ตรัง - สาธารณสุขตรัง ยกทีมเยือนบ้านแม่วัย 24 ชาวตรัง ที่สูญเสียทารกหลังคลอด เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมยอมรับข้อผิดพลาด พร้อมให้ รพ.วังวิเศษ เร่งปรับปรุงการบริการโดยด่วน เหน็บพยายาลไม่ควรถามผู้เสียหายต่อหน้าจำนวนมากว่าเคยทำแท้งมาก่อนหรือไม่ ส่วนเรื่องคดีความแล้วแต่ทางตำรวจ
จากกรณีที่ นางสุวพิชช์ หนองหัด อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221 หมู่ที่ 6 ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง พร้อมกับสามี ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ สภ.วังวิเศษ จ.ตรัง เพื่อให้ดำเนินคดีต่อแพทย์ และพยาบาล รพ.วังวิเศษ หลังจากที่ นางสุวพิชช์ ได้เดินทางมาคลอดบุตรคนที่ 3 ขณะอายุครรภ์ประมาณ 6 เดือน เมื่อคืนวันที่ 24 ตุลาคม และเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา โดยเกิดขึ้นเนื่องจากไม่มีแพทย์ และพยาบาลมาช่วยทำคลอด และดูแลทารกหลังคลอด พร้อมทั้งยังกล่าวหา นางสุวพิชช์ อีกว่า มาคลอดก่อนกำหนดเพราะได้ไปทำแท้งมา ขณะที่โรงพยาบาลวังวิเศษ ยืนยันว่า ได้ช่วยเหลือทารกอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็สุดวิสัย เพราะ นางสุวพิชช์ เกิดภาวะแท้งคุกคามนั้น
ล่าสุด วันนี้ (29 ต.ค.) นายธีรศักดิ์ มักคุ้น รองนายแพทย์สาธารณสุข (สสจ.) ตรัง พร้อมด้วย นพ.สมเกียรติ พยุหเสนารักษ์ ผอ.รพ.วังวิเศษ และเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอวังวิเศษ และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอรัษฎา ประมาณ 20 คน ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 221 หมู่ที่ 6 ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ นางสุวพิชช์ โดยที่บ้านหลังดังกล่าว นางสุวพิชช์ ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ เมื่อจะกรีดยางก็จะไปอยู่อาศัยที่บ้านสามีที่ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง โดยที่รองนายแพทย์ สสจ.ตรัง และ ผอ.โรงพยาบาลวังวิเศษ ได้มอบกระเช้าผลไม้ให้ นางสุวพิชช์ คนละ 1 กระเช้า
จากนั้น นายธีรศักดิ์ ได้ให้ นางสุวพิชช์ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อหน้าคณะที่ไปด้วย เพื่อจะได้นำปัญหาไปปรับปรุงการให้บริการต่อไป โดยเฉพาะโรงพยาบาลวังวิเศษ ทั้งนี้ ปัญหาที่ผู้เสียหายเล่าให้ฟังคือ มีแพทย์หญิงคนหนึ่งพูดว่า ไม่น่าจะมารักษาที่นี้เลยทำให้เพิ่มภาระ เพราะเป็นผู้ป่วยมาจากที่อื่น และมา รพ.ก็เป็นเวลาดึกแล้ว ขณะที่พยาบาลพูดต่อหน้าคนจำนวนมากว่า ไปทำแท้งมาใช่ไหม และทำไมแพทย์ และพยาบาลจึงนอนหลับกันหมด ไม่มีใครอยู่เวรเลย หลังจากนั้น รองนายแพทย์ สสจ.ตรัง ได้ขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และจะนำปัญหาไปปรับปรุงการให้บริการของ รพ.วังวิเศษ พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบผู้ที่อยู่เวรทุกคนในคืนนั้น
รองนายแพทย์ สสจ.ตรัง กล่าวว่า ถึงแม้ นางสุวพิชช์ จะมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.รัษฎา แต่ไปรับจ้างกรีดยางที่ อ.วังวิเศษ ซึ่งกรณีเหตุฉุกเฉิน เช่น ปวดท้องคลอด ดังนั้น ทางโรงพยาบาลจะต้องรับการรักษาอยู่แล้วโดยที่จะไปปฏิเสธไม่ได้ รวมทั้งจะไปต่อว่าความไม่พร้อมของผู้ป่วยไม่ได้ ส่วนการพูดจาของพยาบาลก็อาจไม่เหมาะสม เช่น ถามว่าไปทำแท้งมาหรือ ทั้งๆ ที่ควรจะซักประวัติเป็นการส่วนตัว ไม่ใช่พูดต่อหน้าคนจำนวนมาก จนทำให้ผู้ป่วยได้รับความอับอาย ด้านคดีความนั้นเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สภ.วังวิเศษ ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นคงไม่ถึงกับเป็นการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ และจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกๆ ฝ่าย