ในช่วงประเพณีถือศีลกันผัก 9 วันของปีนี้ คือ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.-2 ต.ค.2557 ผู้ที่เข้าร่วมประเพณีอันดีงามนี้จะพร้อมใจกันปฏิบัติตนให้อยู่ในศีล 5 และรับประทานอาหารที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ แต่จะรับประทานอาหารที่ทำจากผักและแป้ง หรืออาหารเจ เพื่อละเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และร่วมกันสืบสานประเพณีอันดีงามของภูเก็ตที่สืบทอดกันมายาวนาน
อาหารที่ทำจากผักและแป้งหรือที่เราเรียกกันว่าอาหารเจนั้น ในภูเก็ตมีอยู่หลายร้านมาก ทั้งที่เป็นประเภทข้าวแกง และอาหารตามสั่ง ที่เปิดขายกันตลอดทั้งปี และยิ่งในช่วงเทศกาลถือศีลกินผักด้วยแล้ว ทั้งเมืองของภูเก็ตจะเต็มไปด้วยร้านอาหารเจ และโดยเฉพาะบริเวณตามหน้าศาลเจ้าต่างๆ แต่ที่ “เมนูเด็ดแดนใต้” อยากจะแนะนำให้ลองไปรับประทานกันที่ “ร้านอาหารเจกิ่งหลิว” เป็นร้านที่เปิดขายอาหารเจแบบตามสั่งตลอดทั้งปี
ร้านอาหารเจกิ่งหลิว เป็นร้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในตัวเมืองภูเก็ต บนถนนอ่องซิมผ่าย ตรงข้ามกับห้างโกรเซอรี่ หรือใกล้กับวงเวียนม้าน้ำ ร้านจะเปิดโล่งแบบโอเพ่นแอร์ มีบริการอาหารเจแบบนานาชาติ ที่ลูกค้าสามารถสั่งได้ทั้งอาหารไทย จีน ยุโรป และอีสาน รวมไปถึงเครื่องดื่มต่างๆ
“กนกนพ กตัญญู” หรือ คุณชมพู่ เจ้าของร้านอาหารเจกิ่งหลิว บอกว่า ร้านเปิดขายอาหารเจมาประมาณ 3 ปีแล้ว ครั้งแรกเปิดขายที่บริเวณอ่าวเก ในเขตเทศบาลเมืองภูเก็ต แล้วย้ายไปอยู่แถวๆดาวรุ่ง และย้ายมาเปิดที่ปัจจุบันได้ประมาณ 1 ปีแล้ว โดยก่อนหน้าที่จะเปิดร้านอาหารเจนั้น สามีเป็นกุ๊กอยู่โรงแรมแห่งหนึ่งในภูเก็ต ได้ลาออกมาเปิดร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ และในช่วงนั้นตนและครอบครัวได้ไปปฏิบัติธรรมและได้รับประทานอาหารเจอยู่บ่อยๆ และได้รับประทานอาหารเจตลอดทั้งปี จึงได้ตัดสินใจมาเปิดร้านขายอาหารเจดังกล่าว เพื่อความสะดวกของคนในครอบครัวเองและอยากให้คนที่รับประทานอาหารจะได้เลือกรับประทานอาหารเจที่หลากหลายขึ้น ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก โดยเฉพาะเมื่อย้ายมาเปิดขายในร้านปัจจุบัน
สำหรับอาหารเจของร้านกิ่งหลิวนั้น คุณชมพู่ บอกว่า เป็นร้านอาหารเจแบบนานาชาติ มีเมนูอาหารให้ลูกค้าเลือกรับประทานได้หลากหลายเมนูมาก ทั้งที่เป็นเมนูอาหารไทย อาหารจีน อาหารยุโรป และแม้กระทั่งอาหารอีสาน โดยทางร้านจะคัดสรรวัตถุดิบที่ดีและคุณภาพสูงมาปรุงอาหารเจให้กับลูกค้า วัตถุดิบบางอย่างก็ใช้ของที่ผลิตในต่างประเทศที่แปรรูปมาจากเห็ดมากกว่าที่ทำจากแป้ง ทั้งนี้เพราะทางร้านคำนึงสุขภาพของคนที่รับประทานอาหารเจด้วย รวมทั้งวัตถุดิบที่แปรรูปจากเห็ดรสชาติจะอร่อยกว่าที่ทำจากแป้ง
เมนูแนะนำของทางร้านที่ลูกค้าชอบและสั่งรับประทานบ่อยๆ คือ “ข้าวผัดแหนม” เป็นแหนมเห็ดที่ทางร้านทำเองโดยการนำเอาเห็ดนางฟ้ามาหมักรวมกับข้าวและวุ้นเส้นประมาณ 3 วัน แล้วนำแหนมมาพัดกับข้าวหอมมะลิอย่างดี ใส่แครอท ถั่วฝักยาว ขิง พริกขี้หนูสด เสิร์ฟพร้อมกับแหนมปั้นเป็นก้อนแล้วทอดให้เหลืองกรอบ รสชาติของข้าวผัดจะออกเปรี้ยวนิดๆ ส่วนตัวแหนมทอดนั้นก็จะออกเปรี้ยวๆ เหมือนแหนมทั่วๆไป เมนูนี้พลาดไม่สำหรับคนที่ชอบรับประทานแหนม ราคา 50 บาท
“ยำปลากรอบเจ” ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อของทางร้าน โดยทางร้านจะใช้ปลากะพงเจที่ทำจากเห็ดนำเข้ามาจากมาเลเซีย มาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปทอดจนเหลืองกรอบ มาคลุกเคล้ากับน้ำยำสามรส ที่มีทั้งเปรี้ยว เค็ม หวาน และเผ็ด พร้อมแครอทหั่นฝอย มะเขือเทศ พริกขี้หนูสด และโรยหน้าด้วยขึ้นฉ่าย เป็นอีกหนึ่งเมนูแซ่บๆ ที่พลาดไม่ได้ จานนี้ราคาอยู่ที่ 70 บาท
“สปาเก็ตตี้ซอสกระเพรากรอบ” เป็นเมนูเจที่ผสมผสานระหว่างอาหารไทยกับยุโรป จะได้รสชาติจัดจ้านตามสูตรผัดกระเพรา โดยทางร้านใช้หมูสับเจซึ่งเป็นหมูสับที่นำเข้ามาจากมาเลเซีย เนื่องจากเป็นหมูสับที่ทำจากเห็ดจะได้รสชาติที่อร่อยกว่าของไทยที่จะใช้แป้งเป็นส่วนผสมมากกว่าเห็ด มาผัดกระเพราคลุกเคล้ากับเส้นสปาเก็ตตี้ โรยหน้าด้วยกระเพรากรอบ ราคา 70 บาท
บอกแล้วว่าอาหารเจร้านนี้ เขานานาชาติจริงๆ มีให้เลือกรับประทานกันได้ตามชอบ มาที่ฝั่งอาหารยุโรปกันบ้าง ซึ่งเมนูที่ทางร้านอยากจะแนะนำและเป็นเมนูที่ลูกค้าสั่งกันบ่อยๆ คงหนีไม่พ้น “มักกะโรนีอบซีส”ใช้มักกะโรนีอบกับซีสนมสดพาสเจอร์ไรส์ (ถ้าคนที่รับประทานเจแต่ไม่ดื่มนมสดพาสเจอร์ไรส์ ทางร้านจะไม่แนะนำสำหรับเมนูนี้) อบออกมาร้อนๆ หอมกลุ่นด้วยกลิ่นซีส รับรองว่าวางช้อนไปลงแน่นอน จานนี้ 85 บาท
เมนูถัดไปเป็น “ปลาชุปแป้งทอด” ปรุงแต่งเมนูให้คล้ายๆกับฟิชแอนด์ชิฟ แต่จะไม่ได้เสิร์ฟมาพร้อมกับมันฝรั่งทอด ใช้เนื้อปลาเจมาหั่นเป็นชิ้นยาวๆ ชุปด้วยแป้งขนมปัง ทอดจนเหลืองกรอบนอกนุ่นใน เสิร์ฟมาพร้อมกับมายองเนสและซอสมะเขือเทศ จานนี้ทางร้านใช้ปลาเจที่สั่งมาจากมาเลเซียเช่นกัน เพราะเนื้อปลาที่ทำจากเห็ดเนื้อจะแน่นและหนึบนิดๆ ทานร้อนอร่อยจริงๆ
นี้เป็นเพียงบางส่วนของเมนูเจของร้านกิ่งหลิวเท่านั้น ทางร้านยังมีเมนูให้ลูกค้าสั่งรับประทานกันอีกหลายเมนูมากๆ เช่น ข้าวหมูแดงเจ เต้าหู้ปลาทอดเจ หมี่เหลืองผัด ต้นอ่อนทานตะวันผัดน้ำมันหอย ส้มตำไทย ส้มตำปลาร้า แหนมทอด ข้าวผัดอเมริกัน แกงเห็ดอีสาน แกงเลียง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกกันอีก เช่น บลูฮาวาย พีน่าดาลาด้า ฟรุ๊ตพลั้น แคสตาลูปปั่น เป็นต้น
คุณชมพู ฝากบอกว่า ในช่วงประเพณีถือศีลกินผักวันที่ 24 ก.ย.- 2 ต.ค.557 นี้ ทางร้านจะเพิ่มในส่วนของข้าวราดแกงมาด้วย โดยจะเปิดขายตั้งแต่เวลา 08.00 - 12.00 น. หลังจากนั้นก็จะเป็นอาหารตามสั่ง และเปิดให้ลูกค้าโทรมาสั่งอาหารได้ล่วงหน้าเพื่อไม่ต้องมารอนานอีกด้วย
ร้านอาหารเจกิ่งหลิวจะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 - 22.00 น. สั่งจองโต๊ะและอาหารได้หมายเลขโทรศัพท์ 076-212898 การเดินทางมาสะดวกสบายเพราะร้านตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต อยู่บนถนนอ่องซิมผ่าย ตรงข้ามกับห้างโกรเซอรี่ ใกล้ๆ กับวงเวียนม้าน้ำ ถ้ามาจากสี่แยกบางเหนียว ก็จะผ่านสามแยกตลาดเกษตร ขับไปประมาณ 200 เมตรก็จะถึงร้าน โดยร้านจะอยู่ก่อนเข้าวงเวียนม้าน้ำ
กินผักปีนี้ หรือสำหรับคนที่รับประทานอาหารเจตลอด ก็ลองแวะไปลิ้มชิมรสอาหารเจอร่อยๆของร้านอาหารเจกิ่งหลิว รับรองจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน