xs
xsm
sm
md
lg

ผู้เลี้ยงกุ้งกระบี่ร้องศูนย์ดำรงธรรมช่วยเหลือถูกเชิดเงินกว่า 30 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กระบี่ - ผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้งกระบี่ กว่า 10 ราย โร่ร้องศูนย์ดำรงธรรมช่วยเหลือ หลังขายกุ้งให้พ่อค้ากุ้งแล้วถูกเชิดเงินหนี เสียหายกว่า 30 ล้าน

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (13 ต.ค.) ผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้งกระบี่ จำนวน 13 ราย นำโดยนางรุ่งทิพย์ คชผล รองเลขาฯ ชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดกระบี่ เข้ายื่นหนังสือต่อ นายธีระ ชูเชิด หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ เพื่อขอความช่วยเหลือ และคำแนะนำในการดำเนินการติดตามทวงหนี้ หลังจากขายกุ้งให้แก่แพรับซื้อกุ้ง ส.มานะ ตั้งอยู่เลขที่ 312 ม.6 ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ไม่ยอมจ่ายเงินให้ พร้อมปิดแพหนี และติดต่อไม่ได้ ทำเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งเดือดร้อน เนื่องจากสูญเงินรวมกันกว่า 30 ล้านบาท

นายธีระ ชูเชิด หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเจ้าของแพรับซื้อกุ้ง รับซื้อกุ้งไปแล้วเบี้ยวไม่ยอมจ่ายเงินให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งในเบื้องต้นก็ได้รับเรื่องไว้ และแนะนำให้ผู้เสียหายที่มาร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมฯ จำนวน 13 ราย ให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าสู่กระบวนการของกฎหมาย เนื่องจากเป็นการฉ้อโกงประชาชน เข้าข่ายคดีอาญา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเรียกตัวเจ้าของแพมาสอบสวน และออกหมายจับต่อไปได้

ต่อมา ทางกลุ่มผู้เสียหายได้เข้าพบ นายสมาน แสงสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อขอให้ทางจังหวัดประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวช่วยเร่งรัดคดีให้ด้วย เนื่องจากมูลค่าความเสียหายมีจำนวนมาก และผู้เสียหายหลายรายเกรงว่าเจ้าของแพจะหลบหนี ซึ่งทางรองผู้ว่าราชการได้รับปากและแนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความไว้ก่อน

นายมนูญ ไชยสุข ผู้เสียหายรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนได้ขายกุ้งให้แก่แพ ส.มานะ มาหลายครั้ง ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการเงิน จนมีความเชื่อถือกัน แต่ครั้งล่าสุด เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตนได้จับกุ้งอีกครั้งและขายให้แก่แพ ส.มานะ เหมือนเดิม ได้เงินกว่า 4 ล้านบาท แต่ทางแพ ไม่ได้จ่ายเงินสด โดยสัญญาปากเปล่าว่าจะนำเงินมาจ่ายให้ทีหลัง ซึ่งก็เชื่อใจ เนื่องจากทำกันมานาน และแพดังกล่าวก็ได้เปิดทำการมากว่า 20 ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักของผู้เลี้ยงกุ้งทั่วไปทั้งในพื้นที่จังหวัดกระบี่และใกล้เคียง

หลังจากที่รออยู่นานหลายวันก็ได้โทร.ไปทวงกับเจ้าของแพ แต่ถูกผลัดวันมาตลอด และหลังจากวันที่ 7 ที่ผ่านมา ก็ได้โทร.ไปทวงค่ากุ้งอีกครั้ง ก็พบว่าโทรศัพท์ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว และได้เข้าไปตรวจสอบที่แพก็พบว่าได้ปิดทำการไปแล้ว จึงโทร.ไปสอบถามผู้เลี้ยงกุ้งด้วยกันก็ทราบว่า หลายรายถูกเบี้ยวค่ากุ้งเหมือนกับตน รวมแล้วกว่า 30 ราย ทั้งในพื้นที่จังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช คาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท สำหรับ 13 ราย ที่เข้าร้องขอความช่วยเหลือ มูลค่าความเสียหายประมาณ 22 ล้านบาทเศษ บางรายตั้งแต่ 500,000 บาท จนถึง 4,000,000 บาท


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น