พบ “แท็งเกอร์น้ำมันเถื่อน” ถูกคลื่นซัดลอยติดชายหาด จ.นครศรีฯ

นครศรีธรรมราช - แท็งเกอร์น้ำมันเถื่อนลอยเกยหาดนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่คาดเรืออาจถูกคลื่นถล่มจนอับปางจนแท็งก์หลุดจากตัวเรือ ขณะที่บ้านเรือนชาวบ้าน 3 หมู่บ้านกว่า 40 ครัวเรือน เดือดร้อนหนักหลังถูกคลื่นกัดเซาะจนพังทลายหลายหลัง

วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเข้าทำการตรวจสอบแท็งเกอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งพบว่า ยังมีกลิ่นน้ำมันดีเซลถูกคลื่นซัดมาเกยหาดริมเขื่อนหินกันคลื่นกัดเซาะบริเวณหาดบ้านทางขึ้น หมู่ที่ 1 ตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยพบว่า มีขนาดความสูงกว่า 2 เมตร กว้างราว 4 เมตร และยาวราว 6 เมตร น้ำหนักราว 1 ตัน โดยชาวบ้านระบุว่า ได้พบแท็งเกอร์ขนาดใหญ่นี้ถูกคลื่นซัดมาติดเขื่อนกันคลื่นเมื่อคืนที่ผ่านมา

เบื้องต้นนั้นสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นแท็งเกอร์ของเรือประมงแบบไม้ขนาดกว้าง 4 เมตรที่ดัดแปลงติดตั้งแท็งเกอร์บรรทุกน้ำมันเถื่อน และคาดว่าเรืออาจแตก และอับปางลงในทะเลในช่วงที่มีคลื่นสูง และลมกำลังแรงจัดเมื่อ 2-3 วันก่อน ก่อนที่คลื่นแรงซัดพาเข้าหาฝั่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมเครื่องกลหนักเข้ากู้มาเก็บในวัดเพื่อใช้ประโยชน์

ขณะที่บ้านริมฝั่งทะเลดังกล่าว พบว่า บ้านเรือนชาวบ้านถูกคลื่นซัดจนได้รับความเสียหาย ทำความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านใน 3 หมู่บ้านของ ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา คือ ม.1, 2 และ ม.3 โดยนายสุพจน์ เอี่ยมสกุลเวช กำนัน ต.ท่าขึ้น ระบุว่า เกิดคลื่นขนาดใหญ่สูงประมาณ 3-4 เมตร ซัดเข้าฝั่งนานกว่า 2 สัปดาห์ จนชาวบ้านได้รับความเสียหาย 40 หลังคาเรือน นอกจากนั้น ยังเป็นพื้นที่ทางการเกษตร และที่ดินที่ถูกคลื่นซัดพังปีละกว่า 10-15 เมตร

ส่วนที่ริมหาดบ้านเราะ ม.3 ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา นั้นคลื่นได้ซัดสถานประกอบการร้านอาหาร และบ้านเรือนที่พักอาศัยของ นายธราดล ศรีเอียด อายุ 49 ปี จนพังจนพังเสียหาย และระบุว่าอยากจะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวเข้ามาดูแล และให้การช่วยเหลือในด้านความเสียหายที่เราประสบอยู่ ซึ่งเดือดร้อนจากคลื่นทะเลทุกปี กิจการร้านอาหารก็ประสบกับภาวะขาดทุน ซึ่งหากได้รับการช่วยเหลือก็จะนำมาประกอบกิจการทีทำอยู่ได้ต่อไป