xs
xsm
sm
md
lg

เดอะมอลล์กรุ๊ป ทุ่ม 2 หมื่นล้านผุด “บลูเพิร์ล” ภูเก็ต ดันเป็นไข่มุกเลอค่าที่สุดแห่งเอเชีย (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” พลิกประวัติศาสตร์ครั้งใหม่สยายปีกเข้าภูเก็ต ทุ่ม 20,000 ล้านบาท พัฒนาพื้นที่ 150 ไร่ ผุดโครงการ “บลูเพิร์ล” (BLÚ Pearl) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Grand Majestic Palace” เพื่อให้เป็น ไข่มุกอันเลอค่าที่สุดแห่งเอเชีย (The One and Only Precious Pearl of Asia) บนทำเลทองใจกลางเมืองภูเก็ต คาดเริ่มสร้างได้ปี 58

น.ส.ศุภลักษณ์ อัมพุช รองประธานกรรมการ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงการตัดสินใจเข้ามาลงทุนของ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด มีวิสัยทัศน์ และเป้าหมายในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางด้านธุรกิจการค้า และการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียน และของโลก ที่เพียบพร้อมไปด้วยย่านการค้า ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยว และบันเทิงที่ทันสมัย หลังจากบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการสร้างศูนย์การค้าสยามพารากอนให้เป็น “ปรากฏการณ์ค้าปลีกที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกและนำมาซึ่งความภาคภูมิใจของคนไทย” (The World Class Retail & Entertainment Phenomenon) มาแล้ว

ครั้งนี้ เดอะมอลล์ กรุ๊ป พร้อมแล้วที่จะสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่โดยขยายการลงทุนเข้ามาในพื้นที่ภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีความพร้อม และมีศักยภาพโดยเฉพาะการเปิดประชาคมอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 ซึ่งจะทำให้ภูเก็ตเป็นเพลย์กราวนด์แห่งหนึ่งของเซาท์อีสต์เอเชีย หรือเอเชีย รวมถึงการขยายสนามบินภูเก็ต และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการนำคนเข้ามา เช่น การเพิ่มหลุมจอดจาก 8 หลุม เป็น 15 หลุมจอด นอกจากนี้ ยังมีชาร์เตอร์ไฟลต์จากประเทศต่างๆ เข้ามาจำนวนมาก ประกอบกับภูเก็ตมีแหล่งธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา 12 ล้านคน เมื่อเทียบกับสิงคโปร์นับว่ามีจำนวนค่อนข้างมากเพราะเขาเป็นเกาะใหญ่มีนักท่องเที่ยวเพียง 15 ล้านคน แต่ภูเก็ตเป็นเกาะเล็กแต่มีนักท่องเที่ยวมากถึง 12 ล้านคน และมีแนวโน้มที่ตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะถึง 20 ล้านคน ในอีก 5 ปีข้างหน้า ขณะที่กำลังซื้อก็ดี อัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวก็มีเวลาพัก 5-7 วัน รวมทั้งมีความหลากหลายของนักท่องเที่ยว เช่น จีน รัสเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป สแกนดิเนเวีย มิดเดิลอีสต์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทางเดอะมอลล์ จึงตัดสินใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

น.ส.ศุภลักษณ์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า ทางเดอะมอลล์ กรุ๊ป มีวิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่นในการพัฒนาภูเก็ต ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเอเซีย ให้เป็น World Class Resort & Shopping Destination ด้วยอาณาจักรศูนย์การค้าที่มีระดับ โครงการ “บลูเพิร์ล”(BLÚ Pearl) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Grand Majestic Palace” เพื่อให้เป็นไข่มุกอันเลอค่าที่สุดแห่งเอเชีย (The One and Only Precious Pearl of Asia) บนทำเลที่ดีที่สุดกลางใจเมืองภูเก็ต เพียบพร้อมไปด้วยศูนย์รวมความบันเทิง Convention & Exhibition Center ขนาดใหญ่ทันสมัยที่สุดในภูเก็ต พร้อม Resort Hotel นอกจากนี้ ยังได้เตรียมสร้าง World Class Theme Park ที่ยิ่งใหญ่ และตระการตาบนเนื้อที่รวม 150 ไร่ พื้นที่โครงการกว่า 650,000 ตารางเมตร โดยมุ่งหวังให้โครงการ “บลูเพิร์ล” นี้เป็นไข่มุกอันเลอค่าแห่งภูเก็ต (The Pearl of Phuket) เป็นความภาคภูมิใจแห่งอันดามัน (The Pride of the Andaman) และที่สุดแห่งปรากฏการณ์ค้าปลีก และบันเทิงระดับโลกของเอเชีย(The World Class Luxury Retail and Entertainment Resort Destination in Asia)

ส่วนความคืบหน้าของโครงการในขณะนี้ แบบแปลนทุกอย่างใกล้จะเสร็จเรียบร้อย และมีการติดต่อประสานงานกับพันธมิตรผู้ค้าต่างๆ ซึ่งมีผู้สนใจ และการตอบรับที่ดีมาก ในส่วนของการก่อสร้างจะเริ่มลงมือได้ปี 2558 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี ที่ตั้งของโครงการอยู่จุดกลางเมืองภูเก็ต ใกล้กับโลตัสสามกอง ซึ่งปัจจุบันเป็นสวนมะพร้าว และพื้นที่ว่าง ฝั่งซ้ายมือทางไป อ.กะทู้ เนื้อที่ประมาณ 150 ไร่ สำหรับการลงทุนในส่วนของโครงการ “บลูเพิร์ล” ใช้งบประมาณในการลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่ โดยจะแบ่งการลงทุนเป็นเฟสๆ

น.ส.ศุภลักษณ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของรูปแบบของโครงการ “บลูเพิร์ล” แตกต่างจากห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งการลงทุนในส่วนนี้จะคล้ายๆ กับสมัยที่ลงทุนเอ็มโพเรียม ที่ยกระดับสุขุมวิทเป็นเวิลด์คลาสแห่งแรกของเมืองไทย จากนั้นก็มาลงทุนสยามพารากอน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ค้าปลีกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย และเราก็ต้องการพลิกภูเก็ต โดยใช้ชื่อโครงการว่า บลูเพิร์ล หมายถึงไข่มุกอันเลอค่าที่สุดของเอเชีย และเป็นเดอะ วันแอนด์โอลี่ แห่งเอเชีย ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป ตั้งไว้

ส่วนกลุ่มลูกค้านั้นมองไว้ทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ แต่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นนักท่องเที่ยว แต่ในส่วนของคนท้องถิ่นก็เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจาก “บลูเพิร์ล” มีปัจจัยที่มีความสำคัญหลายอย่างที่รองรับความต้องการของคนในท้องถิ่น เพราะภายในโครงการประกอบด้วยห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เกต และศูนย์ประชุม อื่นๆ ซึ่งจะยกระดับภูเก็ตให้เป็นเวิลด์คลาสรีสอร์ตเดสติเนชันอย่างแท้จริง ในส่วนของศูนย์ประชุมนั้นจะมีพื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร จุผู้เข้าร่วมหลายพันคน นอกจากนี้ ยังมีใส่วนของโรงแรมที่ผ่านมาทางเดอะมอลล์มีการบริหารศูนย์ประชุมมาแล้วหลายๆ แห่ง ทั้งในกรุงเทพ ฯ เช่น รอยัล พารากอนฮอลล์ ซึ่งจะมีเอ็กซิบิชันเกี่ยวกับการท่องเที่ยว กีฬา หรืออื่นๆ ที่สามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ เช่น การแสดงคอนเสิร์ต ซึ่งอยู่ระหว่างการวางแผนเชื่อว่าการเกิดขึ้นของโครงการ “บลูเพิร์ล” จะได้รับการตอบรับอย่างดีแน่นอน ซึ่งกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวก็ค่อนข้างดีมาก เพราะเป็นกำลังซื้อที่เกิดขึ้นทุกๆ 3-5 วัน ที่ ในขณะที่คนท้องถิ่นเองปัจจุบันก็มีสถานที่ไฮเอนด์ชอปปิ้งมอลล์ แทนที่จะต้องไปซื้อของที่สิงคโปร์ หรือฮ่องกง หรือกรุงเทพฯ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยยกระดับภูเก็ตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก

น.ส.ศุภลักษณ์ ยังได้กล่าวถึงเรื่องของการแข่งขัน ว่า ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาเดอะมอล์อก็เกิดหลังคนอื่นมาโดยตลอด ตั้งมาได้ประมาณ 30 ปี แต่เราก็ทำโครงการระดับเวิลด์คลาสจนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก เช่น สยามพารากอน ดังนั้น การมาก่อนมาหลังไม่ใช่เรื่องใหญ่ สิ่งที่สำคัญคือ โครงการที่ทำนั้นสุดยอดหรือไม่ โดดเด่น และดีขนาดไหน เช่น สยามพารากอน เปิดมาได้ 8-9 ปี ทุกอย่างก็ยังคงเวิลด์คลาส ซึ่งเรามั่นใจในศักยภาพของทีมงาน และพันธมิตรที่แข็งแกร่ง รวมทั้งขอความร่วมมือ และการสนับสนุนจากชาวภูเก็ตด้วย


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น