จันทบุรี-ชาวบ้านตำบลแสลง จังหวัดจันทบุรี ร้องสื่อถนนสายชำโสม-คลองขวาง พังเป็นหลุมเป็นบ่อยาวกว่า 4 กิโลเมตร มานานกว่า 3 ปีแล้ว วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ หลังได้รับความเดือดร้อน และเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง
วันนี้ (15 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านตำบลแสลง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ว่า มีถนนสายชำโสม-คลองขวาง พังเป็นหลุมเป็นบ่อมานานกว่า 3 ปีแล้ว ขอให้ผู้สื่อข่าวเดินทางมาตรวจสอบ และช่วยเหลือชาวบ้านด้วย
หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตามที่ชาวบ้านแจ้งมา พบถนนสายชำโสม-คลองขวาง เป็นหลุมเป็นบ่อตลอดทั้งสาย ความยาวกว่า 4 กิโลเมตร จริงทำให้ชาวบ้านหมู่ที่ 4, 6 และหมู่ที่ 9 ได้รับความเดือดร้อนมานานกว่า 3 ปีแล้ว และยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปดำเนินการปรับปรุงให้ถนนสายนี้ดีขึ้นแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ในช่วงหน้าฝนทำให้การสัญจรผ่านไปมาเข้าออกหมู่บ้านชาวบ้าน นักเรียน หรือการนำผลผลิตออกไปขาย ชาวบ้านได้รับความลำบากมาก ต้องคอยหลบหลุมบ่อขับรถเลื้อยเป็นงู ประกอบกับถนนสายนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งในยามค่ำคืน เนื่องจากมองไม่เห็นหลุมบ่อ
ปัญหาดังกล่าวชาวบ้านได้มีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้งแล้ว แต่ก็ได้รับการตอบรับมาว่า ไม่มีงบประมาณในการเข้ามาดำเนินการปรับปรุง ชาวบ้านจึงต้องพึ่งสื่อให้ช่วยเหลือนำเสนอข่าวนี้เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาดำเนินการแก้ไขปรับปรุงต่อไป
นายวัฒนา โทบุตรดี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/22 หมู่ที่ 4 ตำบลแสลง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า ถนนสายนี้พังเป็นหลุมเป็นบ่อมานานหลายปีแล้ว ซึ่งตนเองใช้เส้นทางนี้อยู่เป็นประจำทำให้การสัญจรผ่านไปมาลำบาก
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบอกจะเข้ามาทำแต่ก็ยังไม่เห็นเข้ามาทำสักที ในส่วนนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาทำถนนใหม่ให้แก่ชาวบ้านด้วย เพราะชาวบ้านเดือดร้อนมานานแล้ว
น.ส.ธัญญานันท์ ชนิตพรชัยพงษ์ ชาวบ้านกล่าวว่า ถนนสายนี้พังเป็นหลุมเป็นบ่อนานมากแล้ว ทั้งนี้มีชาวบ้านได้เคยร้องเรียนไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ถนนก็ยังพังเป็นหลุมเป็นบ่อเหมือนเดิม ซึ่งปัจจุบันการสัญจรผ่านไปมาในการเข้าออกหมู่บ้านลำบากมากเพราะหลุมเยอะ และต้องคอยหลบหลุม
ทั้งนี้ ตนเองได้ประสบอุบัติเหตุกับถนนสายนี้มาแล้ว หลังจากได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหลุมจากนั้นรถก็เสียหลักตกไหล่ทาง และรถจักรยานยนต์ก็ล้ม เพราะถนนเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดเส้นทาง อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาแก้ไขปรับปรุงให้แก่ชาวบ้านด้วย
