ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รองแม่ทัพภาค 4 ยืนยันกรณีตำรวจภูเก็ตออกหมายจับ 5 ทหาร เกี่ยวกับเคลียร์หนี้ชาวยูเครน พร้อมให้ความร่วมมือ ถ้าตำรวจขอตัวพร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน ยังไม่ชี้ใครผิดใครถูกให้การสอบสวนเป็นไปตามกระบวนการ แต่ทัพภาคที่ 4 ตั้งกรรมการสอบทั้ง 5 นายแล้ว
พล.ต.เรืองศักดิ์ สุวรรณคาร รองแม่ทัพภาค 4 กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจขอศาลจังหวัดภูเก็ต ออกหมายจับทหารจาก มทบ.41 จำนวน 5 นาย ต้องหาว่ากระทำความผิด ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องการทำการนั้น ไม่กระทำการหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธหรือร่วมกันทำความผิดนั้นตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หรือร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือยอมจะให้คนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญ หรือของบุคคลที่ 3 จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น โดยมีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญ ว่า ในเรื่องนี้ก็ได้มีการดำเนินการกันไปตามกฎหมาย
ซึ่งในส่วนของกองทัพภาพที่ 4 ก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว และมีการดำเนินการไปตามระเบียบของนายทหารพระธรรมนูญ ในสภาวะที่มีการประกาศตามประกาศของ คสช.ที่จะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ส่วนทหารทั้ง 5 นาย ตามระเบียบเมื่อนายทหารถูกจับกุม นายทหารพระธรรมนูญก็มารับตัวกลับไปควบคุมที่หน่วยต้นสังกัดแล้ว
เมื่อตำรวจมีหมายจับ นายทหารพระธรรมนูญก็พร้อมจะนำตัวมาส่งพนักงานสอบสวน เมื่อมีการร้องขอ ซึ่งขณะนี้ก็กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการกันอยู่ ถ้าตำรวจมีหลักฐานก็ว่ากันไปตามกฎหมายทหารพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออยู่แล้ว สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นยังไม่รู้ว่าใครถูกใครผิด ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการการสอบสวน ยังไม่รู้ว่าใครผิดใครถูก ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ขณะนี้ยังไม่สามารถตัดสินอะไรได้ รอให้การดำเนินการไปตามกระบวนการที่จะทำให้ความจริงปรากฏ รอให้จบขั้นตอนของกระบวนการ ยังไม่อยากจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
สำหรับการออกหมายจับทหารทั้ง 5 นายในครั้งนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา นางมารีน่า เรียมาดควา อายุ 32 ปี สัญชาติยูเครน เข้าแจ้งความต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ให้ช่วยเหลือ โดยอ้างว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ และทหารเข้าไปควบคุมตัวตนเองที่บ้านพัก และสามีที่ชายหาดมิตรภาพ จ.ภูเก็ต พาไปที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง ซึ่งเกรงว่าจะไม่มีความปลอดภัย หลังรับแจ้งทางตำรวจจึงวางแผนจับกุมกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวรวมทั้งหมด 10 คน ซึ่งในจำนวนนั้นมีทหารร่วมอยู่ด้วย
พล.ต.เรืองศักดิ์ สุวรรณคาร รองแม่ทัพภาค 4 กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจขอศาลจังหวัดภูเก็ต ออกหมายจับทหารจาก มทบ.41 จำนวน 5 นาย ต้องหาว่ากระทำความผิด ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องการทำการนั้น ไม่กระทำการหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธหรือร่วมกันทำความผิดนั้นตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หรือร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือยอมจะให้คนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญ หรือของบุคคลที่ 3 จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น โดยมีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญ ว่า ในเรื่องนี้ก็ได้มีการดำเนินการกันไปตามกฎหมาย
ซึ่งในส่วนของกองทัพภาพที่ 4 ก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว และมีการดำเนินการไปตามระเบียบของนายทหารพระธรรมนูญ ในสภาวะที่มีการประกาศตามประกาศของ คสช.ที่จะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน ส่วนทหารทั้ง 5 นาย ตามระเบียบเมื่อนายทหารถูกจับกุม นายทหารพระธรรมนูญก็มารับตัวกลับไปควบคุมที่หน่วยต้นสังกัดแล้ว
เมื่อตำรวจมีหมายจับ นายทหารพระธรรมนูญก็พร้อมจะนำตัวมาส่งพนักงานสอบสวน เมื่อมีการร้องขอ ซึ่งขณะนี้ก็กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการกันอยู่ ถ้าตำรวจมีหลักฐานก็ว่ากันไปตามกฎหมายทหารพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออยู่แล้ว สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นยังไม่รู้ว่าใครถูกใครผิด ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการการสอบสวน ยังไม่รู้ว่าใครผิดใครถูก ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ขณะนี้ยังไม่สามารถตัดสินอะไรได้ รอให้การดำเนินการไปตามกระบวนการที่จะทำให้ความจริงปรากฏ รอให้จบขั้นตอนของกระบวนการ ยังไม่อยากจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
สำหรับการออกหมายจับทหารทั้ง 5 นายในครั้งนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา นางมารีน่า เรียมาดควา อายุ 32 ปี สัญชาติยูเครน เข้าแจ้งความต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ให้ช่วยเหลือ โดยอ้างว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ และทหารเข้าไปควบคุมตัวตนเองที่บ้านพัก และสามีที่ชายหาดมิตรภาพ จ.ภูเก็ต พาไปที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง ซึ่งเกรงว่าจะไม่มีความปลอดภัย หลังรับแจ้งทางตำรวจจึงวางแผนจับกุมกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวรวมทั้งหมด 10 คน ซึ่งในจำนวนนั้นมีทหารร่วมอยู่ด้วย