลเบื้องต้น และใช้เป็นแนวทางในการเลือกใช้น้ำหมักชีวภาพสูตรต่างๆ ให้เหมาะสมต่อการเพาะปลูกพืชของตนเองต่อไป จากการทดสอบน้ำหมักชีวภาพสูตรต่างๆ โดยที่ได้รับความนิยมจากเกษตรกรทั่วประเทศ เมื่อนำมาทดสอบประสิทธิภาพ โดยใช้สภาวะการทดลองควบคุม พบน้ำหมักชีวภาพ 2 สูตรคือ สูตรเร่งโต และสูตรป้องกันโรค โดยในส่วนของการเร่งโตนั้นได้เคยเผยแพร่จนเป็นที่น่าพอใจมาแล้ว ซึ่งสูตรการป้องกันโรคก็มีเกษตรกรสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก และสูตรที่นำมาเสนอครั้งนี้คือ สูตรป้องกันโรคที่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรที่กำลังหันมาแก้ปัญหาโรคต่างๆ ในพืช ซึ่งจะมีมาในช่วงหน้านาวที่จะถึงนี้ด้วย
สำหรับน้ำหมักชีวภาพสูตรป้องกันโรค ที่มีการนำเข้าของปฏิบัติการ และนำผลและค่าต่างๆ มาประเมินเสร็จสิ้น และนำลงแปลงทดลอง ซึ่งสูตรที่ดีที่สุดประกอบด้วย
สำหรับคุณสมบัติน้ำหมักชีวภาพสูตรต้านโรค ช่วยการต่อต้านโรคกุ้งแห้ง (โรคแอนแทรคโนส) ในพริก โดยสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อรา Collectrichum casici ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคแอนแทรกโนส ในพริกได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ในห้องปฏิบัติการ ซึ่งสอดคล้องต่อการทดสอบในแปลงปลูกพืชทดลอง
ดังนั้น พืชที่รดด้วยน้ำสกัดชีวภาพสูตรนี้จะมีอัตราการเกิดโรคแอนแทรกโนส ต่ำกว่าน้ำสกัดชีวภาพสูตรอื่นๆ พริกชุดที่ไม่ใช้น้ำหมักชีวภาพสูตรต้านโรค มีการเกิดโรคกุ้งแห้งในอัตราสูง พริกชุดที่ใช้น้ำหมักชีวภาพสูตรต้านโรค มีการเกิดโรคกุ้งแห้งในอัตราลดลงอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังได้นำจุลินทรีย์ศักยภาพสูงจากธรรมชาติ จำนวน 2 สายพันธุ์ ซึ่งผ่านการทดสอบมาแล้วว่า มีความสามารถในการส่งเสริมการเจริญของพืช และต่อต้านโรคพืชได้หลายชนิด นำจุลินทรีย์มาทดสอบการใช้ประโยชน์ร่วมกันกับน้ำหมักชีวภาพทุกสูตร ผลการวิจัยพบว่าจุลินทรีย์จากธรรมชาติ จำนวน 2 สายพันธุ์นี้สามารถใช้งานร่วมกับน้ำหมักชีวภาพได้ ในการส่งเสริมการเจริญของพืช และต่อต้านโรคพืช
ผู้สนใจติดต่อสอบถาม และขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่รองศาสตราจารย์ ดร.จุรีย์รัตน์ ลีสมิทธิ์ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน นครปฐม 73140 โทรศัพท์ 0-3428-1105-6 ต่อ 7654 หรือ 08-3559-8448 อีเมล microreku@gmail.com ได้ในวัน และเวลาราชการ