นราธิวาส - เทศบาลเมืองร่วมกับโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จัดโครงการ “ส่งเสริมสุขภาพตาเทิดพระเกียรติ” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพบว่าประชากรไทยมีอัตราความชุกตาบอด และสายตาเลือนรางจำนวนมาก จึงนำผู้เชี่ยวชาญแนะแนวทางตามหลักแพทย์ทางเลือก ช่วยแก้ปัญหาทางสายตา
วันนี้ (11 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ร่วมกันโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จัดโครงการ “ส่งเสริมสุขภาพตาเทิดพระเกียรติ” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากในปัจจุบันนี้พบว่า ประชากรไทยมีความชุกตาบอดร้อยละ 0.59 และสายตาเลือนรางร้อยละ 1.57
สำหรับสาเหตุตาบอด และสายตาเลือนรางที่พบมากที่สุดคือ ตาต้อกระจก สาเหตุสายตาพิการมากที่สุดคือ มีความผิดปกติของสายตา และไม่ใส่แว่นตา โรคตาที่เป็นปัญหาสาธารณสุขไทย ได้แก่ โรคต้อกระจก โรคต้อหิน โรคจอประสาทตา โรคตาบอดในเด็ก และโรคจอประสาทผิดปกติในเด็กคลอดก่อนกำหนด รวมทั้งโรคกระจกตา
ซึ่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ได้เห็นความสำคัญปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำแนวทางการพัฒนาศักยภาพขีดความสามารถของระบบบริการ ทั้งด้านการตรวจวินิจฉัย บำบัด รักษา ส่งเสริม ป้องกันโรค รวมถึงการส่งต่อ และการประเมินผล การกำกับติดตามดูแลอย่างต่อเนื่องในผู้ป่วยโรคตาทั้งระบบ เพื่อลดอัตราโรคเกี่ยวกับโรคตาด้วยวิธีต่างๆ เช่น การลดระยะเวลารอคอยผ่าตัดตาต้อกระจก การเพิ่มความครอบคลุมการตรวจโรคเบาหวานที่จอประสาทตา
สำหรับในวันนี้ ทางโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ได้นำแนวทางแพทย์ทางเลือก ซึ่งเป็นศาสตร์ที่มีการผสมผสานระหว่างแพทย์ปัจจุบัน และหลักการฝึกฟื้นฟูดวงตาด้วยตัวเอง โดยมีผู้เชี่ยวชาญทางจักษุแพทย์จากประเทศอินเดีย และมาตรวจรักษา พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพดวงตา โดยมีผู้เข้าร่วมรับการตรวจสายตา จำนวน 50 คน
ด้าน นายแพทย์ศุภชัย ศุภพฤษกษ์สกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก กล่าวว่า แพทย์ทางเลือกเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา และลดปัญหาการเสื่อมของประสาทตา โดยแนวทางการรักษามีทั้งการตรวจวินิจฉัยตามระบบแพทย์ปัจจุบัน จากนั้นจะให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ฝึกวิธีการถนอมสายตาตามหลักแพทย์ทางเลือก ทั้งการบริหารสายตา การนวดสะกดจุด การฝึกโยคะ การสปาตา เป็นต้น ซึ่งวิธีการเหล่านี้ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง และจะช่วยลดปัญหาทางสายตาได้เป็นอย่างดี