ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ 5 ฝ่าย สนธิกำลังกว่า 150 นาย เข้ารื้อถอน 6 สถานประกอบการรุกที่สาธารณะหาดในยาง หลังไม่ยอมรื้อเอง พร้อมแจ้งความดำเนินคดีอีก 7 คดี คาดแล้วเสร็จใน 1 สัปดาห์
เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (26 ก.ย.) ที่หาดในยาง ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายสุเมธ สุวรรณรัตน์ ปลัด อบต.สาคู พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองช่าง อบต.นำรถแบ็กโฮ จำนวน 2คัน เข้ารื้อถอนร้านค้า ร้านอาหาร และสถานประกอบการ 6 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สาธารณะหาดในยาง โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารเรือทัพเรือภาคที่ 3 นำโดย น.ท.พรพรหม สกุลเต็ม ฝ่ายเสนาธิการประจำกองเรือปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ฯ นำโดย นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า/หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ อาสาสมัครรักษาดินแดน และเจ้าหน้าที่ที่ดินภูเก็ตสาขาถลาง ร่วมสนธิกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 150 นาย เข้าทำการรื้อถอนสถานประกอบการ 6 แห่งที่เหลือ จากทั้งหมด 22 แห่ง โดย 6 แห่งที่ทำการรื้อถอนในวันนี้เป็นพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ และไม่ได้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล
สำหรับการรื้อถอนเริ่มขึ้นหลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ และแจ้งให้ร้านค้าสถานประกอบการที่ยังเปิดบริการขนย้ายทรัพย์สินทั้งหมดออกอย่างเร่งด่วน หลังที่ผ่านมา ทางองค์การบริหารส่วนตำบลสาคู มีการแจ้งให้ผู้ประกอบการรื้อถอนแล้ว แต่ยังไม่มีการรื้อถอน จึงต้องอาศัยตามอำนาจของกฎอัยการศึกของเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาบังคับใช้กฎหมาย ตามคำสั่งจัดระเบียบชายหาดจังหวัดเพื่อคืนพื้นที่สาธารณะตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทำให้มีผู้ประกอบการบางส่วนแสดงความไม่พอใจ
นายสุเมธ สุวรรณรัตน์ ปลัด อบต.สาคู กล่าวว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณะทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ปากบาง อยู่ระหว่างการออกเป็นพื้นที่ตามหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) ซึ่งผู้ประกอบการที่บุกรุกทั้งหมดมีจำนวน 22 ราย ใน 22 ราย ได้รับการยกเว้น 2 ราย เนื่องจากเป็นผู้ยากไร้ ไม่มีที่อยู่อาศัย คือ นายทวี เงินดี กับนายวัลลพ แซ่เล่า อีก 2 รายมีคำสั่งศาลลงวันที่ 25 ให้ชะลอการรื้อถอน อีก 7 ราย อยู่ระหว่างการฟ้องร้องต่อศาล กรณียื่นคัดค้านการออก นสล.ของที่ดินฯ จึงต้องเว้นไว้ก่อน ดั้งนั้น ที่จะต้องรื้อถอนในวันนี้จึงมีแค่ 11 ราย และใน 11 รายนี้ มีผู้ที่ยินยอมแล้ว 5 ราย โดย 5 รายนี้มีการรื้อถอนไปบ้างแล้วบางส่วนจนเหลือแต่โครงสร้างอาคารที่จะให้ อบต.เข้ามาดำเนินการรื้อถอนให้ ส่วนอีก 6 รายที่เหลือ เป็นกลุ่มที่ต้องการสู้คดี ทาง อบต.จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร อุทยานฯ ป่าไม้ และที่ดิน จึงต้องแจ้งความดำเนินคดี และเข้าทำการรื้อถอนในวันนี้ โดยคาดว่าจะใช้เวลารื้อถอนทั้งหมดภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบตามนโยบายจังหวัด ขณะนี้ อบต.กำลังทำการดสำรวจรายชื่อโดยประกาศให้ผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมดไปลงทะเบียนไว้ที่ อบต.ก่อนจะหาแนวทางร่วมกับอำเภอถลาง และจังหวัดว่าจะเยียวยาด้วยวิธีการใด
ทั้งนี้ ผู้บุกรุกพื้นที่สาธารณะหาดในยางทั้งหมดแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก บุกรุกครอบครองโดยอ้าง ส.ค.1 เลขที่ 150 ของนายทวี เงินดี เนื้อที่ 10-2-41 ไร่ ปัจจุบันมีผู้ครอบครอง จำนวน 14 ราย ส่วนกลุ่มที่ 2 อ้าง ส.ค.1 เลขที่ 287 ครอบครองที่ดินเนื้อที่ 9 ไร่ และ สค.1 เลขที่ 194 ครอบครองที่ดินเนื้อที่ 2 ไร่เศษ ซึ่งเป็นของนายแดง หลาวล่าง โดย ส.ค.1 เลขที่ 287 ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ส่วน ส.ค.1 เลขที่ 194 ศาลได้มีคำพิพากษาให้นายแดง หลาวล่าง มีสิทธิเหนือที่ดินทำกิน และกลุ่มที่ 3 บุกรุกครอบครองที่ดินโดยไม่มีเอกสารสิทธิซึ่งยอมรื้อถอนออกไปแล้ว
สำหรับพื้นที่ที่มีการบุกรุกบริเวณหาดในยางดังกล่าว อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ และพื้นที่สาธารณประโยชน์ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ มี อบต.สาคู และอำเภอถลาง เป็นผู้รับผิดชอบดูแลพื้นที่ดังกล่าว จากการตรวจสอบย้อนหลังของที่ดินพบว่า ใน ปี พ.ศ.2511 ก่อนการประกาศเขตอุทยานฯ ได้มีการประกาศเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์แหลมพิษ กับที่สาธารณประโยชน์ปากบาง มีเนื้อที่รวมประมาณ 700 กว่าไร่ ครอบคลุมไปถึงสนามบินภูเก็ต