กระบี่ - เหยื่อเงินกู้นอกระบบ บุกร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ ร้องขอความช่วยเหลือ หลังถูกแก๊งทวงหนี้โหดตามข่มขู่ทำร้าย จนไม่สามารถประกอบอาชีพได้
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (25 พ.ย.) เหยื่อเงินกู้นอกระบบประมาณ 10 คน จาก ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ได้เข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ หลังกู้เงินนอกระบบมาลงทุนค้าขาย แต่ไปไม่รอดขาดทุนยับเยิน โดยมีการเซ็นสัญญาเงินกู้ว่า จะต้องจ่ายเป็นรายวัน แต่หลังจากที่ไม่สามารถจ่ายคืนได้ก็ถูกเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบมาตามทวงหนี้ และพูดจาข่มขู่ทำร้ายต้องหลบซ่อนอยู่ตลอดเวลา จนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ โดยมี นายธีระ ชูเชิด หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย นายสุพัชรพงศ์ วรประดิษฐ์ ป้องกันจังหวัดกระบี่ รับเรื่อง
นายเอกชัย ดำดี อาชีพค้าขาย อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 126 ม.5 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้กู้ยืมเงินจากเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ หรือที่รู้จักในนามเงินกู้หมวกกันน็อก เป็นเงิน 2 หมื่นบาท เพื่อนำมาใช้ในการทำธุรกิจร้านอาหาร โดยทำสัญญาเงินกู้ว่า จะจ่ายรายวันๆ ละ 1,000 บาทรวมดอกเบี้ย และมีบางวันไม่มีจ่ายก็ได้ไปกู้เงินนอกระบบจากเจ้าหนี้เงินกู้รายอื่นมาจ่ายทดแทนให้ จนมีหนี้ต้องจ่ายต่อวันสูงถึง 18,000 บาท ยอดเงินรวมกว่า 2 แสนบาท จนต้องขายบ้านมาจ่ายก็ยังไม่พอ และขณะนี้ก็ไม่สามารถออกไปประกอบอาชีพได้ ต้องหลบซ่อนเจ้าหนี้ ลูกและภรรยาหวาดกลัวต้องหนีไปอยู่ที่อื่น เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
ด้าน นางรวิพร มาศโอสถ อายุ 38 ปี อาชีพค้าขาย บ้านเลขที่ 4/1 ม.3 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ลูกหนี้แก๊งเงินกู้นอกระบบอีกราย กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่อ่าวนาง ที่เป็นลูกหนี้แก๊งเงินกู้นอกระบบ มีไม่น้อยกว่า 20 ราย ซึ่งทุกคนตกอยู่ในสถานะเดียวกันก็คือ ไม่มีเงินจ่ายคืน เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ค้าขายได้น้อย และประกอบกับเงินกู้นอกระบบที่แก๊งเงินกู้มาปล่อยให้กู้ดอกเบี้ยสูงมาก แต่ก็ต้องจำยอมกู้ ทำให้เมื่อต้องจ่ายคืนก็ไม่สามารถจ่ายได้ครบตามสัญญา จนเงินต้นเงินดอกเพิ่มทวีคูณอย่างรวดเร็วจนไม่มีปัญญาจ่ายได้ และถูกแก๊งทวงหนี้ ตามทวงหนี้บางครั้งมานอนเฝ้าที่บ้าน และพูดจาข่มขู่ จนไม่ต้องทำอะไร จึงได้รวมตัวกันเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขอให้ช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว
นายสุพัชรพงศ์ วรประดิษฐ์ ป้องกันจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับเรื่องไว้ และทราบว่ามีแก๊งเงินกู้นอกระบบที่ไปปล่อยเงินกู้ให้แก่พ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่อ่าวนาง มีประมาณ 15 ราย ซึ่งจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงตรวจสอบพฤติกรรม และกวาดล้างต่อไป