ปัตตานี - ส่วนปกครองปัตตานี เปิดเวทีเสวนา “เปิดคน-เปิดความคิด-เปิดพื้นที่” แก้ปัญหาที่ดินทำกินชาวบ้านทับซ้อนพื้นที่อุทยานฯ บูโด-สุไหงปาดี พบที่ผ่านมา มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 14,409 ราย คิดเป็นเนื้อที่กว่า 105,084 ไร่ ด้าน ศอ.บต.หวังสามารถแก้ปัญหาได้อย่างสันติ
วันนี้ (17 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมเซาร์เทริน ปัตตานี นายวิทยา พานิชพงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดประชุมเวทีเสวนา “เปิดคน-เปิดความคิด-เปิดพื้นที่” ทางออกการแก้ไขปัญหาบูโด-สุไหงปาดี พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ และความเชี่ยวชาญเรื่องการแก้ปัญหาที่ดินบูโด-สุไหงปาดี นายดือราแม ดาราแม หรือชาวบ้านเรียก “เป๊าะจิ” ซึ่งเป็นปราชญ์ชาวบ้าน พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง อดีตประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินศูนย์อำนวยการขจัดความยากจน และพัฒนาชนบทตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และนายธนพร ศรียากูล อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และชาวบ้านประสบปัญหาความเดือดร้อนในเรื่องที่ดินทำกินหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี
นายวิทยา พานิชพงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า พื้นที่ที่ชาวบ้านประสบปัญหาความเดือดร้อนในเรื่องที่ดินทำกินหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ซึ่งมีชุมชนอาศัยทำกินมาดั้งเดิม มีฐานมัสยิด ตะโละมาเน๊าะ อายุประมาณ 150 ปี ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส มีส่วนผลไม้ดั้งเดิม มีต้นยาพาราที่ปลูก และตัดปลูกใหม่ทดแทนเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว ทำให้พื้นที่เขตอุทยานทับซ้อนที่ดินทำกินของประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 14,409 ราย คิดเป็นเนื้อที่กว่า 105,084 ไร่ ส่งผลทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด 9 อำเภอ 25 ตำบล 89 หมู่บ้าน
ซึ่งประชาชนก็ได้ต่อสู้ในการขอสิทธิทำกินคืน โดยการขอพิสูจน์สิทธิทำกินจากรัฐ ซึ่งถือเป็นความพยายาม และความร่วมมือจากภาครัฐ และภาคประชาสังคมที่จะร่วมกันแก้ไข และหาทางออกของปัญหา ตนขอชื่นชมในจุดยืนแห่งการต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิการทำกินคืนมา โดยจะเห็นว่าตั้งแต่พี่น้องเครือข่ายบูโด-สุไหงปาดี ได้ร่วมแรงร่วมใจในการทำงานกับ ศอ.บต. การบุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในแต่ละปีมีน้อยมาก ในแต่ละปีมีไม่ถึง 5 ราย ซึ่งเป็นที่น่าชื่นชมในสำนึกรักบ้านเกิดของพี่น้องเครือข่ายบูโดเป็นอย่างยิ่ง
ที่ผ่านมา จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาเรื่องการไม่ได้รับความเป็นธรรมของราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศเชิงนโยบายของรัฐ และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งที่ได้มีการหยิบยกมาพูดคุยในการสร้างสถานการณ์ ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินกรณีเขตอุทยานทับที่ทำกินของชาวบ้านแถบเทือกเขาบูโด เป็นเรื่องเรื้อรังมานาน หลายหน่วยงานพยายามที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาแต่ที่ผ่านมายังไม่บรรลุผลเท่าที่ควร
การจัดกิจกรรมเวทีเสวนาในครั้งนี้ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ กับประชาชน มักเกิดปัญหาในการทำงานร่วมกันนั้นเพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับกระบวนการทำงานซึ่งกันและกันในการทำงานแบบบูรณาการ จึงจำเป็นอย่างมากที่ทุกฝ่ายจะต้องหาแกนกลาง เพื่อเชื่อมต่อฐานความคิดให้ตรงกัน และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ละเพื่อจะได้นำประเด็นปัญหา และแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งในเชิงข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง คืนความสุข ความเป็นธรรม ให้แก่ประชาชนตลอดไป
ทั้งนี้ ทาง ศอ.บต. มีความมุ่งหวังที่จะให้เกิดเวทีกลางในการแสดงออกพูดคุยในการแก้ปัญหาอย่างสันติ มีการทำงานบูรณาการกันทั้งภาครัฐ และภาคประชาสังคม ตลอดถึง ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จังหวัดปัตตานี มีพื้นที่เป้าหมายตามโครงการในอำเภอกะพ้อ ซึ่งมีความก้าวหน้าไปได้ระดับหนึ่ง โดยในปี 2557 สามารถเดินสำรวจรังวัด ออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินให้ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศอย่างหนึ่งของการทำงานร่วมกันของทุกฝ่าย