ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คณะกรรมการเครือข่ายชาวสวนยางพาราแห่งประเทศไทย หรือ คสยท.เปิดเผยข้อเรียกร้องที่รัฐบาลให้กฎหมายพิเศษปลดล็อกแก้ปัญหาราคายางพารา ด้วยการแก้ไขกฎกระทรวงเปลี่ยนสัญญาจัดซื้อจัดจ้างเปิดทางให้มีการนำยางพาราไปราดพื้นทำถนน เชื่อราคาจะขยับขึ้นทันที เผยที่ไม่ยอมทำเพราะผลประโยชน์อยู่ในมือพ่อค้ายางมะตอย จี้ประกาศส่งเสริมการแปรรูปยางเป็นวาระแห่งชาติ
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการเครือข่ายชาวสวนยางพาราแห่งประเทศไทย (คสยท.) เปิดเผยว่า คสยท.ได้นำเสนอแนวทางแก้ปัญหายางพาราให้รัฐบาลดำเนินการ จำนวน 9 ข้อ ซึ่งข้อที่สำคัญคือ เรื่องการแก้ปัญหาราคายางพาราให้อยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท คือ รัฐบาลต้องแก้ไขกฎกระทรวง เปลี่ยนสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง (TOR) ว่าจะนำยางพาราไปใช้ในการราดพื้นถนน และประกาศชัดว่าจะไม่ขายยาง 210,000 ตัน จะเอาไปราดพื้นถนน สต็อกที่เกินดุลจะหายไปทันที โดยรัฐบาลชุดที่แล้วได้กำหนดราคากลางว่า ถ้าราดด้วยแอสฟัลต์ ตารางเมตรละ 320 บาท ถ้าผสมยางพารา 5 เปอร์เซ็นต์ ราคา 380 บาท ราคาถนนที่แพงขึ้นมันจะถูกกลืนเข้าไปในงบประมาณแผ่นดิน ก่อให้เกิดผลประโยชน์หลายด้าน ทำให้ประเทศได้ถนนที่มีคุณภาพสูงคงทนถาวรกว่าเดิมหลายเท่า ไม่ต้องซ่อมแซมบำรุง สร้างปรับปรุงบำรุงผิวทางทุกปี
“เป็นการลดงบประมาณแผ่นดินจากฟากหนึ่งมาเติมสมดุลให้แก่เกษตรกรอีกฟากหนึ่ง และเท่ากับเป็นการส่งเสริมให้บริโภคยางในประเทศเพื่อลดการส่งออกที่เห็นผลทันที”
แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า ถนนยางพาราสร้างได้ทั้งถนนของเทศบาล อบต. อบจ. รันเวย์สนามบิน มอเตอร์เวย์ ทางด่วน รถไฟรางคู่ ฯลฯ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากที่กำลังเกิดขึ้น และประเทศจีน มาเลเซีย ก็ยังมีความต้องการยางพาราไปสร้างถนนภายในประเทศ และสร้างถนนเชื่อมกันระห่างประเทศตามโครงการประชาคมเศรษฐกิจอาเชียน (เออีซี) ในปี 2558
“รัฐบาล คสช. ร่างกฎกระทรวงจัดซื้อจัดจ้างแล้วมีคำสั่งไปยังกระทรวงต่างๆ ใช้ยางพาราสร้าง ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก ยางพาราไทยก็จะก้าวกระโดดราคาขยับขึ้นทันที”
แหล่งข่าวกล่าวและว่า ที่ไม่สามารถปลดล็อกเอายางพาราราดถนน หรืออื่นๆ ได้ เพราะจะทำให้กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยางแอสฟัลด์จะสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดไป ตลอดจนเมื่อสร้างถนนด้วยระบบยางพาราแล้ว จะทำให้ถนนคงทนถาวร กลุ่มธุรกิจ กลุ่มการเมืองจะสูญเสียงานซ่อมบำรุงรักษาไปแต่ละปีเป็นจำนวนมาก
“อุปสรรคอยู่ตรงนี้ที่ทำให้ยางพาราประสบปัญหามาตลอด” แหล่งข่าวระบุ
ด้านนายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางและสวนปาล์ม 16 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่า ในการปลดล็อกยางพารา รัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หากมีความจริงใจต่อประชาชน และชาวสวนยางพารา ยางพาราก็จะขยับขึ้นทันที ได้โปรดใช้กฎหมายพิเศษปลดล็อกยางพารา โดยเอายางพารามาสร้างสิ่งสาธารณูปโภค เช่น ถนน เป็นต้น โดยเฉพาะแต่ละคราวประมาณ 1 กิโลเมตร/1 หมู่บ้าน โดยทั่วประเทศ 48,000 หมู่บ้าน สามารถใช้ยางได้จำนวนมหาศาล ยางพาราผสมยางมะตอย 5 เปอร์เซ็นต์ ราคา 380 บาท/กก. แต่มีอายุการใช้งานเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว ย่อมได้ผลประโยชน์อย่างมหาศาล ซึ่งยังมีสิ่งอื่นๆ อีกจำนวนมากที่แปรรูปสร้างจากยางได้
“ยางพารา อยู่ที่การแก้ไขของรัฐบาล และ คสช. หากได้มีคำสั่งพิเศษ ดำเนินการปลดล็อคแล้วสนับสนุน ยางพาราประเทศไทย จำนวน 4.7 ล้านตัน / ปี ก็ยังไม่เพียงพอ ยางสร้างถนน และอีกหลายอย่าง การปลดล็อคยาง โดยให้รัฐบาลประกาศว่าให้นำมาแปรรูปโดยการออกเป็นกฎหมายใช้ยางพารา ออกมาใช้ภายในประเทศ ยางพาราราจะขยับขึ้นทันที ขอความจริงใจ ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ และวาระเร่งด่วน” นายทศพล กล่าว